นายกฯ ชูนิ้วโป้งให้ “สุดาวรรณ” เต็ม 10 จุดพลังท่องเที่ยวปี 68

ทำเนียบ 2 เม.ย.- นายกฯ ร้องว้าว ชูนิ้วโป้ง ชม “สุดาวรรณ” สุภาพสตรีตัวเล็กใจใหญ่ บอกคิดใหญ่ทำเป็น ให้ 10 เต็ม 10 จุดพลังท่องเที่ยวปี 68


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในงานแสดงวิสัยทัศน์ Thailand Tourism 2025 ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล โดยมี น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายภูมิธรรม เวชยชัย รอง นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี นายเสริมศักดิ์ พงษ์พาณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ  ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  ในฐานะ รักษาการณ์ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมงาน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ว้าว ก่อนระบุว่า ตนก็ว่าตนลงลึกเรื่องของการท่องเที่ยวแล้ว แต่พอมาชมการนำเสนอของ น.ส.สุดาวรรณ รัฐมนตรีท่องเที่ยวฯ สุภาพสตรี ที่ตัวเล็กแต่ใจใหญ่ คิดใหญ่ทำเป็น งานยังไม่ได้ถูกเริ่ม แต่วันนี้รู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่เกิดมาเป็นคนไทยที่จะใช้ประเทศไทยเป็นเวทีในการต้อนรับแขกผู้มาเยือนจากทั่วโลก ซึ่งอย่างที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวระบุว่าเรื่องดีๆ เหล่านี้ จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากไม่ได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งภาคเอกชน ห้างร้านต่างๆ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการต่างประเทศ ผู้แทนการค้า รัฐมนตรีวัฒนธรรม รวมถึงสื่อมวลชน ที่ร่วมมือกัน ทำให้ IGNITE THAILAND ซึ่งเป็นแกนสำคัญ ที่เป็นจิ๊กซอว์หนึ่งที่สำคัญที่จะทำให้การท่องเที่ยวไทยกระจายไปทั่วโลก และยังมีอีกหลายหน่วยงาน รวมถึงหลายขั้นตอนที่ยังไม่ได้เอ่ยถึง


“เชื่อว่าวันนี้ที่ได้มีการประกาศว่าประเทศไทยจะเป็นประเทศหนึ่งที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ด้วย 5 กลยุทธ์สำคัญ ซึ่งดูแล้วทุกอย่างเป็นไปตามการคิดที่ครบกระบวน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของซอฟต์แวร์ ตั้งแต่ก้าวแรกที่นักท่องเที่ยวถึงประเทศไทย เรื่องของ การตรวจคนเข้าเมือง เรื่องการใช้มัคคุเทศก์เรื่องของสถานที่ต่างๆ จนถึงการส่งนักท่องเที่ยวกลับบ้าน เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ทีมงานได้คิดมาเป็นอย่างดี เพียงแต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ยังมีเรื่อง world event ที่อยู่ระหว่างการเจรจา โดยมั่นใจว่าในอีก 3 – 6 เดือนข้างหน้าจะมีworld event ทยอยมาเปิดตัวในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง” นายเศรษฐา กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ประเทศไทยถือเป็นประเทศผู้นำในกลุ่ม CLMV  และมีผู้นำประเทศอื่น พูดว่าไทยถือเป็นพี่ใหญ่เรื่องการท่องเที่ยว ดังนั้นเราพร้อมที่จะเป็นตัวเชื่อมศูนย์กลางการท่องเที่ยว จะเป็น Fast destination ไปไหนมาไหนสะดวกสบายยิ่งขึ้น ยกระดับภูมิภาคอาเซียนไปสู่ระดับโลกได้ และคงไม่ต้องพูดถึงว่า การท่องเที่ยวของไทยสามารถทำได้ทันที ทำแล้วนำเงินเข้ากระเป๋าสู่ประชาชนไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร การจัดกิจกรรม เหล่านี้ถือเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญและจะช่วยผลักดันอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ คงไม่ขอลงรายละเอียดมากเนื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ได้นำเสนออยู่ในระดับเกรด 10 เต็ม 10 ในวันนี้

นายกรัฐมนตรี ยังฝากว่าทุกหน่วยงานต้องทำงานไปด้วยกันหน่วยงานรัฐทุกหน่วยงานภาคเอกชนหากนักท่องเที่ยวมาแล้วมีความสุขมีความปลอดภัยสุขกายสุขใจเชื่อว่าเขาจะกลับมาอีก พร้อมขอฝากรายการใหญ่ที่จะเกิดขึ้นคือเย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ในปีนี้ ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นแล้วถือเป็นงานอีเวนท์แรกแรกที่จะเกิดขึ้นในปีนี้และเป็นนิมิตหมายอันดีซึ่งเป็นวันปีใหม่ของประเทศไทยขอให้ คลิกออฟการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้ยิ่งใหญ่


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดระยะเวลาของกล่าวการเปิดงาน นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นระยะ โดยในช่วงท้าย เมื่อนายกรัฐมนตรี กล่าวชมว่าการแถลงข่าวของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ  ได้เกรด 10 เต็ม 10 ทำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ลุกขึ้นยกมือไหว้ขอบคุณและยิ้มตลอดการกล่าวเปิดงานของนายกรัฐมนตรี ท่ามกลางเสียงตบมือจากผู้เข้าร่วมงาน

ขณะที่ น.ส.สุดาวรรณ กล่าวว่า ตนมีตัวเลขที่อยากจะแจ้งให้ทุกคนทราบว่าเมื่อวานนี้ 1 เมษายน ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยถึง 9.4 ล้านคน เมื่อเทียบกับปี 2566 มีนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย 6.6 ล้านคน เมื่อเทียบกันแล้วเพิ่มขึ้น 42% สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากไม่ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ใช่เพียงกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพียงอย่างเดียว นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เราได้รับการยอมรับว่าประเทศไทยมีอาหารอร่อย มีสถานที่น่าท่องเที่ยวมากมาย มีวัฒนธรรมที่เป็นอัตลักษณ์ที่หลากหลายได้รับการการันตีจากรางวัลระดับโลกมากมาย ที่สำคัญคือคนไทยมีรอยยิ้ม มีน้ำใจไมตรี ไม่เหมือนชาติใดในโลก หรืออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เราเคยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจถึง 18.64 % ของ GDP ในปี 2560 และในปี 2562 เราเคยสร้างมูลค่าให้ประเทศเกือบ 3.3 ล้านล้านบาท ซึ่งปีนี้ได้รับนโยบายโจทย์ใหญ่จากนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้ตั้งเป้าจะสร้างรายได้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในปี 2567 ให้ถึง 3.5 ล้านล้านบาท และการที่จะไปถึงเป้าหมายต้องได้รับความร่วมมือร่วมใจ โดยมั่นใจในศักยภาพของเมืองไทยจะทำให้เราไปสู่เป้าหมายอย่างแน่นอน

“ก้าวต่อไปจะต้องปักหมุดการท่องเที่ยวในปีหน้า ต้องปังกว่าเดิมและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และประเทศไทยไม่เคยหลับไหล เราจะเพิ่มมิติการท่องเที่ยว ซึ่งการท่องเที่ยวจะพาประเทศไทยไปสู่ช่วงเวลาที่สดใส และบรรยากาศแห่งความสุข เราจะเป็น TOURISM HUB เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ด้วยศักยภาพการท่องเที่ยวของไทยซึ่งจะสอดรับกับเป้าหมาย Thailand Aviation Hub ที่จะรองรับนักเดินทางได้ถึง 150ล้านคน ต่อปี ภายในปี 2030” น.ส.สุดาวรรณ กล่าว

น.ส. สุดาวรรณ ยังกล่าวอีกว่ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้จัดทำ 5 กลยุทธ์หลัก มัดใจนักท่องเที่ยวคือ 5 Must do in Thailand ด้วยการสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว ตั้งแต่เดินทางถึงประเทศไทยจนกระทั่งเดินทางกลับ พร้อมตั้งเป้าภายใน 3 เดือน นักท่องเที่ยวจะไม่ต้องรอคิวนานอีกต่อไป มีโปรโมชั่นและมาตรฐานโรงแรมทั่วประเทศ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมีการเพิ่มฟรีวีซ่าให้กับหลายประเทศ ทั้งนี้จะมีการดึงจุดแข็งของประเทศไทยที่ไม่เหมือนใคร เมื่อมาถึงเมืองไทย มีสิ่งที่จะต้องทำ  5 อย่าง คือมวยไทย อาหารไทย วัฒนธรรมไทย ผ้าไทย และโชว์ไทย

ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังนายกฯกล่าวเสร็จสิ้น ก่อนร่วมถ่ายภาพหมู่ นายกฯได้หันไปยกนิ้วโป้ง ชื่นชม น.ส.สุดาวรรณ ขณะที่ น.ส.สุดาวรรณ ได้ยกมือไหว้ขอบคุณนายกฯ จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เดินชม บูธจัดแสดงสินค้าและอาหาร 4 ภาค โดยนายกรัฐมนตรีได้รับมอบเมี่ยงดอกบัว เสื้อมอโตจีพี พร้อมลายเซ็นของนักแข่งด้วย.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]

สำนักพุทธฯ สั่งเข้มทุกวัด เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส.

19 ก.ค.-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการจัดทำบัญชีเงินฝาก รายรับ-รายจ่าย และงบดุลของวัด ให้ถูกต้องและเป็นระบบ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยการเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกับวัด และระบุชื่อบัญชีเงินฝากเป็นชื่อวัดเท่านั้น โดยมีรายชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินอย่างน้อย 3 คน ซึ่งในการถอนเงินต้องมีผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 และมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง โดยใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเท่านั้น ในส่วนของบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้รายงานบัญชีของวัดทุกบัญชี สรุปเป็นรายเดือน จำนวน 12 เดือน ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ นอกจากนี้ทุกวัดควรพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ร่วมด้วย เพื่อแสดงข้อมูลบริจาคที่ครบถ้วน และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ติดตามอย่างเคร่งครัด โดยสำนักพระพุทธศาสนาฯ จะกำกับดูแล หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบัญชี และรายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่

กทม. 19 ก.ค. – รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่ ระบุข้อมูลคดีใหม่ เป็นพระในพื้นที่ต่างจังหวัด และไม่เกี่ยวกับคดี “กอล์ฟ” พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า เพิ่งรับทราบจากสื่อมวลชนเกี่ยวกับกระแสข่าวลือพาดพิงถึงพระชั้นผู้ใหญ่บางรูป ซึ่งไม่ต้องการให้มีการเผยแพร่ข่าวลือจนสร้างความเสียหาย โดยยืนยันว่าที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า ยังมีพระชั้นผู้ใหญ่มีความเกี่ยวข้องสีกาอีก แต่ไม่เกี่ยวข้องกับกอล์ฟ เป็นพระที่มีสมณศักดิ์สูงกว่าพระในคดีกอล์ฟ แต่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ไม่ใช่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการกระทำเข้าข่ายผิดวินัยสงฆ์ โดยไม่เกี่ยวข้องกับคดีกอล์ฟ และยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ได้หลักฐานชัดเจนก่อน ส่วนการตั้งศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เพื่อรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพระโดยเฉพาะ ขณะนี้ มีประชาชนแจ้งเบาะแสมาแล้วหลายร้อยสาย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังคัดแยกข้อมูล จึงยังไม่สามารถตอบได้ว่า จะมีเรื่องที่เกี่ยวกับกอล์ฟอีกหรือไม่.-412-สำนักข่าวไทย