ป.ป.ช. 20 ก.พ.-ป.ป.ช. จับแล้ว “สุธี เชื่อมไธสง” จำเลยที่ 16 ในคดีระบายข้าว จีทูจี สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ส่งตัวรับโทษจำคุก 32 ปี และร่วมชดใช้เงินรวม 16,912,128,273.66 บาท พร้อมดอกเบี้ย
นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เผยว่า พนักงานเจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 1 และภาค 4 ประสานเจ้าพนักงานตำรวจ กองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 จับกุมนายสุธี เชื่อมไธสง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ 20/2562 ลงวันที่ 28 พฤษภาคม 2562 ผู้ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก 32 ปี ในคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ในยุครัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งศาลได้พิพากษาว่า นายสุธี เชื่อมไธสง จำเลยที่ 16 มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4 วรรคหนึ่ง , 10 , 12 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 (เดิม) ประกอบมาตรา 86 อันเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้เรียงกระทงลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 จำคุกกระทงละ 8 ปี รวม 4 กระทง เป็นจำคุก 32 ปี และร่วมชดใช้เงินรวม 16,912,128,273.66 บาท พร้อมดอกเบี้ย
อีกทั้งนายสุธี เชื่อมไธสง ยังเป็นผู้ถูกกล่าวหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ที่ 20/2565 ลงวันที่ 28 ตุลาคม 2565 ในความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4 มาตรา 10 และมาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 8 และมาตรา 11 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 123/1 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2563 มาตรา 192 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86
พนักงานเจ้าหน้าที่ ได้สืบสวนติดตามตัวนายสุธี เชื่อมไธสง มาตั้งแต่ปี 2558 รวมระยะเวลา 10 ปี จนกระทั่งสืบสวนได้ว่านายสุธี หลบหนีมาอยู่กับภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ในพื้นที่หมู่ที่ 7 บ้านหนองกรุงศรี ตำบลหนองไผ่ล้อม อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกับเจ้าพนักงานตำรวจขอหมายค้นต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 เพื่อค้นบ้านภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสของนายสุธี ภายในหมู่ที่ 7 บ้านหนองกรุงศรี ตำบลหนองไผ่ล้อม อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น ในการปฏิบัติการค้น พบตัวนายสุธี เชื่อมไธสง หลบซ่อนตัวอยู่ที่บริเวณดงกล้วยหลังบ้านตามหมายค้น จึงได้เข้าจับและควบคุมตัวไว้ พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายสุธี เชื่อมไธสง จัดทำบันทึกจับกุม และดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 และเอกสารที่เกี่ยวข้อง และส่งตัวให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อจำคุกผู้ต้องหาตามคำพิพากษาต่อไป.-314.-สำนักข่าวไทย