fbpx

ก้าวไกล ไม่หมดหวัง​ ลุ้นศาล รธน.​เรียกไต่สวน

รัฐสภา 12 มิ.ย.- ก้าวไกล​ ไม่หมดหวัง​ ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญ​เรียกไต่สวน​ เหตุวันนี้ยื่น​หลักฐานประธานกกต. ยอมรับข้ามขั้นตอน​ระเบียบตัวเอง​ ลั่น​ ยังมั่นใจลูกพรรคไม่ต้องเช็กชื่อ​ หลังสะพัดเตรียมไหลออก​ บอก​ ไม่เสียขวัญ​ ยังมีช่องสู้​หลัง “พิธา” แถลง


นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล​ กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ​ขอให้เรียกบัญชีรายชื่อพยานหลักฐานคดียุบพรรคก้าวไกลจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง​ หรือ​ กกต. แต่ไม่ได้ขอหลักฐานเพิ่มเติมจากพรรคก้าวไกล​ ว่า​ ขณะนี้ยังสรุปว่า ยังเรียกเอกสารจากพรรคเข้าก้าวไกลไม่ได้ โดยหลังจากที่พรรคก้าวไกล ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาไปแล้ว ทางฝ่ายกฎหมายของพรรคได้ยื่นบัญชีพยานเพิ่มเติม และยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวน ซึ่งศาลยังไม่ได้พิจารณาเรื่องนี้​ วันนี้บอกเพียงให้ศาลรัฐธรรมนูญไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อมาประกอบใช้ในการพิจารณาคดี จึงยังหวังว่าศาลจะเปิดให้มีการไต่สวน เพราะก่อนหน้านี้ กกต.ได้ยื่น บัญชีพยานหลักฐาน รวมถึงพยานบุคคล ไปให้ศาลรัฐธรรมนูญหมดแล้ว จึงไม่แน่ใจว่า ที่จะให้ยื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติมจะเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไร เป็นพยานบุคคลหรือพยานเอกสาร หากจะให้คาดการณ์น่าจะเกี่ยวข้องกับข้อโต้แย้ง​ และข้อต่อสู้หนึ่งของพรรคก้าวไกล เกี่ยวข้องกับเรื่องที่พรรคแย้งว่า กกต.ยื่นคำร้องโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และในวันนี้ฝ่ายกฎหมายของพรรคก้าวไกลจะไปยื่นบัญชีเอกสารเพิ่มเติม ซึ่งคือคำให้สัมภาษณ์ของประธานกกต. ที่ยอมรับ ว่าไม่ได้ปฏิบัติตามระเบียบที่ กกต.กำหนด ในการยื่นร้องยุบพรรคก้าวไกล ตามมาตรา 92 และมาตรา 93 ประกอบระเบียบกกต. เพื่อเป็นการประกอบข้อต่อสู้ของพรรค

ส่วนการพิจารณาคดีในเบื้องต้น เป็นไปตามการคาดการณ์หรือไม่นั้น นายชัยธวัช​ กล่าวว่า​ ศาลรัฐธรรมนูญ เห็นประเด็นสำคัญในการต่อสู้ของพรรคก้าวไกล จึงได้ให้ กกต.ส่งเอกสารเพิ่มเติม และให้สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญไปศึกษา แต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าสุดท้ายแล้ว ศาลจะเปิดให้มีการไต่สวนหรือไม่ และคาดว่าจะทราบเร็วที่สุดน่าจะเป็นวันอังคารที่ 18 มิถุนายนนี้ และพรรคก้าวไกลก็หวังว่าศาลจะเปิดโอกาสให้พรรคก้าวไกลต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ ที่มีการไปสวนพยาน พิจารณาข้อเท็จจริงใหม่อย่างเต็มที่​ ทั้งนี้เห็นว่าการไต่สวนอย่างเปิดเผย ย่อมเป็นการดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย เพื่อทำให้คำวินิจฉัยที่ออกมา เป็นที่ยอมรับ


ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นเริ่มมีการเคลื่อนไหวของลูกพรรคได้มีการเช็กชื่อแล้วหรือไม่ นายชัยธวัช​ ระบุว่า ไม่มีความจำเป็นต้องเช็กชื่อ แล้วตอนนี้สส.ของพรรคโฟกัสกับการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 เป็นหลัก​ โดยอยู่ในช่วงโค้งสุดท้าย การจัดคนและประเด็น และอาจจะมีการปรับอีกเล็กน้อย ในช่วง 1 สัปดาห์ที่เหลือ ส่วนจะได้กี่คนยังไม่ได้กำหนดแต่ที่แน่นอน ไม่น่าจะถึง 40 คน

เมื่อถามย้ำว่าลูกพรรคที่คิดจะย้ายพรรค อาจไม่ได้คิดถึงการเลือกตั้งสมัยหน้า นายชัยธวัชระบุว่า ตนยังเชื่อมั่น ได้สส. ของพรรคก้าวไกล จะไม่ได้คิดเรื่องตัวเองเป็นตัวตั้ง และเชื่อว่าสส.ของพรรคเห็นความสำคัญของการไว้วางใจ ที่ประชาชนมอบให้ ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา และย้ำว่าไม่ได้เสียขวัญ ยิ่งฟังที่​นายพิธา​ ลิ้มเจริญ​รัตน์​ อดีตหัวหน้าพรรค แถลงเรื่องข้อต่อสู้ในคดี ก็ยิ่งทำให้สส.ของพรรค รู้สึกว่ามีประเด็นในการต่อสู้ได้อยู่ ขออย่าเพิ่งไปสรุปว่า สุดท้ายแล้วคดีนี้ผลจะออกมาอย่างไรแน่นอน

ทั้งนี้ นายชัยธวัช ไม่ได้ประเมินว่า กกต. จะมีข้อต่อสู้หรือโต้แย้งอย่างไร จึงขอฝากสื่อฯ ไปถาม กกต.​


ส่วนที่ประธานกกต. ระบุว่าการที่ยื่นเอกสาร ไปยังศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ให้พรรคก้าวไกลชี้แจง พร้อมมีเอกสารข้อเท็จจริงคำพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 31​ มกราคม​ 2567​ มาแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องให้พรรคก้าวไกลชี้แจง นายชัยธวัชระบุว่า การแยกข้อเท็จจริงพยานหลักฐาน เป็นคนละเรื่องกับการปฏิบัติ ตามกระบวนการตามกฎหมายและระเบียบที่ กกต.เป็นผู้กำหนด และขอย้ำว่าการยื่นร้องยุบพรรค ตามมาตรา 92 ของ พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง แต่การปฏิบัติต้องปฏิบัติประกอบกระบวนการตามมาตรา 93 และระเบียบที่กกต.เป็นผู้กำหนด มารองรับการปฏิบัติ ซึ่งต้องมีขั้นตอนที่ให้มีการตั้งคณะบุคคลขึ้นมา เพื่อสรุปรายงานให้แก่นายทะเบียนพรรคการเมือง และคณะกรรมการการเลือกตั้ง พิจารณาก่อนจะยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้นการบอกว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอแล้ว ไม่ได้เป็นเหตุผล ที่จะไม่ทำตามกฎหมาย รวมถึงระเบียบที่ตัวเองเป็นผู้กำหนด แม้จะมีพยานหลักฐานเพียงพอ​ กระบวนการตามขั้นตอนก็ต้องมีครบ​ และต้องให้พรรคก้าวไกลในฐานะผู้ถูกร้อง​ได้มีโอกาสโต้แย้งก่อน​ แล้วค่อยมีมติออกมาว่ามีพยานหลักฐาน​เพียงพอจึงไปยื่นคำร้องยุบพรรค​ ซึ่งแม้กระทั่งการที่ กกต.มีเอกสารเผยแพร่ให้พรรคการเมืองก็ชัดเจนมาตลอดว่าต้องใช้แบบนี้​ ไม่มีช่องทางใดที่​ให้กกต.ใช้ดุลยพิ​นิจโดยลำพัง.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“วิสุทธิ์” รับ “เกษียร” เป็นคนขับรถตัวเอง เรียกมาด่าแล้ว

“วิสุทธิ์” ประธานวิปรัฐบาล ยอมรับ “เกษียร” ที่โยง “ต้นอ้อ” ขายวุฒิการศึกษา เป็นคนขับรถตัวเอง เผยเรียกมาด่าแล้วอย่าเชื่อคนง่าย ถูกสาวบางกอกหลอกใช้บัญชีรับโอนเงิน ยืนยันบริสุทธิ์ให้ ตร.สอบได้เต็มที่ไม่มีปกป้อง

“พร้อมพงศ์” ร้อง DSI ให้ตรวจสอบการฮั้วประมูล ก.สาธารณสุข

“พร้อมพงศ์” อดีต สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ร้องดีเอสไอให้ตรวจสอบการฮั้วประมูลระบบคลาวด์กระทรวงสาธารณสุข 1 พันล้านบาท ชี้มีชื่อกรรมการทับซ้อนกันหลายบริษัท

แจ้ง 4 ข้อหาหนุ่มใหญ่ซิ่งเก๋งชนรถพังยับ 6 คัน-เจ็บ 7

ตำรวจเร่งสอบปากคำและตรวจประวัติหนุ่มใหญ่ซิ่งเก๋งชนยับ 6 คัน บาดเจ็บ 7 คน ในจำนวนนี้อาการสาหัส 1 คน พร้อมแจ้ง 4 ข้อหา ก่อนให้ประกันตัวโดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์

ทั่วไทยจัดพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์

ทั่วไทยประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

ข่าวแนะนำ

“ชัชชาติ” สั่งเร่งเยียวยาเหตุเพลิงไหม้ย่านเยาวราช

“ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” สั่งเร่งเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเหตุไฟไหม้ชุมชนตรอกโพธิ์ ย่านเยาวราช ล่าสุดเช้านี้เจ้าหน้าที่ยังคงฉีดน้ำหล่อเลี้ยง ป้องกันปะทุซ้ำ

เต็นท์รถมือสองจะอยู่อย่างไรในยุครถป้ายแดงแข่งดัมพ์ราคา

สงครามราคารถไฟฟ้าจีน รถยนต์สันดาป หรือรถที่เราใช้กันส่วนใหญ่ รถน้ำมัน รถแก๊ส ทำธุรกิจเต็นท์รถมือสองต้องเผชิญวิกฤติครั้งใหญ่จริงหรือไม่ และเต็นท์รถมือสองจะอยู่อย่างไรในยุครถป้ายแดงแข่งกันดัมพ์ราคา

ส่องร้อยเอ็ดโมเดล สู่จังหวัดสีขาวปลอดยาเสพติด

จังหวัดร้อยเอ็ด มีเวลาอีกไม่ถึง 3 เดือนเต็มที่จะเป็นจังหวัดสีขาวนำร่องปลอดยาเสพติด ภายในวันที่ 30 กันยายนนี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีชูเป็นโมเดลของประเทศ นับเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง เพราะอำเภอนำร่องอย่างธวัชบุรี ที่หวังจะให้เป็นสีขาวภายในสิ้นเดือนที่ผ่านมา ก็ยังเจอปัญหามากมาย