“วราวุธ” วางแผน พม. ช่วยกลุ่มเปราะบาง

กทม. 13 ก.ย.-“วราวุธ” วางแผน พม. ช่วยกลุ่มเปราะบาง ส่งนักสังคมสงเคราะห์-สหวิชาชีพเยียวยา ขอบคุณภาคเอกชน-เครือข่าย มอบน้ำดื่ม เครื่องอุปโภคบริโภค ไม้เท้า ผ้าอ้อมสำเร็จรูป สุขาเคลื่อนที่ ส่งช่วยเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานการให้ความช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง จากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในสถานการณ์ภัยพิบัติ ช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม – 12 กันยายน 2567 พบว่า มีพื้นที่ 28 จังหวัด คือ เชียงราย พิษณุโลก อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา นครสวรรค์ ตาก ปราจีนบุรี หนองคาย สุโขทัย แพร่ เชียงใหม่ เพชรบูรณ์ เลย อุดรธานี ลำปาง หนองบัวลำภู อุตรดิตถ์ แม่ฮ่องสอน น่าน นครศรีธรรมราช ภูเก็ต ยะลา ระยอง พะเยา พังงา ตรัง สตูล และลำพูน จำนวน 92 อำเภอ 372 ตำบล 1,698 หมู่บ้าน 55,167 ครัวเรือน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยพิบัติ


โดยมีประชาชนเฉพาะที่เป็นกลุ่มเปราะบางได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยพิบัติ จำนวน 48,110 ครัวเรือน 56,110 ราย แบ่งเด็ก 7,400 ราย เยาวชน 5,391 ราย คนพิการ 9,912 ราย ผู้สูงอายุ 29,092 ราย และผู้มีรายได้น้อย 5,168 ราย ซึ่งประชาชนกลุ่มเปราะบางได้รับความช่วยเหลือแล้ว รวม 8,068 ราย แบ่งเป็นเงินสงเคราะห์ต่างๆ 5,337 ครอบครัว การให้คำปรึกษาแนะนำเรื่องสิทธิสวัสดิการต่างๆ 2,675 คน เรื่องที่อยู่อาศัย 50 ราย และการกำพร้า 6 ราย

นอกจากนี้ มีการมอบเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นให้แก่ผู้ประสบภัย โดยเป็นความร่วมกับภาคเอกชน ได้แก่ 1) ข้าวกล่อง 163,500 กล่อง 2) น้ำดื่มเนสท์เล่ 237,600 ขวด ซึ่งทางศูนย์รับบริจาคกระทรวง พม. ส่งมอบไปให้จังหวัดน่าน เชียงราย แพร่ และพะเยา 3) เครื่องอุปโภคบริโภคของกระทรวง พม. ร่วมกับหน่วยงานภายนอก 8,990 ชุด 4) ของใช้เฉพาะตามกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 24 ชุด เช่น ไม้เท้า,ผ้าอ้อมสำเร็จรูป,สุขาเคลื่อนที่


อีกทั้งมีการตั้งโรงครัว จำนวน 17 โรงครัว ได้แก่ จังหวัดน่าน 3 แห่ง แพร่ 1 แห่ง พะเยา 2 แห่ง สุโขทัย 2 แห่ง เชียงราย 7 แห่ง และเชียงใหม่ 2 แห่ง)

นายวราวุธ กล่าวว่า ขณะนี้เกิดสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่มที่น่าเป็นห่วงในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและจังหวัดเชียงใหม่ โดยจังหวัดเชียงรายนั้น มีประชาชนที่ได้รับผลกระทบจำนวน 19,499 ครัวเรือน ซึ่งกระทรวง พม. ได้เข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัย ได้แก่ 1.ติดตามสถานการณ์และสนับสนุนการดำเนินงานช่วยเหลือร่วมกับกับจังหวัด 2.ร่วมปฏิบัติการกับศูนย์บัญชาการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมรวบรวมข้อมูลสภาพปัญหา ความต้องการและประสานการช่วยเหลือในภาวะวิกฤติเร่งด่วนตลอด 24 ชั่วโมง

และ 3.จัดเตรียมศูนย์พักพิงชั่วคราว กระทรวง พม. ทั้งหมด 7 แห่ง รองรับ 310 คน ได้แก่ ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูง จ.เชียงราย รองรับ 60 คน บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.เชียงราย รองรับ 30 คน ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัว จ.เชียงราย รองรับ 60 คน ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.เชียงราย รองรับ 10 คน โครงการบ้านเอื้ออาทร จ.เชียงราย 3 แห่ง ได้แก่ 1. ริมกก รองรับ 50 คน 2. แม่สาย รองรับ 50 คน และ 3. แม่สาย 2 รองรับ 50 คน อีกทั้งมีการตั้งโรงครัว จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ โครงการบ้านเอื้ออาทรจังหวัดเชียงราย (แม่สาย 1 และแม่สาย 2) จำนวน 1 แห่ง และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน จำนวน 2 แห่ง


