3 รมต.ลั่นไม่ยอมให้รุกล้ำอธิปไตยไทย พร้อมตั้งรับชายแดน

แม่สอด 23 เม.ย. – 3 รัฐมนตรี ย้ำไม่ยอมให้รุกล้ำอธิปไตยไทย พร้อมตั้งรับชายแดนได้ “ปานปรีย์” รับเป็นไปได้เป็นตัวกลางพูดคุยเมียนมา “อนุทิน” ขอคนไทยสบายใจ ยืนยันดูแลผู้หลบภัยเสี่ยงต่อชีวิต “สุทิน” มั่นใจกองทัพรับมือได้ พร้อมบินสกัด-ไม่ต้องยกระดับกำลัง ทบ.-ทอ.


วันนี้ (23 เม.ย.67) เวลา 16.50 น. นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) และประธานกรรมการเฉพาะกิจบริหารสถานการณ์อันเนื่องมาจากความไม่สงบในเมียนมา พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) และนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา

นายปานปรีย์ กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบหมายตนเอง และรัฐมนตรีอีก 2 คน มาติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อเดินทางมาถึง จึงมีการประชุมร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเรื่องการดูแลด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนชาวเมียนมาที่หาที่ปลอดภัยในแผ่นดินไทย ได้รับคำตอบว่า ทุกคนสบายใจ จากที่เข้ามากว่า 2,000 คน หลายคนก็เดินทางกลับประเทศเมียนมาแล้ว ยังคงค้างอีกประมาณ 600 คน เชื่อว่าหากสถานการณ์คลี่คลายก็คงจะกลับไปทั้งหมดใน 1-2 วันนี้


ส่วนผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ อ.แม่สอด นายปานปรีย์ ตอบว่า ครั้งนี้มีการดูแลเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หากมีกรณีที่คาดว่าจะเกิดอันตราย ฝ่ายรัฐบาลก็พร้อมเข้าดูแลทันที ย้ายคนไทยไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย แต่ที่ผ่านมาไม่มีผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของคนไทย ดังนั้น กองทัพบก กองทัพอากาศ และกระทรวงมหาดไทย ถือว่ามีการดูแลอย่างดีมาก ที่สำคัญ จะไม่ให้ใครรุกล้ำอธิปไตยโดยเด็ดขาด หรือใช้พื้นที่ของไทยไปต่อต้านฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง พร้อมทั้งยึดมั่นการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เหล่านี้คือนโยบายที่มอบหมายไปตั้งแต่ต้น และดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ

นายปานปรีย์ ยืนยันว่า การข้ามแดนเป็นไปตามปกติ อุปกรณ์ผ่านแดนฝั่งเมียวดีที่เสียนั้นคงไม่มีปัญหาอะไร คงจะซ่อมแซมได้โดยเร็ว ส่วนจำนวนผู้หนีภัยความไม่สงบก็เหลือเพียง 600 กว่าคนแล้ว การเดินทางกลับไปจึงน่าจะไม่มีปัญหาแล้ว

“เสียงระเบิดมีอยู่บางช่วงเวลา เราห่วงการขนส่งทางรถ เพราะสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ยังไม่ได้เปิด การขนส่งสินค้าจึงยังไม่เรียบร้อย แต่เชื่อว่าภายใน 1-2 วัน จะเปิดได้ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ฝั่งเรา แต่ปัญหาอยู่ฝั่งเขา ซึ่งเราไม่รู้ว่าเวลานี้ ฝ่าย ตม. กับศุลกากร อยู่กับฝ่ายใด ศูนย์สั่งการชายแดนส่งเจ้าหน้าที่ไปคุยเจรจากับเมียนมาตลอด เพื่อแก้ไขปัญหาเล็กน้อยได้เกือบทั้งหมด” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว


ส่วนข้อเสนอต่อการตั้งเมืองเมียวดีเป็นพื้นที่ปลอดภัย (Safety Zone) นายปานปรีย์ ตอบรับว่า มีการพูดคุยกัน แต่ไทยรับสถานการณ์ได้ไม่ถึงขั้นต้องตั้งพื้นที่ปลอดภัยในพื้นที่ของเขา ทั้งยังมีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องคิดให้ละเอียด ท้ายที่สุดเราก็อยากให้เกิดความสงบโดยเร็วที่สุด แต่เป็นเรื่องเมียนมาที่เราไม่สามารถแทรกแซงได้ ให้เมียนมาจัดการกันเอง แต่ไทยพร้อมประสานงานให้พูดคุยกัน และให้เกิดสันติภาพในเมียนมา

