รัฐสภา 14 มี.ค.-“โรม” ยันทำตามระเบียบ กกต.เรื่องใช้ประเด็นแก้ ม.112 ชี้ควรให้ก้าวไกลชี้แจง ก่อนส่งศาล รธน. มองยุบพรรคเป็นการทำลายฝ่ายค้าน
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตุว่าหากพรรคถูกยุบจริง สส.148 คนจะยังคงยึดมั่นในอุดมการณ์รวมเป็นกลุ่มเดิมหรือไม่ ว่า ขณะนี้อยู่ในกระบวนการรับมือทุกรูปแบบ เข้าใจว่าการยุบพรรคมีหลากหลายส่วนประกอบกัน สื่อมวลชนเองก็ต้องการชวนคิด ชวนตั้งสถานการณ์ที่อาจเป็นไปได้ ตอนนี้อยากให้ความสำคัญกับการต่อสู้คดีกับการไม่ถูกยุบพรรค นอกจากนี้พรรคก้าวไกลยังพยายามชี้ให้องค์กรที่มีอำนาจรู้ว่าการยุบพรรคการเมืองไม่ใช้หนทางของการแก้ไขปัญหา ไม่ได้ทำให้การเมืองดีขึ้น ซ้ำยังทำให้ประเทศไทยล้าหลังไม่รู้กี่รอบ
“กกต.ควรให้สิทธิพรรคชี้แจงก่อน อยู่ ๆ มารวบรัดยื่นยุบพรรค โดยกล่าวหาว่าคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเป็นที่สุดแล้วไม่ได้ และต้องย้อนกลับไปถึงตอนที่เสนอนโยบายแก้ไข มาตรา 112 ผมขอยืนยันว่าที่ผ่านมาปฏิบัติตามระเบียบของกกต.ในการเสนอนโยบายทุกประการ เพียงแต่ว่ากกต.ไม่ยอมรับฟัง ซึ่งการกระทำของกกต.ครั้งนี้ อาจเป็นสิ่งที่สังคมตั้งคำถามว่าทำไมพรรคก้าวไกลถึงถูกปองร้าย แต่กลับกันพรรคภูมิใจไทยกลับไม่โดนอะไร และถ้าพรรคก้าวไกลในฐานะผู้นำฝ่ายค้านถูกยุบจริง การทำหน้าที่ฝ่ายค้านจะเป็นอย่างไรต่อไป สังคมโลกจะมองว่านี่คือการทำลายฝ่ายค้านหรือไม่” นายรังสิมันต์ กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ส่วนประเด็นที่กกต.ชี้แจงว่าหลักฐานสำคัญการยื่นยุบพรรคครั้งนี้ คือคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อนหน้านี้ ตนมองว่าเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่มีการวินิจฉัยตามมาตรา 49 แต่ในคำวินิจฉัยเดียวกันไม่มีคำสั่งว่าให้ยุบหรืออย่างไร ซึ่งในขั้นตอนที่กกต.ทำเป็นเรื่องที่แยกส่วนกัน และกฎหมายเองก็เปิดช่องที่จะมอบความเป็นธรรมให้ แต่กกต.ไม่ทำ เพราะมีการใช้อำนาจยื่นยุบพรรคตามพ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 92 แทนที่จะเป็น มาตรา 93.-317.-สำนักข่าวไทย