โรงเรียน เสธ.ทบ. 12 มี.ค. – “กองทัพบก” ประชุมกำหนดอนาคตกองทัพฯ ปี 80 ปรับโครงสร้างให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ย้ำ นโยบายรัฐบาลแม้บางอย่างเป็นยาขม แต่ก็ต้องทำ
พล.อ. เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงวิชาการเพื่อร่วมกำหนดอนาคตกองทัพบกในปี 2580 (RTA 5.0 Conference) ว่า เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า บริบทของสถานการณ์ความมั่นคงในปัจจุบัน ที่มีการแผ่ขยายของอิทธิพลจากประเทศมหาอํานาจ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ทรัพยากรและเทคโนโลยีก็ได้ก่อให้เกิดปัญหาทางภูมิลักษณะ อีกทั้งยังมีปัญหาที่จะกระทบกับความมั่นคงภายใน เช่น ปัญหายาเสพติด ลักลอบเข้าเมือง อาชญากรข้ามชาติ รวมทั้งการสู้รบในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งส่งผลกระทบกับความมั่นคง ความปลอดภัยชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน และจากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้หลายประเทศปรับเปลี่ยนมุมมองการพัฒนากองทัพ ให้ได้โครงสร้าง กำลังพลยุทโธปกรณ์ โดยมีการนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างกว้างขวาง เพื่อรักษาซึ่งผลประโยชน์ของชาติตลอดจนเป็นหลักประกันในการที่จะตอบสนองความขัดแย้ง
ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องปรับโครงสร้างให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เพื่อพัฒนาต่อยอด กองทัพบกให้เป็นกองทัพบกที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพและเป็นที่เชื่อมั่นของประชาชน
จากนั้น พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บรรยายพิเศษ หัวข้อสถานการณ์ ความมั่นคงในปัจจุบันและนโยบายรัฐบาลในการปรับปรุงกองทัพ ว่า ข้อเท็จจริงในเรื่องข้อกฎหมายในพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม 2551 ที่ระบุถึงความสำคัญทางทหาร และอำนาจหน้าที่สำคัญ ที่รัฐต้องจัดให้มีการทหาร การทูต และการข่าวกรองที่มีประสิทธิภาพ หน้าที่คือความมั่นคงในราชอาณาจักร และต้องพัฒนาประเทศเพื่อความมั่นคง สนับสนุนภารกิจอื่นของรัฐในการพัฒนาประเทศและ การป้องกันและแก้ไขปัญหาจากภัยพิบัติ รวมถึงการช่วยเหลือประชาชน และ การปฏิบัติการอื่นที่เป็นการปฏิบัติทางการทหารนอกเหนือจากสงคราม ทั้งนี้หน้าที่ของกองทัพยังสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ ไปสู่ความทันสมัย เพื่อให้สามารถรองรับปฏิบัติการทางไซเบอร์และอวกาศ
สำหรับนโยบายรัฐบาลชุดปัจจุบันสนับสนุนให้มีการปรับโครงสร้างหน่วยงานความมั่นคงให้มีความทันสมัยและ ตอบสนองต่อการคุกคาม และภัยความมั่นคงรูปแบบใหม่ในศตวรรษที่ 21 โดยรัฐบาลจะเปลี่ยนรูปแบบการเกณฑ์ทหารเป็นแบบสมัครใจ ,ปรับปรุงการฝึกทหารให้เป็นแบบสร้างสรรค์ ,ลดกำลังพลทหารสัญญาบัตรระดับสูง ,กำหนดอัตรากำลังในกอ.รมน.ให้สอดคล้องกับปัจจุบันปรับปรุง ,กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างให้ทันสมัย โปร่งใส ตรวจสอบได้ ,นำพื้นที่ของหน่วยทหารที่เกิดความจำเป็น (ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์)มาใช้ประโยชน์ต่อประชาชน แม้บางข้อจะลำบากใจ และเป็นยาขม แต่ก็จะต้องดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
ส่วนนโยบายเฉพาะของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คือเร่งรัดดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลตามดำริของนายกรัฐมนตรี และเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ในทุกโอกาส ทั้งนี้ งบกลาโหมมีแนวโน้มจะลดลง แต่งบบุคลกรและกำลังพลกำลังเพิ่มขึ้นแม้จะมีบุคคลากรเท่าเดิมแต่เลื่อนตำแหน่งงบก็ต้องเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตามกำลังพลระดับปฏิบัติการยังขาดแคลนอยู่
ดังนั้น แนวการในการพัฒนาปรับปรุงโครงสร้างกำลังกองทัพ ควรจบรรลุเป้าหมายให้เป็นไปตาม รัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติ รวมทั้งตอบสนองนโยบาย และแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคง นโยบายรัฐบาลและนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อีกทั้งต้องพร้อมรบ อ่อนตัว ทันสมัย มีความเป็นรูปธรรม และสามารถปฏิบัติได้จริง รวมถึงไม่เกิดผลกระทบต่อกำลังพลปัจจุบันมากนัก.-313.-สำนักข่าวไทย