นอกจากนี้ นายปานปรีย์ ตอบรับถึงข้อเสนอให้รัฐบาลไทยเป็นตัวกลางพูดคุยให้การสู้รบลดน้อยลงว่า เป็นไปได้มาก เพราะขณะนี้มีการพูดคุยในระดับหนึ่งแล้ว โดยมีกลุ่มต่าง ๆ รวมถึงชาติพันธุ์ติดอาวุธ และรัฐบาลเมียนมา แต่เนื่องจากขณะนี้ในส่วนของเมืองเมียวดี การเจรจายังอยู่ภายในฝ่ายของเขา ยังไม่มีเวลาคุยกับเรา แต่เขาทราบแล้วว่า เราพร้อมเป็นตัวเชื่อมประสานแก้ไขเมียนมาทั้งระบบให้กลับสู่สันติภาพโดยเร็ว ส่วนการเจรจาผ่านบทบาทอาเซียน ไทยคิดว่าอาเซียนควรมีส่วนประสานงานแก้ไขปัญหาเมียนมา ซึ่งเป็นประเทศสมาชิกด้วย หลังจากส่งหนังสือไป 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ประธานคือประเทศลาว ทำงานเร็ว แต่ยังอยู่ระหว่างรอคำตอบจากอาเซียนอีก 8-9 ประเทศ และคาดว่าจะมีการประชุมของอาเซียนอีกชุดด้วย

ส่วนสภาพการดูแลที่ภาคประชาสังคมห่วงกังวล นายปานปรีย์ กล่าวว่า คนเข้ามาหลบภัยคงไม่คาดหวังว่าจะเข้ามาอยู่ในที่สะดวกสบาย ดังนั้น การดูแลจึงเป็นไปอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีแนวปฏิบัติที่เป็นสากล (Standard of Procedures) และเท่าที่ได้รับฟัง ยังไม่มีใครมีความรู้สึกว่าเข้ามาแล้วยากลำบาก แต่เข้ามาชั่วคราวเพื่อหลบภัย

ด้านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ได้หารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดตาก และมีการรายงานสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา เรามีความจำเป็นต้องให้การดูแลผู้หลบภัยเข้ามาด้วยความจำเป็นด้านมนุษยธรรม เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า หากเพื่อนบ้านมีภัยเสี่ยงต่อชีวิต เราก็ต้องให้ความดูแลอย่างปลอดภัย ในการนี้ ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ใหญ่บ้าน ชรบ.

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า สถานการณ์ดีขึ้นมาเป็นลำดับ ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลทุกหน่วยงาน จึงขอให้ความมั่นใจให้ประชาชนที่มีญาติพี่น้องในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก สบายใจ ส่วนนักท่องเที่ยวก็สามารถมาท่องเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ มากมาย และอุดหนุนการค้าชายแดนได้ด้วย อยากให้ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ จึงไม่ควรให้เหตุการณ์ปัญหาในประเทศเพื่อนบ้านมาทำลายโอกาสเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศของเรา

“นี่คืออธิปไตยของประเทศเรา ไม่ใช่ว่าใครอยากจะเข้ามาทำร้ายคนของเขา หรือทิ้งอะไรต่าง ๆ เป็นไปไม่ได้เป็นอันขาด ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายทหารของเรา เตรียมตัวอย่างเต็มที่” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว

ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า กองทัพยืนยันว่า สถานการณ์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ อยู่ในระดับที่เรารับมือได้ เตรียมการในระดับปกติ ยังไม่มีความจำเป็นต้องยกระดับการรับมือ ทั้งในภาคพื้นดิน มีกองทัพภาคที่ 3 มีกองกำลังผลักดัน และให้ขวัญกำลังใจชาวบ้านได้ และกองทัพอากาศมีความสามารถสกัดยับยั้งได้ โดยมีข้อตกลงกับฝ่ายตรงข้ามว่า หากนำเครื่องบินเข้ามาต้องแจ้งก่อน โดยเรามีศักยภาพในการนำเครื่องบินขึ้นสกัดได้ทันที ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ยังไม่มีภัยทางอากาศ และรับมือได้

ส่วนผู้หนีภัยความไม่สงบ นายสุทิน ย้ำว่า มีการดำเนินมาตรการคัดแยกตามกลุ่มตามขั้นตอน คือ หากเป็นชาวบ้าน ฝ่ายปกครองก็จะดูแล แต่หากเป็นทหารก็เข้าสู่กระบวนการปลดอาวุธ ที่ผ่านมาไม่มีเหตุการณ์ใดเกินกำลัง ทั้งทรัพย์สินชาวบ้านและอธิปไตย ยืนยันกองทัพรับมือได้.-312-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

“ภท.” เปิดประวัติ-ผลงาน “อนุทิน” แคนดิเดตนายกฯ คนที่ 32

กทม. 3 ก.ย.- “พรรคภูมิใจไทย” โพสต์ประวัติ-ผลงาน “อนุทิน ชาญวีรกูล” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) แถลงจัดตั้งรัฐบาลเสร็จเรียบร้อย ที่รัฐสภา โดยมีพรรคประชาชนประกาศสนับสนุน พร้อมรายชื่อ สส. 146 คน ร่วมสนับสนุนให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ล่าสุด เพจพรรคภูมิใจไทย ได้โพสต์ภาพและประวัตินายอนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ทันที โดยระบุว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 การศึกษา2527 : โรงเรียนอัสสัมชัญ กรุงเทพฯ2528 : Worcester Academy, Massachusetts U.S.A.2532 : B.S. in Industrial Engineering, Hofstra […]

น้ำป่าดอยสุเทพทะลักท่วมเมืองเชียงใหม่

3 ก.ย. – ฝนตกหนัก ทำให้น้ำป่าจากดอยสุเทพหลากเข้าท่วมชุมชนในเชียงใหม่กลางดึก ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัวเก็บข้าวของไม่ทันต้องปล่อยจมน้ำ ขณะที่น้ำท่วมหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ลดลงแล้วทิ้งไว้แต่ความเสียหายเป็นวงกว้าง น้ำป่าจากดอยสุเทพ ที่หลากมาตามลำห้วยช่างเคี่ยน ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนและร้านค้าในชุมชนช่างเคี่ยน ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ อย่างรวดเร็วในช่วงกลางดึก ระดับน้ำที่ท่วมตั้งแต่ 30 เซนติเมตร จนถึง 1 เมตร ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ทันได้ตั้งตัว เก็บข้าวของเครื่องใช้ไม่ทัน โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าต้องปล่อยให้จมน้ำไป บางส่วนที่พึ่งกลับจากการทำงานต้องเดินฝ่าน้ำท่วมเข้าไปเก็บทรัพย์สินในบ้านเท่าที่จะทำได้ รถยนต์หลายคันเคลื่อนย้ายไม่ทันจมอยู่ในน้ำ โดยชาวบ้านบอกว่าน้ำมาเร็วและแรง ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ถูกน้ำท่วม นายคเชน เจียกขจร นายกเทศมนตรีตำบลช้างเผือก เร่งให้เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่สูบน้ำออกจากชุมชนลงคลองชลประทาน พร้อมระบุสาเหตุน้ำท่วมครั้งนี้เกิดจาก การสร้างสะพานข้ามคลองชลประทานและมีการปิดท่อระบายน้ำไว้ ทำให้น้ำป่าที่หลากลงมาท่วมไม่สามารถระบายได้ ล่าสุดทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจความเสียหายในเช้าวันนี้ ซึ่งน้ำลดลงจนเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ชาวบ้านเร่งสำรวจความเสียหายโดยบางส่วนยังยกข้าวของไว้บนที่สูงไว้ก่อนจนกว่าจะหมดหน้าฝน ส่วนน้ำที่ท่วมในเขตเทศบาลเมืองหล่มสักที่เพชรบูรณ์ มา 3 วัน ระดับน้ำที่เคยท่วมสูงถึง 1 เมตร ลดลงจนเข้าสู่ภาวะปกติแล้วในเช้าวันนี้ หลังระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักที่ไหลผ่านอำเภอหล่มเก่าลดลงต่ำกว่าพนังกั้นน้ำกว่า 1 เมตร […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

เลื่อนประชุมวิป 2 ฝ่าย กำหนดวันโหวตนายกฯ เป็นบ่าย 3 วันนี้

รัฐสภา 3 ก.ย.-เลื่อนประชุมวิป 2 ฝ่าย กำหนดวันโหวตนายกฯ เป็นบ่าย 3 วันนี้ เหตุรอศาล รธน.ตอบเป็นลายลักษณ์อักษร หลัง 20 สส.เพื่อไทย ยื่นปมตุลาการพ้นวาระ คดี “แพทองธาร” และความชัดเจนยุบสภา นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เปิดเผยภายหลังการประชุมสองฝ่าย เพื่อหารือกำหนดวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยใช้เวลาหารืออยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ว่า เนื่องจากมี สส.20 คน ของพรรคเพื่อไทย ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ประธานสภาฯ ให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายต่อกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 เสียง วินิจฉัย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี จากข้อเท็จจริงที่พบว่า นายสราวุธ ทรงศิวิไล ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แทนนายปัญญา […]