“ชูศักดิ์” ย้ำเร่งร่างข้อหาฟ้องกลับ “ธีรยุทธ”

ทำเนียบ 26 พ.ย.- “ชูศักดิ์” ย้ำ อยู่ระหว่างร่างข้อหา ฟ้องกลับ “ธีรยุทธ” ชี้เป็นข้อกล่าวหาร้ายแรง เปรียบเหมือนกบฏ


นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยที่เตรียมฟ้องกลับนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความอิสระ ที่ยื่น 6 คำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยหยุดการกระทำของนายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพ อันจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิบไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 49 ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ เนื่องจากการยื่นฟ้อง จะต้องดูข้อเท็จจริง ซึ่งต้องดูให้รอบคอบ โดยข้อกล่าวหา ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่า จะฟ้องหมิ่นประมาทหรือไม่ และจะฟ้องในฐานใด ส่วนจะฟ้องใครเพิ่มเติมหรือไม่ ก็กำลังพิจารณาอยู่

ส่วนที่มีการมองว่าพรรคเพื่อไทย เป็นพรรคสาธารณะ ดังนั้นการจะฟ้องร้องใครจะมีบรรทัดฐานอย่างไร นายชูศักดิ์ ระบุว่า ในทางหลักสากล โดยเฉพาะความเห็นส่วนตัว หากเป็นเรื่องการติชมด้วยความเป็นธรรม มีลักษณะให้ความเห็นในสังคม ถือว่า รับได้ไม่มีปัญหา แต่หากเป็นลักษณะในการใส่ร้าย บิดเบือนข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายเป็นการไปกล่าวหาว่า ทุจริต ทั้งที่ตนเองไม่ได้ทำ ก็ต้องมีหลักฐาน เช่นเดียวกันกับ การกล่าวหาว่า ล้มล้างการปกครอง ว่ามีหลักฐานอย่างไร ซึ่งหากไปดูข้อหาล้มล้างการปกครอง ก็ถือว่าเป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรง ซึ่งเท่ากับกบฏ ถือว่าเป็นสิ่งที่ร้ายแรง ดังนั้นเมื่อการกระทำของเราไม่ใช่ แต่มีการปรับแต่งข้อเท็จจริง จึงมีความจำเป็นจะต้องฟ้องกลับ ซึ่งทางพรรคก็จะดูเจตนาเป็นหลัก และจะดูในเรื่องของพยานหลักฐานควบคู่กันไป


“หากบิดเบือนข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย ตนเองเคยบอกแล้วว่า ล้มล้างการปกครอง เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย เท่ากับกบฏในอดีตเลยนะ แต่ว่าเขาไปทำอะไรกัน ทั้งที่ไปคุยกัน และให้คำปรึกษา ดังนั้นศาลฯ จึงมีมติเป็นศูนย์ว่า ไม่ใช่การล้มล้างการปกครอง ไอ้แบบนี้ จึงควรจะใช้ดุลยพินิจพิจารณาได้ว่า แบบนี้ไม่ไหวเกินไปนะ ก็ดูตรงนี้ แต่หากใครติชม หรือสื่อติชม พรรคการเมืองตรงนั้นตรงนี้ โดยสุจริต โดยทั่วไป ก็เป็นเรื่องธรรมดา” นายชูศักดิ์ กล่าว

ขณะที่ความคืบหน้าคดียุบพรรคเพื่อไทย คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ได้เชิญให้เข้าไปให้ข้อมูลแล้วหรือไม่ นายชูศักดิ์ ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีมีการเชิญ หรือส่งเอกสารใด ๆ มายังพรรคเพื่อไทย

ส่วนร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมของพรรคเพื่อไทย แล้วเสร็จหรือยัง นายชูศักดิ์กล่าวว่า ขณะนี้กำลังทำทั้งหมด อาจจะมีการเสนอร่างในวันที่ 12 ธันวาคม ซึ่งวันเป็นวันเปิดสมัยประชุมสภาราษฎร เพื่อประกบอีก 4 ร่างของพรรคอื่น พร้อมย้ำว่าจะไม่มีการนิรโทษกรรมมาตรา 112 .(-315) -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย