นายกฯ ชูนิ้วโป้งให้ “สุดาวรรณ” เต็ม 10 จุดพลังท่องเที่ยวปี 68

ทำเนียบ 2 เม.ย.- นายกฯ ร้องว้าว ชูนิ้วโป้ง ชม “สุดาวรรณ” สุภาพสตรีตัวเล็กใจใหญ่ บอกคิดใหญ่ทำเป็น ให้ 10 เต็ม 10 จุดพลังท่องเที่ยวปี 68


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในงานแสดงวิสัยทัศน์ Thailand Tourism 2025 ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล โดยมี น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายภูมิธรรม เวชยชัย รอง นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี นายเสริมศักดิ์ พงษ์พาณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ  ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  ในฐานะ รักษาการณ์ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมงาน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ว้าว ก่อนระบุว่า ตนก็ว่าตนลงลึกเรื่องของการท่องเที่ยวแล้ว แต่พอมาชมการนำเสนอของ น.ส.สุดาวรรณ รัฐมนตรีท่องเที่ยวฯ สุภาพสตรี ที่ตัวเล็กแต่ใจใหญ่ คิดใหญ่ทำเป็น งานยังไม่ได้ถูกเริ่ม แต่วันนี้รู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่เกิดมาเป็นคนไทยที่จะใช้ประเทศไทยเป็นเวทีในการต้อนรับแขกผู้มาเยือนจากทั่วโลก ซึ่งอย่างที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวระบุว่าเรื่องดีๆ เหล่านี้ จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากไม่ได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งภาคเอกชน ห้างร้านต่างๆ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการต่างประเทศ ผู้แทนการค้า รัฐมนตรีวัฒนธรรม รวมถึงสื่อมวลชน ที่ร่วมมือกัน ทำให้ IGNITE THAILAND ซึ่งเป็นแกนสำคัญ ที่เป็นจิ๊กซอว์หนึ่งที่สำคัญที่จะทำให้การท่องเที่ยวไทยกระจายไปทั่วโลก และยังมีอีกหลายหน่วยงาน รวมถึงหลายขั้นตอนที่ยังไม่ได้เอ่ยถึง


“เชื่อว่าวันนี้ที่ได้มีการประกาศว่าประเทศไทยจะเป็นประเทศหนึ่งที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ด้วย 5 กลยุทธ์สำคัญ ซึ่งดูแล้วทุกอย่างเป็นไปตามการคิดที่ครบกระบวน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของซอฟต์แวร์ ตั้งแต่ก้าวแรกที่นักท่องเที่ยวถึงประเทศไทย เรื่องของ การตรวจคนเข้าเมือง เรื่องการใช้มัคคุเทศก์เรื่องของสถานที่ต่างๆ จนถึงการส่งนักท่องเที่ยวกลับบ้าน เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ทีมงานได้คิดมาเป็นอย่างดี เพียงแต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ยังมีเรื่อง world event ที่อยู่ระหว่างการเจรจา โดยมั่นใจว่าในอีก 3 – 6 เดือนข้างหน้าจะมีworld event ทยอยมาเปิดตัวในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง” นายเศรษฐา กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ประเทศไทยถือเป็นประเทศผู้นำในกลุ่ม CLMV  และมีผู้นำประเทศอื่น พูดว่าไทยถือเป็นพี่ใหญ่เรื่องการท่องเที่ยว ดังนั้นเราพร้อมที่จะเป็นตัวเชื่อมศูนย์กลางการท่องเที่ยว จะเป็น Fast destination ไปไหนมาไหนสะดวกสบายยิ่งขึ้น ยกระดับภูมิภาคอาเซียนไปสู่ระดับโลกได้ และคงไม่ต้องพูดถึงว่า การท่องเที่ยวของไทยสามารถทำได้ทันที ทำแล้วนำเงินเข้ากระเป๋าสู่ประชาชนไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร การจัดกิจกรรม เหล่านี้ถือเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญและจะช่วยผลักดันอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ คงไม่ขอลงรายละเอียดมากเนื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ได้นำเสนออยู่ในระดับเกรด 10 เต็ม 10 ในวันนี้

นายกรัฐมนตรี ยังฝากว่าทุกหน่วยงานต้องทำงานไปด้วยกันหน่วยงานรัฐทุกหน่วยงานภาคเอกชนหากนักท่องเที่ยวมาแล้วมีความสุขมีความปลอดภัยสุขกายสุขใจเชื่อว่าเขาจะกลับมาอีก พร้อมขอฝากรายการใหญ่ที่จะเกิดขึ้นคือเย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ในปีนี้ ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นแล้วถือเป็นงานอีเวนท์แรกแรกที่จะเกิดขึ้นในปีนี้และเป็นนิมิตหมายอันดีซึ่งเป็นวันปีใหม่ของประเทศไทยขอให้ คลิกออฟการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้ยิ่งใหญ่


