รัฐสภา 14 ก.พ.-“เอกนัฏ” ชงญัตติด่วน อารักขาถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จ เพื่อเร่งให้บังคับใช้กฎหมาย ซัดเจ้าหน้าที่ทำงานช้า กว่าจะออกหมายจับ
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่าเตรียมเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา ขอให้สภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาทบทวนมาตรการการอารักขาถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงค์ให้มีความปลอดภัยเพื่อป้องปรามพฤติกรรมขัดขวางขบวนเสด็จอันอาจก่อให้เกิดอันตรายหรือเสื่อมเสียพระเกียรติยศ ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ตามข้อบังคับที่ 50 และ 50 ( 1) โดยจะเป็นการประชุมแบบเปิดเผย ไม่ได้ขอให้มีการประชุมลับ เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับขบวนเสด็จ หากไม่รีบแก้ไขอาจเกิดเหตุบานปลาย นำไปสู่ความไม่สงบกระทบต่อความมั่นคง ยืนยันว่าไม่ได้ต้องการซ้ำเติมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้เกิดความแตกแยก แต่ต้องการเสนอแนวทางปฏิบัติไปสู่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เร่งบังคับใช้กฎหมาย โดยอาจต้องทบทวน ระเบียบ มาตรการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากแม้จะมีกฎหมายอยู่แล้ว แต่ระเบียบกับแบบแผนการปฏิบัติ ยังไม่อัพเดท ให้ทันต่อสถานการณ์ รวมถึงต้องมีการฝึกซ้อมและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ แนวทางปฏิบัติ อีกทั้งยังเป็นโอกาสดีที่สภาผู้แทนราษฎรจะ รับฟังเสียงประชาชน ร่วมกันหารือแก้ปัญหาโดยเร็ว เป็นโอกาสดีที่จะเร่งรัด ทบทวน ฝึกซ้อม ถ้าปล่อยปละละเลยเกรงจะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว สร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน จนกระทบความมั่นคง
“ไม่อยากให้เกิดปัญหา และไม่อยากจะจินตนาการ ว่าการปล่อยปละละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ ในการถวายความปลอดภัย แล้วเกิดเหตุในลักษณะนี้ ซึ่งยกตัวอย่างในต่างประเทศ เคยเกิดหตุการณ์ที่ กับขบวนรถของ เจ้าหญิงไดอาน่า ที่ประเทศอังกฤษ เกิดจากความละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ทำให้จบด้วยโศกนาฏกรรม จึงไม่อยากให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก และเกรงจะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่นำไปสู่ความแตกแยก”นายเอกนัฎ กล่าว
ส่วนกรณีที่วันนี้(14 ก.พ.) จะมีการ ไปฝากขัง นางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ผู้ต้องหาในคดีก่อกวนขบวนเสด็จ นายเอกนัฏ ไม่ขอให้ความเห็นเรื่องนี้ เพราะไม่ใช่เรื่องของสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งการเสนอญัตติด่วน ต้องการที่จะพูดถึงเรื่องของมาตรการอารักขาความปลอดภัย เพราะส่งผลต่อความรู้สึกประชาชน เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ. แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ดำเนินการใดๆ ไม่ได้ออกหมายจับ จนผู้ต้องหาไปทำกิจกรรม ทำโพลที่สยามวันที่ 10 ก.พ. และเกิดเหตุปะทะกัน กับกลุ่มเห็นต่าง จนเกิดเหตุรุนแรงขึ้น ซึ่งญัตติวันนี้จะไม่ได้พูดถึงพฤติกรรมว่าเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม เนื่องจากสังคมได้ตัดสินไปแล้ว แค่ต้องการให้เร่งบังคับใช้กฎหมาย
ส่วนการพิจารณาในวันนี้จะใช้กรอบเวลาเท่าใดนั้น นายเอกนัฏ กล่าวว่า ตนจะเสนอญัตติ มีสส. พรรครวมไทยสร้างชาติจำนวนหนึ่งอภิปราย และนายอัครเดชวงศ์พิทักษ์โรจน์ จะเป็นคนอภิปรายสรุป
นอกจากนี้ นายเอกนัฏ ไม่ขอให้ความเห็นกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการพักโทษ และหลังพักโทษสถานการณ์การเมืองจะเป็นอย่างไร โดยระบุว่า ไม่สามารถประเมินได้ ขณะนี้ในใจ มีเพียงเรื่องเดียว คือญัตติที่จะเสนอวันนี้ และไม่เกี่ยวกับกรณีที่เป็นหนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาล จึงไม่กล้าพูดเรื่องนายทักษิณ โดยยืนยันว่าพูดได้ทุกเรื่อง.-312.-สำนักข่าวไทย