รัฐสภา 8 มี.ค.-โฆษกกมธ.งบ 67 เผย ตัดงบกว่า 9 พันล้านบาท ส่งสัญญาณเตือนจัดงบ 68 ให้เหมาะสม ไม่คืนงบให้กองทัพเรือซื้อฟริเกต แต่คืนให้ปภ.ซื้อเฮลิคอปเตอร์ดับเพลิง
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 เปิดเผยว่าคณะกรรมาธิการฯ ได้พิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567ของหน่วยงานทั้งหมด 730 หน่วยงาน ครบ 100% เต็ม และวันนี้จะมารายงานหน่วยงานที่ไม่ขอรับงบประมาณ ส่วนวันพุธที่ 13 มีนาคมจะพิจารณาและรับรองรายมาตราเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนเข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 2 และ 3 ของสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 20 – 21 มีนาคม
“งบประมาณที่ปรับลดไปประมาณ 9,000 กว่าล้านบาท เป็นการส่งสัญญาณเตือนจากกรรมาธิการงบประมาณ ว่าเราดำเนินการตามกรอบนโยบายของคณะกรรมาธิการวิสามัญ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำหลายรอบว่าการนำเสนองบประมาณปีหน้าจะต้อง สอดรับและเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล คือการยึดประโยชน์ให้ประชาชนเป็นสำคัญ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาสให้กับพี่น้องประชาชน” นายอนุสรณ์ กล่าว
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ส่วนงบประมาณที่เกิดประโยชน์น้อย เช่นการสัมมนาฝึกอบรม การดูงานต่างประเทศ หากพิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นประโยชน์จริง ๆ จะต้องถูกปรับลดอย่างแน่นอน จึงใช้คำว่า 9,000 กว่าล้านที่ปรับลดเป็นการส่งสัญญาณถึงการจัดทำงบประมาณในปีหน้า แต่หากเป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยีและประชาชนได้ประโยชน์ ก็ยังคงสนับสนุน
สำหรับงบประมาณขอจัดซื้อเรือฟรีเกทของกองทัพเรือ กระทรวงกลาโหมนั้น นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ในชั้นอนุกรรมาธิการฯ ไม่ได้อนุมัติงบให้ และเมื่อคุยในชั้น กรรมาธิการห้องใหญ่ก็เห็นไปในแนวทางเดียวกันว่าการที่ตัดสินใจซื้อเรือฟรีเกต ข้อมูลยังไม่ได้ลึก presentation ยังเป็น 5 บริษัท ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าจะซื้อจากประเทศไหน อย่างไร จึงให้ไปทำการบ้านมาเพิ่ม และต้องนำเสนอให้ได้ว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนอย่างไร ทั้งนี้ เห็นว่าการซื้อเป็นเรื่องดี แต่ในสภาวะงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด จะต้องจัดลำดับความสำคัญว่าอะไรควรทำก่อนทำหลัง อะไรควรรอก่อน
“ไม่อยากให้ใช้คำว่ากรรมาธิการคว่ำ เพราะปีต่อไปก็สามารถนำกลับมาเสนอได้ ส่วนงบประมาณการจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ดับเพลิงของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย วงเงิน 950 ล้านบาทซึ่งถูกเบรคในชั้นอนุกรรมาธิการนั้น ทางคณะกรรมาธิการฯ มีมติอนุมัติให้แล้ว อย่างที่ผมเรียนเวลาเราพิจารณาในชั้นอนุฯต้องลงลึกในรายละเอียด อะไรที่อยู่ในข่ายจะซื้อมีอะไรสเปคเป็นอย่างไร ต้องพิจารณาโดยละเอียด และต้อง นำมาเสนอในห้องใหญ่ ถ้าเหตุผล เพียงพอสามารถทำได้ คณะกรรมที่การในห้องใหญ่ก็คืนให้” นายอนุสรณ์ กล่าว.-312.-สำนักข่าวไทย