ดีเอสไอแถลงจับกุม “ชนินทร์“ ผู้ต้องหาคดีหุ้น STARK

23 มิ.ย. – ดีเอสไอแถลงจับกุม “ชนินทร์“ ผู้ต้องหาคดีหุ้น STARK จากดูไบ เผยเบื้องหลังประสานทางลับกว่า 8 เดือน แจงขั้นตอนนำตัวฟ้องศาล 24 มิ.ย.นี้


นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาการอธิบดีดีเอสไอ ร่วมแถลงข่าวการจับกุมตัวนายชนินทร์ อดีตผู้บริหารบริษัท สตาร์ค และผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงหุ้น ที่ประตู 10 ชั้น 2 สนามบินสุวรรณภูมิ

นายจักรพงษ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้เร่งดำเนินการตั้งแต่เดือนตุลาคม เพื่อนำตัวกลับมาดำเนินคดีให้ได้ กระทั่งวันนี้ (23 มิ.ย.) นำตัวกลับมาได้แล้ว ใช้เวลากว่า 8 เดือน ตั้งแต่กระบวนการหาตัว หลบหนีไปที่ไหน อยู่ประเทศใดบ้าง มีการดำเนินการอย่างละเอียดอ่อน เพราะเกี่ยวกับเรื่องต่างประเทศด้วย เป็นความร่วมมือหลายหน่วยงาน กระทรวงยุติธรรม ดีเอสไอ กระทรวงการต่างประเทศ กลต. อัยการสูงสุด กรณีนี้จะเป็นบทเรียนสำคัญต่อตลาดทุนไทยที่ ก.ล.ต. จะนำไปปรับปรุงเรื่องการดำเนินการให้โปร่งใสและตรวจสอบได้ของตลาดทุนไทย


ทั้งนี้ บริษัท สตาร์ค ได้รับความสนใจในวงกว้าง บริษัทมีการทุจริตกลางปี 2566 นายชนินทร์ ได้หลบหนีไปในช่วงเวลานั้น เดือนกันยายน ช่วงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เข้ามาบริหารประเทศ หยิบยกเรื่องนี้มามอบหมายให้ตนในขณะดำรงตำแหน่ง รมช.ต่างประเทศ ให้ดำเนินการอย่างเป็นความลับ เพื่อนำตัวนายชนินทร์ กลับมาไทยโดยเร็วที่สุด คดีนี้ส่งผลกระทบต่อนักลงทุน เป็นกรณีที่ประชาชนให้ความสนใจ เป็นภาพลักษณ์ไม่ดีต่อตลาดทุนของไทย

นายจักรพงษ์ เปิดเผยว่า ตนเคยเดินทางไปยูเออี 2 รอบ เพื่อติดตามเรื่องนี้ เพราะทราบดีว่ามีความยากลำบากเรื่องการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน โดยนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเรื่องนี้มาก จึงได้เดินทางเป็นการส่วนตัวถึง 2 ครั้ง เพื่อแจ้งกับรัฐบาลยูเออีว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก

นายจักรพงษ์ กล่าวว่า สำหรับกระบวนการหลังจากนี้จะนำตัวนายชนินทร์ ไปดีเอสไอ การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นภารกิจลับ ได้มีการพูดคุยกับหน่วยงานราชการของดูไบ ช่วยอำนวยความสะดวกส่งข้อมูลกลับมา และทางดีเอสไอได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปดูไบ เพื่อนำตัวนายชนินทร์ กลับมา ทั้งนี้ ได้มีการพูดคุยเบื้องต้นกับนายชนินทร์ โดยนายชนินทร์ ได้ร้องขอเรื่องความยุติธรรมและความปลอดภัย ซึ่งนายชนินทร์ มีความห่วงเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากตอนอยู่ต่างประเทศโดนคุกคามเหมือนกัน


ทั้งนี้ ด้วยหลักฐานที่มีทั้งหมดจะสามารถกล่าวโทษเอาผิด เอาเงินมาคืนให้กับผู้เสียหายได้หรือไม่ นายจักรพงษ์ กล่าวว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ขอให้ไปสอบถามกับดีเอสไอ ซึ่งช่วงบ่ายวันเดียวกัน ทางดีเอสไอจะให้รายละเอียดเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม การที่มาแถลงเพื่อทำให้ประชาชนมั่นใจว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการทุจริตคอร์รัปชัน และเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องนำตัวผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้เร็วที่สุด

นายจักรพงษ์ เปิดเผยอีกว่า สำหรับการใช้ชีวิตของนายชนินทร์ ไม่ได้ใช้ชีวิตตามปกติ แต่ใช้วิธีการถือพาสปอร์ตนักท่องเที่ยว ส่วนใครให้ความช่วยเหลือขณะอยู่ต่างประเทศนั้น ตนไม่ทราบ คงจะต้องสอบสวนกันต่อไป

ด้าน พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวถึงกระบวนการหลังจากนี้ว่าจะนำตัวผู้ต้องหาไปพบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา แจ้งสิทธิที่ผู้ต้องหาสามารถพบทนายได้ มีสิทธิได้รับการเข้าเยี่ยมตามกฎหมาย จากนั้นจะพิมพ์มือ ควบคุมตัว ก่อนจะนำส่งอัยการ ในช่วงบ่ายวันที่ 24 มิ.ย.นี้ ซึ่งพนักงานสอบสวนมีสิทธิคัดค้านการประกันตัว แต่อำนาจการพิจารณาอยู่ที่ศาล

ด้านนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การนำตัวนายชนินทร์ กลับมายังประเทศไทยถือเป็นอาชญากรทางเศรษฐกิจที่สามารถนำกลับเข้ามาได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ และเป็นการดำเนินการตามคำสั่งของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ได้สั่งการตั้งแต่เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีใหม่ๆ ช่วงเดือน ต.ค. 2566

นายเรืองศักดิ์ สุขเสียงศรี ทนายความของนายชนินทร์ เย็นสุดใจ ให้สัมภาษณ์ว่า นายชนินทร์ ไม่ได้อยากหนีเลย และอยากกลับประเทศไทยเพื่อมาสู้คดี แล้วที่ลือกันว่ามีเงิน 8,000 ล้านบาท ส่งไปที่อังกฤษ ไม่เป็นความจริงเลย ที่มาวันนี้มีการออกข่าวว่าจับตัวนายชนินทร์มา แต่ที่ตนรู้นายชนินทร์ต้องการกลับบ้าน น่าจะมีข้อตกลงว่าขอกลับบ้านมากกว่าการจับกุม เพราะที่ดูไบนักโทษหนีคดีอยู่เยอะ ถ้าดีเอสไอหรือตำรวจจะไปจับก็จับได้ทั้งนั้น เขาน่าจะมอบตัวมากกว่าเพื่อกลับมาสู้คดี เพราะทุกอย่างในคดีมาลงนายชนินทร์ทั้งหมดเลย

“ตนเคยไปดูสำนวนทุกคนบอกนายชนินทร์ทำผิดทั้งนั้นเลย ตนยังสงสัยถ้านายชนินทร์ทำผิดจริง มีบางคนทำผิดแบบนายชนินทร์ ทำไมสั่งไม่ฟ้อง แต่ทำไมมาฟ้องนายชนินทร์ เงินบางคนสุจริต นายชนินทร์ไม่สุจริตหรือ ทำอะไรให้มันมาตรฐานเหมือนกัน” นายเรืองศักดิ์ กล่าว

นายเรืองศักดิ์ กล่าวต่อว่า นายชนินทร์ไม่มีความกังวลอะไรเลย ก็คุยกันปกติ ว่าเจอกันที่เมืองไทย แล้วที่สังเกตเดินออกมา ถ้าเป็นคนกังวลจะมากกว่านี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายชนินทร์ ถูกคุกคามอย่างไร นายเรืองศักดิ์ กล่าวว่า มีการถูกคุกคามจากที่ไหน ตนไม่ทราบเรื่องส่วนตัว แต่ได้ข่าวนายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ที่โดนจับไปก่อนแล้ว ให้การว่าถูกคุกคามเอาชีวิต นายชนินทร์ก็น่าจะโดนเหมือนกัน ถึงได้ออกไปต่างประเทศ

นายเรืองศักดิ์ กล่าวถึงเรื่องการประกันตัวว่า เป็นเรื่องกะทันหัน จึงยังไม่ได้เตรียมหลักทรัพย์ จะทำตามขั้นตอนระเบียบของศาลทุกอย่าง ไม่ได้มีเจตนาจะฝ่าฝืนคำสั่งศาล หากศาลจะสั่งอย่างไรก็ยอมรับสภาพอยู่แล้ว

ทั้งนี้ ที่นายชนินทร์หลบหนีไปก่อนหน้านี้ ทางทนายให้คำปรึกษาอย่างไร นายเรืองศักดิ์ กล่าวว่า เขาไม่ได้บอกกับตน แต่พูดกับครอบครัวเขา แต่จริงๆ ตนจะบอกว่าไม่ควรจะหนี เพราะไม่ได้ทำความผิด และนายชนินทร์ไม่ใช้โทรศัพท์ติดต่อเลย

นายเรืองศักดิ์ ยอมรับว่า ทุกคดีหนักใจทั้งนั้น แต่เชื่อในความยุติธรรมของศาล ส่วนระเบียบขั้นตอนการประกันตัว ไม่แน่ใจว่าศาลจะให้หรือไม่ เพราะทุกคนที่โดนจับก่อนหน้านี้ไม่ได้รับการประกันตัว จะปฏิบัติตามระเบียบของศาลทุกอย่าง

ทั้งนี้ นายชนินทร์ ร้องขอความเป็นธรรมอะไรบ้าง นายเรืองศักดิ์ กล่าวว่า ในระหว่างที่นายชนินทร์อยู่ต่างประเทศได้ส่งคำร้องให้ตนไปยื่นที่ดีเอสไปและอัยการ แต่ได้รับคำตอบว่าตัวนายชนินทร์ไม่อยู่จะรับเรื่องไว้เฉยๆ โดยเนื้อหาคำร้องปฏิเสธว่าไม่ได้ทำความผิด ได้ให้ข้อเท็จจริงทุกอย่าง เส้นทางการเงิน อำนาจต่างๆ ในการบริหารบริษัท STARK ก็ชี้แจงไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ พร้อมกับยืนยันว่าในคดีนี้มีช่องทางต่อสู้คดีอยู่แล้ว แต่ขอตั้งคำถามว่าทำไมบางคนไม่โดนฟ้องข้อหาเดียวกัน ความผิดเดียวกัน เส้นทางการเงินเหมือนกัน ทำไมบางคนไม่โดนฟ้อง แต่บางคนโดนสั่งฟ้อง ข้อเท็จจริงต้องมี เพราะการสั่งไม่ฟ้องก็ต้องมีเหตุผล ก็จะเอาข้อเท็จจริงนั้นมาต่อสู้คดี

“อยากฝากถึงทุกคนที่อยู่ในกระบวนการสอบสวนสืบสวน ขอให้ความเป็นธรรมด้วย ในชั้นอัยการก็เช่นกัน ถ้าเห็นเหตุผลของนายชนินทร์ที่ยื่นเข้าไป ถ้าสมควรสั่งไม่ฟ้องได้ก็สมควรจะสั่งไม่ฟ้อง แต่ถ้าฟ้องก็จะต่อสู้คดี อันนี้ก็แล้วแต่ศาลจะพิจารณา” นายเรืองศักดิ์ กล่าว.-312-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนเหนือ-กลาง-ตะวันออก ฝนตกหนักบางแห่ง กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และเชียงราย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และเชียงราย ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย