ทำเนียบ 4 มิ.ย.- “เผ่าภูมิ” ย้ำ คณะกรรมการเงินดิจิทัลวอลเล็ต ประชุมทุกสัปดาห์ ลงรายละเอียดหลักเกณฑ์ต่างๆ ชี้ยังไม่เผยหลักเกณฑ์ลงทะเบียนร้านค้ารอเคาะหลักเกณฑ์ดีที่สุด แต่ย้ำลงง่ายร้านค้าเข้าใจ ระบุดูความสมดุลดึงร้านสะดวกซื้อร่วมโครงการ
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงผลสำรวจสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่มีต่อนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ซึ่งมีความสนใจที่จะเข้าร่วมโครงการร้อยละ 75.2% ว่า เป็นสิ่งที่เห็นว่ามาตั้งแต่แรกแล้วว่าภาคเอสเอ็มอีมีปัญหาเพราะขาดเรื่องของกำลังซื้อ ซึ่งเป็นเสียงเรียกร้องจากเอสเอ็มอี ที่ต้องมีกระบวนการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการอัดฉีดเม็ดเงินในสถานการณ์เช่นนี้ เนื่องจากที่ผ่านมา ขาดกำลังซื้อ ดังนั้นการที่มีเม็ดเงินจำนวนกว่า 500,000 ล้านบาทลงไปสู่ในระบบในระยะเวลาที่รวดเร็วและในระยะเวลาที่กระชับกระจายตัวในพื้นที่ จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นผลดีต่อเอสเอ็มอี ซึ่งสอดคล้องกันกับแนวคิดของรัฐบาล
สำหรับความคืบหน้าการลงทะเบียนร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการดิจิทัล นั้น นายเผ่าภูมิ กล่าวว่าขณะนี้ยังไม่ได้ออกเกณฑ์เรื่องของการลงทะเบียนร้านค้า หรือลงทะเบียนอย่างไรซึ่งขณะนี้คณะกรรมการกำกับฯกำลังหาเงื่อนไขที่เหมาะสมที่สุด ง่ายที่สุดต่อประชาชน โดยเฉพาะร้านค้ารายเล็ก เป็นข้อคำนึงของรัฐบาลอยากให้พ่อค้า แม่ค้า ขายอยู่ตามตลาดและคนขายขายของได้รับเงินในโครงการนี้เข้าสู่กระบวนการลงทะเบียนได้ง่ายขึ้น โดยรัฐบาลจะทำตรงนี้ให้ง่ายที่สุดและประชาชนเข้าถึงได้ง่ายที่สุด และยืนยันว่าจะกระจายไปยังรายย่อยไม่ใช่แค่รายใหญ่เพียงอย่างเดียวซึ่งเป็นจุดประสงค์ รัฐบาลต้องการให้ลงไปในตลาดและชุมชนให้ประชาชนได้ใช้จ่ายกระจายเม็ดเงินในตลาดใกล้บ้าน แต่จะต้องรักษาสมดุลระหว่างความง่ายของประชาชนและจำนวนร้านค้าเพียงพอหรือไม่ จึงต้องรวมร้านสะดวกซื้อเข้ามาเพราะ ให้ความง่ายกับประชาชนซึ่งถ้าสมมุติลงไปในตลาดมากขึ้น ถ้าลงตลาดอย่างเดียวแล้วไม่มีร้านสะดวกซื้อเข้ามา ก็เป็นความยากของประชาชนในการใช้งานดังนั้นเป็นการรักษาสมดุลความง่ายของประชาชนกับประสิทธิภาพในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายเผ่าภูมิ ยีงกล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการกำกับฯ ประชุมทุกสัปดาห์ เพื่อที่จะกำหนดหลักเกณฑ์ต่างๆ โดยมีเรื่องที่ไม่คาดคิด เช่น หากร้านค้าที่ลงทะเบียนได้รับเงินไปแล้วแต่เสียชีวิตในระหว่างโครงการเงินจะตกอยู่ที่ใครใช้กฎหมายไหนในการมาดูแลซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ก็ต้องเป็นมิติที่ต้องหารือโดยทำงานกันทุกอาทิตย์ โดยความคืบหน้าจะดูในเรื่องของการเชื่อมโอเพ่น ลูป ในการที่จะทำให้ธนาคารหรือธุรกิจกระเป๋าเงินต่างๆ ที่จะเข้ามาเชื่อมมีความเข้าใจในตัวระบบที่จะเข้ามาเชื่อมกันโดยจะมีการสร้างความรู้ความเข้าใจในการเชื่อมกันทางเทคนิค .-316 -สำนักข่าวไทย