“วราวุธ” ประกาศทำคุณภาพชีวิตคนทุกกลุ่มให้ดีกว่าเดิม

20 เม.ย. – พรรคชาติไทยพัฒนาประชุมใหญ่สามัญฯ “วราวุธ” ลั่นดูกระทรวงมาตั้งแต่สัตว์ 4 เท้า จนมา 2 เท้า ไม่รู้อนาคตจะมีเท้าให้ดูหรือไม่ ประกาศเป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่รับผิดชอบต่อนโยบายที่แถลงต่อสภาฯ ทำคุณภาพชีวิตคนทุกกลุ่มให้ดีกว่าเดิม


นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นประธานประชุมสามัญครั้งที่ 1/2567 พรรคชาติไทยพัฒนา โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย กรรมการบริหารพรรค ผู้แทนสาขาพรรค ตัวแทนพรรคประจำจังหวัด และสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนาทุกคน

นายวราวุธ กล่าวว่า ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ที่ได้ร่วมรัฐบาล พรรคชาติไทยพัฒนาได้รับมอบหมายทำงานด้านสังคม ดูแลกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ซึ่งจากเดิมที่ได้ดูกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจากสัตว์ 4 เท้า ได้มาดู 2 เท้า แต่ไม่รู้อนาคตจะได้ดูซักเท้าหรือไม่ ยืนยันที่ผ่านมาพรรคได้ดูสิ่งมีชีวิตครบแล้ว


นายวราวุธ ได้ชี้แจงการทำงานในหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ว่าทันทีที่ได้รับตำแหน่ง พยายามเข้าไปปรับปรุงการทำงาน พร้อมยกตัวอย่างศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) ที่โทรเข้าไปแล้วไม่มีคนรับสาย แต่ปัจจุบันมีหน่วยเคลื่อนที่เร็วและรับเรื่องร้องเรียน พร้อมตรวจสอบเรื่องต่างๆ ถือเป็นการทำงายภายใต้แนวคิด “พม. หนึ่งเดียว” พร้อมยืนยันปัญหาทุกเรื่อง ตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ พรรคชาติไทยพัฒนาพร้อมจะแก้ปัญหาให้ มองวิกฤติเป็นโอกาส แก้ปัญหาให้ประชาชนได้มากขึ้น

นายวราวุธ ยังพูดถึงการดูแลผู้สูงอายุที่ปัจจุบันมีผู้สูงอายุ 13 ล้านคน คิดเป็น 20 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมด ขณะที่มีเด็กเกิดใหม่ในรอบ 5 ปี เพียง 500,000 คน ทำให้อัตรการเกิดและการตายไม่สัมพันธ์กัน ทำให้ 5 ปีที่ผ่านมา ประชากรหายไป 500,000 คน ซึ่งในอีก 30 ปี ถ้าไม่แก้ปัญหาจะทำให้ประชากรไทยเหลือ 30 ล้านคน ซึ่งจะเป็นปัญหาในการพัฒนาประเทศ

นายวราวุธ กล่าวว่า การทำงานของพรรคชาติไทยพัฒนา ทำตั้งแต่ระดับรากหญ้าไปถึงระดับโลก พร้อมยกตัวอย่างถึงแผนงานการแก้วิกฤติประชากรที่จะนำไปประชุมคณะกรรมาธิการประชากรและการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 57 ที่สหรัฐ โดยมีสาระสำคัญคือ “ข้อเสนอเชิงนโยบายวิกฤตประชากรและสังคมสูงวัย” ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพรรคชาติไทยพัฒน ไม่ได้เป็นพรรคบ้านนอก ไม่ใช่พรรคต่างจังหวัด และพรรคไม่ได้เป็นสองรองใคร


”แนวทางการทำงานของกระทรวง พม. ยึดมั่นอุดมการณ์ในการดูแลความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน ไม่ต่างกับอุดมการณ์ของพรรคชาติไทยพัฒนา ข้อ 6 ที่ว่า มุ่งส่งเสริมสนับสนุนคุณภาพชีวิต เสริมสร้างสุขภาพพลานามัยทั้งทางด้านจิตใจและร่างกาย และข้อ7 ที่ว่า เชื่อมั่นในคุณค่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เสริมสร้างความเท่าเทียมในสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ ลดความเหลื่อมล้ำโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ด้อยโอกาสภายใต้จิตสำนึกสาธารณะ บนพื้นฐานของความซื่อสัตย์สุจริต และยุติธรรม สิ่งที่เรากำลังทำนั้นล้วนสอดคล้องกับอุดมการณ์ เพราะเราเชื่อว่ามนุษย์เป็นฟันเฟืองที่สำคัญอย่างยิ่งในการจะขับเคลื่อนสังคมไปในทิศทางที่ถูกต้องเหมาะสม“ นายวราวุธ กล่าว

นายวราวุธ ยืนยันว่า ในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลต้องดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ยืนยันกระทรวง พม. ไม่ใช่กระทรวงเล็ก เพราะต้องดูแลประชากร 66 ล้านคน พร้อมให้ความมั่นใจกับสมาชิกพรรคว่าพรรคชาติไทยพัฒนาเรายังคงทำหน้าที่ทุกอย่างอย่างเต็มที่เต็มความสามารถ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชน และทำอย่างต่อเนื่องดังเช่นที่เคยปฏิบัติมา หวังว่าทุกการขับเคลื่อนงานที่กำลังทำอยู่จะได้รับแรงสนับสนุนจากทุกคน

“ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ทำหน้าที่รับผิดชอบต่อพรรค ต่อสมาชิกพรรคและประชาชนตามนโยบายของพรรคชาติไทยพัฒนาที่ได้ประกาศไว้ และในขณะเดียวกันในฐานะหนึ่งในรัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาล ต้องรับผิดชอบต่อนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ที่ได้แถลงไว้ โดยเฉพาะนโยบายด้านสังคมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ตามที่ได้ประกาศไว้ว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมของคนทุกกลุ่ม“ นายวราวุธ กล่าว

ทั้งนี้ การประชุมใหญ่สามัญนี้จัดขึ้นเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองพ.ศ. 2560 มาตรา 43 และมาตรา 61 ที่กำหนดให้หัวหน้าพรรคต้องจัดทำรายงานการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองในรอบปีปฏิทินที่ผ่านมา และงบการเงินที่ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตตรวจสอบและรับรองแล้วเสนอต่อที่ประชุมใหญ่ของพรรคการเมืองเพื่ออนุมัติภายในเดือนเมษายนของทุกปี โดยพรรคชาติไทยพัฒนาไม่มีการปรับโครงสร้างแต่อย่างใด ที่ประชุมจะมีการประชุมสามัญตามระเบียบวาระ ได้แก่ เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ เรื่องรับรองรายงานการประชุมใหญ่สามัญครั้งที่ 2/2566 ของพรรคชาติไทยพัฒนา เมื่อวันศุกร์ที่ 31 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา

สำหรับวาระเรื่องเพื่อทราบ ได้แก่ การแต่งตั้งผู้สอบบัญชีประจำปี 2567, แผนหรือโครงการที่จะดำเนินกิจกรรมในปี 2568 ตามมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองพ.ศ. 2560, แผนงานและโครงการที่ได้รับการอุดหนุนจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง ประจำปี พ.ศ. 2567 ส่วนวาระเรื่องพิจารณาจะมีการพิจารณาให้ความเห็นชอบงบการเงินประจำปี 2566 มาตรา 61 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560, พิจารณาให้ความเห็นชอบรายงานการดำเนินกิจการของพรรคในรอบปี 2566 ตามมาตรา 43 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560.-315-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]