3 รมต.ลั่นไม่ยอมให้รุกล้ำอธิปไตยไทย พร้อมตั้งรับชายแดน

แม่สอด 23 เม.ย. – 3 รัฐมนตรี ย้ำไม่ยอมให้รุกล้ำอธิปไตยไทย พร้อมตั้งรับชายแดนได้ “ปานปรีย์” รับเป็นไปได้เป็นตัวกลางพูดคุยเมียนมา “อนุทิน” ขอคนไทยสบายใจ ยืนยันดูแลผู้หลบภัยเสี่ยงต่อชีวิต “สุทิน” มั่นใจกองทัพรับมือได้ พร้อมบินสกัด-ไม่ต้องยกระดับกำลัง ทบ.-ทอ.


วันนี้ (23 เม.ย.67) เวลา 16.50 น. นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) และประธานกรรมการเฉพาะกิจบริหารสถานการณ์อันเนื่องมาจากความไม่สงบในเมียนมา พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) และนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา

นายปานปรีย์ กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบหมายตนเอง และรัฐมนตรีอีก 2 คน มาติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อเดินทางมาถึง จึงมีการประชุมร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเรื่องการดูแลด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนชาวเมียนมาที่หาที่ปลอดภัยในแผ่นดินไทย ได้รับคำตอบว่า ทุกคนสบายใจ จากที่เข้ามากว่า 2,000 คน หลายคนก็เดินทางกลับประเทศเมียนมาแล้ว ยังคงค้างอีกประมาณ 600 คน เชื่อว่าหากสถานการณ์คลี่คลายก็คงจะกลับไปทั้งหมดใน 1-2 วันนี้


ส่วนผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ อ.แม่สอด นายปานปรีย์ ตอบว่า ครั้งนี้มีการดูแลเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หากมีกรณีที่คาดว่าจะเกิดอันตราย ฝ่ายรัฐบาลก็พร้อมเข้าดูแลทันที ย้ายคนไทยไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย แต่ที่ผ่านมาไม่มีผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของคนไทย ดังนั้น กองทัพบก กองทัพอากาศ และกระทรวงมหาดไทย ถือว่ามีการดูแลอย่างดีมาก ที่สำคัญ จะไม่ให้ใครรุกล้ำอธิปไตยโดยเด็ดขาด หรือใช้พื้นที่ของไทยไปต่อต้านฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง พร้อมทั้งยึดมั่นการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เหล่านี้คือนโยบายที่มอบหมายไปตั้งแต่ต้น และดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ

นายปานปรีย์ ยืนยันว่า การข้ามแดนเป็นไปตามปกติ อุปกรณ์ผ่านแดนฝั่งเมียวดีที่เสียนั้นคงไม่มีปัญหาอะไร คงจะซ่อมแซมได้โดยเร็ว ส่วนจำนวนผู้หนีภัยความไม่สงบก็เหลือเพียง 600 กว่าคนแล้ว การเดินทางกลับไปจึงน่าจะไม่มีปัญหาแล้ว

“เสียงระเบิดมีอยู่บางช่วงเวลา เราห่วงการขนส่งทางรถ เพราะสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ยังไม่ได้เปิด การขนส่งสินค้าจึงยังไม่เรียบร้อย แต่เชื่อว่าภายใน 1-2 วัน จะเปิดได้ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ฝั่งเรา แต่ปัญหาอยู่ฝั่งเขา ซึ่งเราไม่รู้ว่าเวลานี้ ฝ่าย ตม. กับศุลกากร อยู่กับฝ่ายใด ศูนย์สั่งการชายแดนส่งเจ้าหน้าที่ไปคุยเจรจากับเมียนมาตลอด เพื่อแก้ไขปัญหาเล็กน้อยได้เกือบทั้งหมด” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว


ส่วนข้อเสนอต่อการตั้งเมืองเมียวดีเป็นพื้นที่ปลอดภัย (Safety Zone) นายปานปรีย์ ตอบรับว่า มีการพูดคุยกัน แต่ไทยรับสถานการณ์ได้ไม่ถึงขั้นต้องตั้งพื้นที่ปลอดภัยในพื้นที่ของเขา ทั้งยังมีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องคิดให้ละเอียด ท้ายที่สุดเราก็อยากให้เกิดความสงบโดยเร็วที่สุด แต่เป็นเรื่องเมียนมาที่เราไม่สามารถแทรกแซงได้ ให้เมียนมาจัดการกันเอง แต่ไทยพร้อมประสานงานให้พูดคุยกัน และให้เกิดสันติภาพในเมียนมา

นอกจากนี้ นายปานปรีย์ ตอบรับถึงข้อเสนอให้รัฐบาลไทยเป็นตัวกลางพูดคุยให้การสู้รบลดน้อยลงว่า เป็นไปได้มาก เพราะขณะนี้มีการพูดคุยในระดับหนึ่งแล้ว โดยมีกลุ่มต่าง ๆ รวมถึงชาติพันธุ์ติดอาวุธ และรัฐบาลเมียนมา แต่เนื่องจากขณะนี้ในส่วนของเมืองเมียวดี การเจรจายังอยู่ภายในฝ่ายของเขา ยังไม่มีเวลาคุยกับเรา แต่เขาทราบแล้วว่า เราพร้อมเป็นตัวเชื่อมประสานแก้ไขเมียนมาทั้งระบบให้กลับสู่สันติภาพโดยเร็ว ส่วนการเจรจาผ่านบทบาทอาเซียน ไทยคิดว่าอาเซียนควรมีส่วนประสานงานแก้ไขปัญหาเมียนมา ซึ่งเป็นประเทศสมาชิกด้วย หลังจากส่งหนังสือไป 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ประธานคือประเทศลาว ทำงานเร็ว แต่ยังอยู่ระหว่างรอคำตอบจากอาเซียนอีก 8-9 ประเทศ และคาดว่าจะมีการประชุมของอาเซียนอีกชุดด้วย

ส่วนสภาพการดูแลที่ภาคประชาสังคมห่วงกังวล นายปานปรีย์ กล่าวว่า คนเข้ามาหลบภัยคงไม่คาดหวังว่าจะเข้ามาอยู่ในที่สะดวกสบาย ดังนั้น การดูแลจึงเป็นไปอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีแนวปฏิบัติที่เป็นสากล (Standard of Procedures) และเท่าที่ได้รับฟัง ยังไม่มีใครมีความรู้สึกว่าเข้ามาแล้วยากลำบาก แต่เข้ามาชั่วคราวเพื่อหลบภัย

ด้านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ได้หารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดตาก และมีการรายงานสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา เรามีความจำเป็นต้องให้การดูแลผู้หลบภัยเข้ามาด้วยความจำเป็นด้านมนุษยธรรม เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า หากเพื่อนบ้านมีภัยเสี่ยงต่อชีวิต เราก็ต้องให้ความดูแลอย่างปลอดภัย ในการนี้ ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ใหญ่บ้าน ชรบ.

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า สถานการณ์ดีขึ้นมาเป็นลำดับ ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลทุกหน่วยงาน จึงขอให้ความมั่นใจให้ประชาชนที่มีญาติพี่น้องในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก สบายใจ ส่วนนักท่องเที่ยวก็สามารถมาท่องเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ มากมาย และอุดหนุนการค้าชายแดนได้ด้วย อยากให้ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ จึงไม่ควรให้เหตุการณ์ปัญหาในประเทศเพื่อนบ้านมาทำลายโอกาสเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศของเรา

“นี่คืออธิปไตยของประเทศเรา ไม่ใช่ว่าใครอยากจะเข้ามาทำร้ายคนของเขา หรือทิ้งอะไรต่าง ๆ เป็นไปไม่ได้เป็นอันขาด ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายทหารของเรา เตรียมตัวอย่างเต็มที่” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว

ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า กองทัพยืนยันว่า สถานการณ์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ อยู่ในระดับที่เรารับมือได้ เตรียมการในระดับปกติ ยังไม่มีความจำเป็นต้องยกระดับการรับมือ ทั้งในภาคพื้นดิน มีกองทัพภาคที่ 3 มีกองกำลังผลักดัน และให้ขวัญกำลังใจชาวบ้านได้ และกองทัพอากาศมีความสามารถสกัดยับยั้งได้ โดยมีข้อตกลงกับฝ่ายตรงข้ามว่า หากนำเครื่องบินเข้ามาต้องแจ้งก่อน โดยเรามีศักยภาพในการนำเครื่องบินขึ้นสกัดได้ทันที ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ยังไม่มีภัยทางอากาศ และรับมือได้

ส่วนผู้หนีภัยความไม่สงบ นายสุทิน ย้ำว่า มีการดำเนินมาตรการคัดแยกตามกลุ่มตามขั้นตอน คือ หากเป็นชาวบ้าน ฝ่ายปกครองก็จะดูแล แต่หากเป็นทหารก็เข้าสู่กระบวนการปลดอาวุธ ที่ผ่านมาไม่มีเหตุการณ์ใดเกินกำลัง ทั้งทรัพย์สินชาวบ้านและอธิปไตย ยืนยันกองทัพรับมือได้.-312-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

สว.ยื่นถอดถอนรัฐมนตรี

สว. จ่อยื่นถอดถอน​ “รมต.” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร

สว. ประกาศสงคราม​ เตรียมยื่นถอดถอน​ “รัฐมนตรี” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร พ่วง​ยื่นอภิปราย-แจ้งความ​-เชิญสอบใน​กมธ.​

ส่งกลับเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนอีก 300 คน

วันที่สองของปฏิบัติการขนเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนจากเมียวดี ข้ามชายแดนไทย ส่งกลับประเทศอีก 300 คน รวม 2 วัน ส่งกลับแล้ว 500 คน เหลือพรุ่งนี้อีก 1 วัน

บุกทลายบ่อนทุนจีนเทากลางเมืองภูเก็ต

ตำรวจภูเก็ตบุกทลายบ่อน ‘กลุ่มจีนเทา’ กลางเมืองภูเก็ต รวบนักพนันชาวจีน 13 ราย พร้อมของกลางกว่า 30 รายการ พบเงินหมุนสัปดาห์เดียวกว่า 5 ล้านบาท