สั่ง “สุมหัว” เร่งสร้างมั่นคง-มั่งคั่งภูเก็ต

บช.ภ. 8 ภูเก็ต19เม.ย.-นายกฯ มอบนโยบายหน.ส่วนราชการภูเก็ต สั่ง “สุมหัว” เร่งสร้างความมั่นคง ต่อยอดสู่ความมั่งคั่ง อย่าให้มีน้ำผึ้งหยดเดียวทำการลงทุนแสนล้านเสียหาย


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคมนาคม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบนโยบายผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 โดยนายกรัฐมนตรี รับฟังรายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ และเรื่องที่พักอาศัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 17,730 นาย แต่มีที่พักเพียง 8,500 ห้อง โดยได้รับปีงบประมาณปี 2567 – 2568 มาปรับปรุงที่อยู่อาศัย  ซึ่งนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่าต้องการให้ใช้โมเดลเดียวกับที่พักข้าราชการตำรวจในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

ขณะที่การดำเนินการกวดขันจับกุมชาวต่างชาติ ที่กระทำผิดกฏหมาย ปัจจุบันมีชาวต่างชาติอาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตราว 1 ล้าน 4 แสนคน ส่วนใหญ่เป็นสัญชาติรัสเซียมากที่สุด ซึ่งพบผู้กระทำผิดที่เป็นชาวต่างชาติ และมีการดำเนินคดีเพิกถอนการอยู่ต่อตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 จนถึงปัจจุบันจำนวน 98 ราย พบเป็นชาวจีนและเมียนมา นอกจากนี้ ยังตั้งศูนย์ปราบปรามการกระทำความผิดการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (ศปปธ.) พร้อมกับตรวจสอบข้อมูลบริษัทต่าง ๆ ในจังหวัดภูเก็ต พบว่ามีชาวต่างชาติถือหุ้นจำนวน 10,291 บริษัท มีลักษณะต้องสงสัย มีพิรุธ จดทะเบียนหลายบริษัทในที่ตั้งเดียวกัน จำนวน 169 เป้าหมาย รวมถึงยังรายงานสถานการณ์การลักลอบ นำเข้ายางพาราเข้าประเทศ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566  –  31 มีนาคม 2567 กว่า 67,445 กิโลกรัม และปาล์มน้ำมัน 8,180 กิโลกรัม การจับกุมกวาดล้างแก๊งค์เครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ จากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน และกลุ่มนายทุนหนุนหลังในพื้นที่จังหวัดชายแดนระนอง


ภายหลังฟังบรรยายสรุป นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายว่า ตั้งแต่เป็นนายกรัฐมนตรี มาภูเก็ตครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว รัฐบาลให้ความสำคัญการพัฒนาภูเก็ตลำดับต้นๆ ต้องพัฒนาการท่องเที่ยว เพราะถ้าไม่มีความมั่นคง ความมั่นคั่งจะพังทลาย ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาเรื้อรัง 6 เดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จับกุมได้จำนวนมาก แต่ปัญหายาบ้าไม่ลดลง ที่ตั้ง KPI ถือว่าต่ำไปมาก ต้องจัดการให้มากกว่านี้ ที่จับกุมมาคือรายเล็ก ทำไมไม่จับรายใหญ่

“ส่วนการพนันออนไลน์ ประชาชนเดือดร้อน ตัวเลขจับกุมยังน้อยอยู่ ขอให้เร่งจับกุมต่อไป หนี้นอกระบบก็เป็นปัญหาเรื้อรัง เป็นมะเร็งร้ายของสังคม เป็นจุดเริ่มต้นของหายนะ อยากให้ตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครอง จัดตลาดนัดแก้หนี้ อย่าให้มีการข่มขู่ลูกหนี้ ซึ่งกระทรวงการคลังที่ผมเป็นรัฐมนตรีอยู่ จะเข้ามาช่วยดูแลเกี่ยวกับกระแสเงินสด เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ถ้าจบการสัมมนาวันนี้แล้ว ขอให้ไปสุมหัวกันแล้วช่วยกันคิดว่าทำให้แข็งแรงขึ้นอย่างไร ขณะที่เรื่องยางพาราก็เป็นเรื่องสำคัญ ชายแดนไทยติดพม่า2,000 กว่ากิโลเมตร ด่านใหญ่สามารถสกัดอยู่ เขาจึงลักลอบนำเข้ายางเถื่อนตามตะเข็บชายแดน จึงขอให้เข้มแข็งขึ้น” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การป้องกันการกระทำผิดของคนต่างชาติเป็นเรื่องสำคัญ มีเครือข่ายด้านธุรกิจทำตัวนอกเหนือกฎหมาย ขอให้เข้าใจว่ารัฐบาลลงทุนที่ภูเก็ตเป็นแสนล้าน แต่ถ้ามีการกระทำที่ไม่เหมาะสมกรณีเดียวจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาทำมาหากินอย่างไม่ถูกต้อง ที่ลงทุนไปจะพังพินาศได้ ขอให้ช่วยกันดูให้ดี เพราะเราลงทุนไปสูง ไม่อยากให้น้ำผึ้งหยดเดียวเป็นปัญหาให้เรื่องที่เราทำต้องเสียหาย ฝากสส.เป็นหูเป็นตา อย่าให้การลงทุนสูญเปล่า