นอกจากนี้ มีการลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือพร้อมให้กำลังใจ และส่งมอบสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น เพื่อช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย และให้คำแนะนำด้านการดูแลเด็ก คนพิการ และผู้สูงอายุ ตลอดจนประสานอำนวยการในการเดินทางไปพบแพทย์ตามนัด

นายวราวุธ กล่าวว่า สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ มีประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 2,928 ครัวเรือน ซึ่งกระทรวง พม. ได้เข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัย 1) ติดตามสถานการณ์และสนับสนุนการกิจของศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด และอำเภอ 2) สนับสนุนการตั้งครัวสนามเคลื่อนที่ ใน อ.ฝาง และ อ.แม่อาย 3) ลงพื้นที่เยี่ยมเด็กที่รักษาตัวในโรงพยาบาล และให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิต อ.แม่อาย 4) ระดมทรัพยากรในการให้ความช่วยเหลือในระยะเร่งด่วน ได้แก่ น้ำดื่ม จำนวน 1,000 แพ็ค ถุงยังชีพ 320 ถุง มอบให้ผู้ประสบภัยพื้นที่ อ.ฝาง และ อ.แม่อาย 5) สำรวจข้อมูลผู้ประสบภัย เพื่อช่วยเหลือเป็นเงินสงเคราะห์ และพื้นที่เยี่ยมบ้าน ผู้ประสบภัย พร้อมจัดทำข้อมูลกลุ่มเปราะบางเป็นรายครัวเรือนในระบบ พม. Smart และ MSO – Logbook เพื่อวางแผนการดำเนินการช่วยเหลือร่วมกับทีมสหวิชาชีพในพื้นที่ 6) เตรียมความพร้อมทีมงานและอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ในการประสานงานการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหา กรณีฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมง 7) ประชาสัมพันธ์แนวทางการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในระยะฟื้นฟู และ 8) เตรียมความพร้อมในการตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว กระทรวง พม. จำนวน 4 แห่ง รองรับ 170 คน ได้แก่ สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านเชียงใหม่ รองรับ 50 คน บ้านเอื้ออาทร (หนองหาร – สันทราย) รองรับ 50 คน บ้านเอื้ออาทร (สันผีเสื้อ) รองรับ 50 คน และ สถานสงเคราะห์เด็กบ้านเวียงพิงค์เชียงใหม่ รองรับ 20 คน

นายวราวุธ ยังกล่าวขอบคุณทุกหน่วยงาน ทุกภาคส่วนทั้งหน่วยงานรัฐ ภาคธุรกิจเอกชน และประชาชนทั่วไป ที่ร่วมมือร่วมใจกันสนับสนุนสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ผ่านทางกระทรวง พม. เพื่อนำไปมอบให้กับพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยที่ได้รับผลกระทบความเดือดร้อนอย่างหนัก อาทิ มูลนิธิวีวีแชร์ ร่วมกับบริษัทเซฟแคร์ส จำกัด บริจาคอาหารแช่แข็ง โจ๊กแช่แข็ง จำนวน 5,280 กล่อง มูลค่า 142,718 บาท เพื่อจัดส่งไปยังจังหวัดแพร่ พะเยา เชียงราย , มูลนิธิ We Love U บริจาคเครื่องอุปโภคบริโภคมูลค่า 74,226 บาท บริจาคข้าวสาร จำนวน 250 ถุง น้ำมันพืช 360 ขวด บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 4,000 ซอง บริษัทเนสท์เล่(ไทย)จำกัด บริจาคน้ำดื่มจำนวน 19,800 แพ็ค มูลค่า 1,227,600 บาท เพื่อส่งไปยังจังหวัดแพร่ พะเยา เชียงราย น่าน

ทั้งนี้ กระทรวง พม. ดำเนินการจัดส่งไปให้ถึงมือพี่น้องประชาชน และยังมีบางส่วนที่กำลังเตรียมจัดส่งไปให้ในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม หากพี่น้องประชาชนประสบปัญหาความเดือดร้อน ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน ขอให้โทรมาที่ ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) ผ่าน สายด่วน พม. โทร. 1300.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]