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดระยะเวลาของกล่าวการเปิดงาน นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นระยะ โดยในช่วงท้าย เมื่อนายกรัฐมนตรี กล่าวชมว่าการแถลงข่าวของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ  ได้เกรด 10 เต็ม 10 ทำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ลุกขึ้นยกมือไหว้ขอบคุณและยิ้มตลอดการกล่าวเปิดงานของนายกรัฐมนตรี ท่ามกลางเสียงตบมือจากผู้เข้าร่วมงาน

ขณะที่ น.ส.สุดาวรรณ กล่าวว่า ตนมีตัวเลขที่อยากจะแจ้งให้ทุกคนทราบว่าเมื่อวานนี้ 1 เมษายน ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยถึง 9.4 ล้านคน เมื่อเทียบกับปี 2566 มีนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย 6.6 ล้านคน เมื่อเทียบกันแล้วเพิ่มขึ้น 42% สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากไม่ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ใช่เพียงกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพียงอย่างเดียว นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เราได้รับการยอมรับว่าประเทศไทยมีอาหารอร่อย มีสถานที่น่าท่องเที่ยวมากมาย มีวัฒนธรรมที่เป็นอัตลักษณ์ที่หลากหลายได้รับการการันตีจากรางวัลระดับโลกมากมาย ที่สำคัญคือคนไทยมีรอยยิ้ม มีน้ำใจไมตรี ไม่เหมือนชาติใดในโลก หรืออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เราเคยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจถึง 18.64 % ของ GDP ในปี 2560 และในปี 2562 เราเคยสร้างมูลค่าให้ประเทศเกือบ 3.3 ล้านล้านบาท ซึ่งปีนี้ได้รับนโยบายโจทย์ใหญ่จากนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้ตั้งเป้าจะสร้างรายได้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในปี 2567 ให้ถึง 3.5 ล้านล้านบาท และการที่จะไปถึงเป้าหมายต้องได้รับความร่วมมือร่วมใจ โดยมั่นใจในศักยภาพของเมืองไทยจะทำให้เราไปสู่เป้าหมายอย่างแน่นอน

“ก้าวต่อไปจะต้องปักหมุดการท่องเที่ยวในปีหน้า ต้องปังกว่าเดิมและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และประเทศไทยไม่เคยหลับไหล เราจะเพิ่มมิติการท่องเที่ยว ซึ่งการท่องเที่ยวจะพาประเทศไทยไปสู่ช่วงเวลาที่สดใส และบรรยากาศแห่งความสุข เราจะเป็น TOURISM HUB เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ด้วยศักยภาพการท่องเที่ยวของไทยซึ่งจะสอดรับกับเป้าหมาย Thailand Aviation Hub ที่จะรองรับนักเดินทางได้ถึง 150ล้านคน ต่อปี ภายในปี 2030” น.ส.สุดาวรรณ กล่าว

น.ส. สุดาวรรณ ยังกล่าวอีกว่ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้จัดทำ 5 กลยุทธ์หลัก มัดใจนักท่องเที่ยวคือ 5 Must do in Thailand ด้วยการสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว ตั้งแต่เดินทางถึงประเทศไทยจนกระทั่งเดินทางกลับ พร้อมตั้งเป้าภายใน 3 เดือน นักท่องเที่ยวจะไม่ต้องรอคิวนานอีกต่อไป มีโปรโมชั่นและมาตรฐานโรงแรมทั่วประเทศ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมีการเพิ่มฟรีวีซ่าให้กับหลายประเทศ ทั้งนี้จะมีการดึงจุดแข็งของประเทศไทยที่ไม่เหมือนใคร เมื่อมาถึงเมืองไทย มีสิ่งที่จะต้องทำ  5 อย่าง คือมวยไทย อาหารไทย วัฒนธรรมไทย ผ้าไทย และโชว์ไทย

ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังนายกฯกล่าวเสร็จสิ้น ก่อนร่วมถ่ายภาพหมู่ นายกฯได้หันไปยกนิ้วโป้ง ชื่นชม น.ส.สุดาวรรณ ขณะที่ น.ส.สุดาวรรณ ได้ยกมือไหว้ขอบคุณนายกฯ จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เดินชม บูธจัดแสดงสินค้าและอาหาร 4 ภาค โดยนายกรัฐมนตรีได้รับมอบเมี่ยงดอกบัว เสื้อมอโตจีพี พร้อมลายเซ็นของนักแข่งด้วย.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

เจอแล้ว! เจ้าของเงิน 12 ล้าน ซุกกล่องทิ้งหน้าลิฟต์คอนโดฯ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – โผล่แล้ว! “ทวีวัฒน์” เจ้าของเงินสด 12 ล้านบาท ซุกกล่องพลาสติก ทิ้งหน้าลิฟต์คอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี อ้างเป็นเงินเก็บตั้งแต่สมัยเป็นทนายความ ที่ห้องพักน้ำรั่ว จึงเก็บของมาทิ้ง ลืมว่ามีเงินเก็บไว้ในกล่อง เมื่อเวลา 19.00 น. วันนี้ (6 มิ.ย.68) พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.1 ได้เชิญตัวนายทวีวัฒน์ เจ้าของเงิน 12 ล้านบาท ซุกกล่องพลาสติก ทิ้งหน้าลิฟต์คอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี มาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม เบื้องต้น พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ เผยว่า นายทวีวัฒน์ อ้างว่า เงินจำนวนดังกล่าวเป็นของตน ตั้งแต่สมัยเป็นทนายความ ส่วนสาเหตุที่นำมาทิ้ง เนื่องจากน้ำรั่วภายในห้องพัก จึงเก็บข้าวของในห้องที่ถูกน้ำท่วมมาทิ้ง โดยลืมว่ามีเงินเก็บไว้อยู่ในกล่อง พอทราบเรื่องก็เลยมาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของเงิน พร้อมให้ตรวจสอบเงินจำนวนดังกล่าว อ้างมีหลักฐานยืนยันว่า เงินดังกล่าวได้มาตั้งแต่ปี 2563 ก่อนมารับตำแหน่งคณะอนุกรรมการ กสทช. […]

โซเชียลแห่ติด #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด

6 มิ.ย. – ท่ามกลางสถานการณ์ชายแดนตึงเครียด มีการส่งกำลังใจให้ผู้ทำหน้าที่ปกป้องประเทศชาติ ด้วยแฮชแท็ก #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ที่กำลังร้อนแรงในโลกโซเซียลขณะนี้ หลัง “กองทัพบก Royal Thai Army” เชิญชวนคนไทยติดแฮชแท็ก #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด เพื่อให้กำลังใจทหารที่ปฏิบัติงานปกป้องประเทศชาติ บทเพลงต่างๆ ที่สื่อถึงความรักประเทศไทย ก็ถูกนำมาโพสต์ลงโซเซียลในช่วงนี้เช่นกัน หรือจะเป็นกระแสหกเดือนหก ที่นักช้อปออนไลน์รู้จักกันดี ทางกองทัพก็สามารถนำมาโยง ให้เห็นถึงความพร้อมของกำลังพล อย่างกองทัพอากาศ โพสต์ภาพ ทหารติดระเบิดบนเครื่องบินรบ นามเรียกขาน “Lightning” พร้อมบรรยายด้วยข้อความ สั่งวันนี้ • ส่งทันที • ถึงที่หมาย แสดงถึงการพร้อมขึ้นปฏิบัติการสายฟ้าฟาด ปกป้องอธิปไตย พร้อมกันนี้ มีการติด #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ด้วย เช่นเดียวกับ เพจกองทัพบก โพสต์ภาพทหารโดดร่ม พร้อมข้อความ Army ส่งด่วน และ #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ไม่เพียงแต่เหล่าทัพที่จุดกระแสรักชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ประกาศจุดยืน ปกป้องรักษาอธิปไตยของชาติ พร้อมบังคับใช้กฎหมาย และสนับสนุนการปฏิบัติทางยุทธการ พิทักษ์พื้นที่ชายแดน […]

สมช.ตั้ง คกก.เฉพาะกิจ แก้ปัญหามั่นคงชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 6 มิ.ย.- สมช. ตั้ง คกก.เฉพาะกิจ แก้ไขปัญหาความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา มอบ “กองทัพ” ประสานการปฏิบัติ พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์-ปกป้องอธิปไตย สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ออกเอกสารข่าว ภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2568 โดยที่ประชุม สมช. ได้รับทราบพัฒนาการของสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา รวมทั้งการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยที่ประชุมฯ ได้เตรียมพร้อมการกำหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ และการสื่อสารทำความเข้าใจกับสังคมและประชาชน รวมถึงนานาชาติ เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างถ่องแท้ โดยให้จัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ทำหน้าที่ติดตาม ประสานงาน และเสนอแนะมาตรการเพิ่มเติม หากฝ่ายกัมพูชามีการยกระดับปัญหา ในการนี้ มอบหมายให้กองทัพประสานการปฏิบัติ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ โดยให้ความสำคัญกับการปกป้องอธิปไตยและการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อประโยชน์สูงสุดในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ ทั้งนี้ จะดำเนินการโดยสอดคล้องกับแนวทางการเจรจาใน JBC ระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายน 2568 […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]