“มีการร้องเรียนเกี่ยวกับการก่อเหตุทะเลาะในสวนน้ำแห่งหนึ่งในภูเก็ตเข้ามา แต่เรื่องเงียบไม่ทราบข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เรื่องเงียบไม่ได้ลงหนังสือพิมพ์ แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงปกปิดไม่มิด ใครที่เกี่ยวข้องไปเอาความจริงมาให้ได้ เพราะเรื่องไปอยู่ที่รัฐสภาแล้ว ต้องดูแลเป็นพิเศษ อย่าจับแต่รายย่อย จับรายใหญ่ให้ได้ สร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวทั่วโลก ว่าไทยบังคับใช้กฎหมายอย่างถูกต้อง เป็นธรรมเคร่งครัด การพัฒนาจ.ภูเก็ต มีเรื่องที่หนักใจคือการประกอบธุรกิจโรงแรมที่ผิดกฎหมาย เป็นความโชคไม่ดีของฝ่ายความมั่นคงที่เป็นปลายน้ำ มาดูแลใบอนุญาตที่ไม่ถูกต้อง ดูแลเรื่องทางหนีไฟ ถ้าเกิดเหตุเดี๋ยวเป็นประเด็นอีก” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับเรื่องการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำประปา ตนได้คุยกับนายฉัตรชัย จะเอาน้ำจากเขื่อนเชี่ยวหลานผ่านจังหวัดกระบี่ พังงา ให้มาใช้ที่ภูเก็ต ลดการขาดแคลนน้ำ ส่วนกรณีนักท่องเที่ยวไม่มีใบขับขี่แล้วใช้พาสปอร์ตเป็นหลักฐานการเช่ารถ เมื่อถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมทำให้ไม่มีเอกสารยืนยัน อาจจะถูกมองว่าเราเข้มเกินไป กลัวนักท่องเที่ยวไม่พอใจ แต่ยืนยันว่ากฎหมายต้องมาก่อน ไม่เช่นนั้นนักท่องเที่ยวจะไม่ทำตามกฎหมาย และว่า “ถ้าเขาจะไม่มา เพราะเราเข้มข้นก็ไม่เป็นไร เพราะเป็นนักท่องเที่ยวที่ไม่มีคุณภาพ เราต้องการนักท่องเที่ยวที่เคารพกฎหมายของประเทศไทย”

นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีข่าวนักท่องเที่ยวต่างชาติร่วมเพศกลางทะเลที่หาดป่าตอง จะดำเนินการอย่างไร ว่า เป็นเรื่องของความเหมาะสม ต้องเคารพวัฒนธรรมที่ดีของไทย หากทำผิดต้องสั่งลงโทษทันที ไม่มีข้อยกเว้น

ส่วนการผลักดันให้จ.ภูเก็ตเป็นพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ได้รับหนังสือข้อเสนอดังกล่าว หากได้รับจะต้องพิจารณาว่าเขตเศรษฐกิจพิเศษคืออะไร แต่ต้องดูว่าหากเป็นโรงงานอุตสาหกรรมอาจไม่เหมาะสม เพราะเราเน้นเรื่องการท่องเที่ยว หากจะยกระดับจ.ภูเก็ตธุรกิจที่ควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวก็ยินดี

เมื่อถามย้ำว่า หากจะยกเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษเฉพาะด้านท่องเที่ยวจะสามารถทำได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ต้องยกระดับ เพราะเกาะภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว มีศักยภาพสูง เราจะยกระดับขึ้นไปอีก ซึ่งการสร้างเศรษฐกิจพิเศษต้องไม่เป็นภัยกับการท่องเที่ยว ถ้าเป็นไปได้อาจต้องเป็นเศรษฐกิจพิเศษเชิงวัฒนธรรมประเพณี ซึ่งสนับสนุนอุตสาหกรรมพื้นบ้านและดึงดูดนักท่องเที่ยวได้

ส่วนการนำน้ำมาจากเขื่อนเชี่ยวหลานมาใช้เพื่อแก้ปัญหาจ.กระบี่ขาดแคลนน้ำ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เพิ่งสั่งการไปในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาให้ศึกษาเรื่องดังกล่าว ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน และจะมีรายละเอียดที่ชัดเจน ยืนยันเรื่องนี้จะมีความคืบหน้าอย่างแน่นอน ไม่ต้องห่วง รัฐบาลให้ความสำคัญการยกระดับภูเก็ตโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งประปา ไฟฟ้า ถนนที่ภูเก็ต

เมื่อถามถึงการแก้ไขปัญหาจราจรในจ.ภูเก็ต นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของสะพานสารสินอยู่ระหว่างการศึกษาแนวทาง เพื่อให้เรือยอร์ชวิ่งรอบเกาะได้ ส่วนเรื่องนการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากตัวเมืองไปสนามบินที่บางวันใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมง จึงสร้างทางคู่ขนาน ขุดอุโมงค์ สร้างทางเล็ก ๆ ระบายการจราจร มั่นใจว่าการจราจรที่จ.ภูเก็ตต้องดีขึ้น.-316.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย