“วันนอร์” ของขึ้น! ขอ ตร.สภาเข้าชาร์จ หลังเถียงกันวุ่นปมญัตติใครขึ้นก่อน

รัฐสภา 3 เม.ย.- สภาเดือด “วันนอร์” ของขึ้น! ลุกยืน ขอ ตร.สภาเข้าชาร์จ หลังเถียงกันวุ่น เอาญัตติใครขึ้นก่อน เหตุ “อนุสรณ์” เสนอญัตติเลื่อนระเบียบวาระเอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ ไปพิจารณาครั้งถัดไป ซ้อน “เท้ง” เรื่องแผ่นดินไหว “ไอติม” ก็เดือด ทุบโต๊ะ แซะรัฐบาล ไม่กี่ชั่วโมงก็รอไม่ได้ จะเอา “กาสิโน” เข้าทันทีเลย ด้าน “ชัยชนะ” นั่งไม่ติดขอใช้สิทธิพาดพิง ยันพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้เห็นด้วยกับฝ่ายค้าน ทำ “ปกรณ์วุฒิ” โต้กลับ เบรกอย่าประท้วงมั่วซั่ว ขณะ “โรม” ลุกโวยปิดไมค์แต่ฝ่ายค้าน สุดท้ายแพ้ ญัตติขอเลื่อนระเบียบวาระถูกพิจารณาก่อน


ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ภายหลังพักประชุม เนื่องจากฝ่ายค้านและรัฐบาลถกเถียงกันเรื่องการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาเรื่องขอให้สภาฯ พิจารณามาตรการในการจัดการผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวอย่างเป็นระบบ เพื่อส่งต่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ดำเนินการต่อ ที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้เสนอ และญัตติด่วนด่วยวาจา เรื่องขอให้สภาเลื่อนระเบียบวาระ ที่เสนอโดยนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอ

โดยเวลา 14.45 น. ได้เปิดการประชุมอีกครั้ง หลังพักการประชุมประมาณ 30 นาที โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานในการประชุม


นายวันมูหะมัดนอร์ ถามที่ประชุมว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ ซึ่งนายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า เรามีวาระการพิจารณาที่ไม่เป็นไปตามระเบียบวาระ การเสนอเมื่อสักครู่ ยังไม่เข้าสู่การพิจารณา เมื่อมีญัตติมาในลักษณะทำนองนี้ สภาเห็นควรจะให้พิจารณาระเบียบวาระใดเป็นลำดับแรก โดยการเปลี่ยนระเบียบวาระใช้เวลาไม่นาน ไม่เกิน 10 นาที เรื่องแผ่นดินไหว ทุกคนสนใจอยู่แล้ว ท่านประธานก็ถามว่าเห็นควรจะนำเรื่องใดมาพิจารณาเป็นลำดับแรก

“การทำงานสภาเป็นไปตามข้อบังคับทุกอย่าง และเราเห็นความสำคัญของพี่น้องประชาชนไม่แพ้กัน เพียงแต่ว่าความจำเป็นในการเลื่อนระเบียบวาระ เนื่องจากเป็นกฎหมายข้อบังคับเขียนไว้ชัดเจน ญัตติที่เป็นกฎหมายเลื่อนแล้ว จะพิจารณาในคราวเดียวกันไม่ได้ จะต้องมีผลในวันต่อไป ถึงเป็นเหตุผลว่าเราจะใช้เวลาไม่เยอะ” นายแพทย์ชลน่าน กล่าว

ต่อมา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ตนคิดว่าจะมีผลประหลาด ถ้าให้ลงมติ ตนยังหาไม่เจอว่าประธานจะให้ขอให้ลงมติตามข้อบังคับข้อไหน และถ้าการลงมติในลักษณะนี้ เกิดไม่ได้มี 2 ญัตติ จะลงมติกันอย่างไร ที่เหลือจะต้องตกไปเลยหรือไม่ ตนคิดว่าอันนี้มันจะมีผลประหลาดมาก เมื่อสักครู่นี้ มีขั้นตอนหนึ่งที่ถูกข้ามไปคือประธานจะต้องถามว่ามีผู้ใดเห็นเป็นอื่นหรือไม่ แต่ก่อนหน้านี้ นายอนุสรณ์ได้ยกมือขึ้นมาขอเสนอญัตติก่อน และ 2 เรื่องนี้ก็เป็นคนละเรื่องกัน จึงอยากให้นายอนุสรณ์ถอนญัตติก่อน แล้วถามก่อนว่าจะมีใครเห็นเป็นอื่นกับญัตติของผู้นำฝ่ายค้านหรือไม่ แล้วจะเสนอญัตติอะไรขึ้นมาก็ว่ากันต่อ


นายวันมูหะมัดนอร์ จึงกล่าวว่าเป็นความเห็นไม่ตรงกัน ตนเองก็วินิจฉัยไม่ได้ เพราะไม่ให้อำนาจประธานสภาวินิจฉัย ในที่สุดก็ต้องโยนไปที่ประชุมสภา ว่าจะเอาอย่างไร ข้อบังคับมันไม่ได้เขียนไว้ชัดเจนขนาดนั้น

นายณัฐพงษ์ จึงกล่าวว่า หากกอร์เทปกลับไป ตนพยายามจะค้านแล้ว ฝ่ายค้านพยายามประท้วงแล้วว่าการเสนอญัตติของนายอนุสรณ์อาจจะไม่ชอบด้วยข้อบังคับ เนื่องจากการที่ตนเสนอญัตติแล้วจะต้องมีการถามที่ประชุมก่อนว่าใครเห็นเป็นอย่างอื่นหรือไม่

“วันนี้ไม่ได้มีอะไรเลย เว้นแต่ถ้าเราเดินหน้าเข้าสู่การพิจารณาเรื่องแผ่นดินไหว เพื่อนสมาชิกทุกคนทำหน้าที่อย่างเต็มที่ถึงตอนกลางคืน ดึกดื่นกี่โมงก็ตาม เราก็เข้าสู่การพิจารณาญัตติของนายอนุสรณ์ได้ ไม่มีความกังวลใดๆ ที่ต้องมานั่งเถียงกันเรื่องอะไรขึ้นก่อนหลัง ถ้าทุกคนทำหน้าที่กันอย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้น ตอนนี้เราเสียเวลากันมามากแล้ว อยากให้ท่านประธานเดินหน้าการประชุม” นายณัฐพงษ์ กล่าว

ทั้งนี้ ระหว่างการประชุม นายวันมูหะมัดนอร์ พยายามย้ำว่าประธานไม่มีอำนาจในการวินิจฉัย ทุกฝ่ายก็มีเหตุผล มันอยู่ที่เป้าหมายว่าเราจะไปถึงกันอย่างไร เมื่ออย่างนี้ ตนต้องขอว่าขอให้ที่ประชุมพิจารณาว่าจะพิจารณาญัตติของผู้นำฝ่ายค้านขึ้นมาพิจารณาก่อนหรือจะให้ญัตติของนายอนุสรณ์ขึ้นมาพิจารณาก่อน แต่นายรังสิมันต์ประท้วงว่าถ้าจะลงมติ ต้องอ้างอิงข้อบังคับ นายวันมูหะมัดนอร์ จึงกล่าวว่าข้อบังคับไม่ได้เขียนไว้ นายรังสิมันต์ จึงตอบโต้กลับว่า ในเมื่อมันไม่มีกฎหมายรองรับและพิจารณาไม่ได้ ทั้งหมดนี้ต้องอาศัยตามข้อบังคับ ด้วยความเคารพช่วยแจ้งต่อที่ประชุมแห่งนี้ว่าต้องลงมติตามข้อบังคับอะไร

ช่วงหนึ่งนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน กล่าวด้วยเสียงดุดันว่า เราพร้อมแล้วที่จะเดินหน้าลงมติ อยากจะสรุปให้ทุกคนเข้าใจตรงกันว่า เราจะลงมติเรื่องอะไร ให้คิดกันดีๆ ว่าจะกดปุ่มไหน ตอนนี้สภาแห่งนี้และสมาชิกทุกคนมี 2 ทางเลือก ทางเลือกที่หนึ่งคือเดินหน้าญัตติอภิปรายเรื่องแผ่นดินไหวก่อน ซึ่งแนวทางนี้พรรคร่วมรัฐบาลพรรคหนึ่งก็เห็นด้วยเช่นกัน

“ส่วนทางเลือกที่สอง คือ คุยเรื่องแผ่นดินไหวก่อนไม่ได้ จะต้องเอาเรื่องการเลื่อนระเบียบวาระกาสิโนมาคุยกันตั้งแต่ตอนนี้เลย รอแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ไม่ได้ ต้องมาคุยตั้งแต่วันนี้เลย อันนี้คือ 2 ทางเลือกเท่านั้น ดังนั้น ผมฝากสมาชิกทุกท่านและทุกพรรค ตัดสินใจให้ดีว่าจะลงมติอย่างไร” นายพริษฐ์ กล่าวพร้อมทุบโต๊ะ

จากนั้น ได้มีผู้ประท้วงขอลุกขึ้นหารือกันอย่างกว้างขวาง โดยนายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ขอใช้สิทธิ์พาดพิง ว่าพรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วยกับฝ่ายค้าน แต่นายปกรณ์วุฒิประท้วงกลับบอกว่าจะมาใช้สิทธิ์กันมั่วซั่วแบบนี้ไม่ได้

ต่อมา นายพริษฐ์ ลุกขึ้นขอใช้สิทธิ์พาดพิง กล่าวถึงทางเลือก 2 ทางเลือกแบบเดิม แต่นายวันมูหะมัดนอร์ปิดไมค์ บอกว่า ไม่เอาแล้ว ทำให้ สส.ฝั่งรัฐบาล ส่งเสียงร้องโห่นายพริษฐ์ดังลั่นห้องประชุม นายวันมูหะมัดนอร์ จึงกล่าวว่า “ไม่เอาแล้ว คุณพริษฐ์นั่งลง! ผมจะขอมติแล้ว”

แต่นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน ลุกขึ้นประท้วงประธาน นายวันมูหะมัดนอร์ เลยท้าวเอวตอบโต้ทันทีว่า “จะประท้วงเรื่องอะไร ผมทำผิดข้อบังคับข้อไหน เอาเลย มา! ผมทำผิดข้อบังคับข้อไหนบอกเลย”

นายปกรณ์วุฒิ จึงกล่าวว่าประธานให้สิทธิ์ฝั่งรัฐบาล 2-3 คน ก่อนที่จะมาถึงฝ่ายค้าน 1 คน และนายชัยชนะ ก็ไม่ได้โดนพาดพิงโดยตรง แต่พอนายพริษฐ์ถูกเอ่ยชื่อโดยตรง นายวันมูหะมัดนอร์กลับปิดไมค์

จากนั้น นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ลุกประท้วงบ้าง แต่นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ซ้ำประเด็นเดิม ตนไม่อนุญาต ก่อนจะยืนขึ้น และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสภาเข้ามาในห้องประชุม และระบุว่า “ผมรู้ว่าจุดประสงค์ของคุณเป็นยังไง”

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวอย่างดุเดือดว่า “บ้านเมืองเราอยู่โดยไม่มีกฎเกณฑ์ อะไรเอาดั่งใจมันไม่ได้ ต้องถอยคนละก้าว เจ้าหน้าที่เข้ามาครับ อะไรกัน ขอความกรุณานั่งลง ลงมติก็ได้ทั้งคู่ คุณจะเอาอย่างไรกัน”ก่อนจะนั่งลงและควบคุมการประชุมต่อ

แต่นายพริษฐ์ลุกขึ้นขอหารือ นายวันมูหะมัดนอร์ จึงดักขอว่า ถ้าจะมาพูดเพื่อสร้างความวุ่นวายผมไม่ยอม

นายพริษฐ์ จึงลุกกล่าวว่า มี 2 ทางเลือก แต่นายวันมูหะมัดนอร์ สวนว่า “พูดซ้ำทำไม เอ้อ ผมนั่งฟังอยู่คุณพูดซ้ำทำไม เพราะว่าห้ามแล้ว” ซึ่งช่วงนี้ได้มี สส.ฝั่งรัฐบาลตะโกนโห่

ช่วงหนึ่งนายรังสิมันต์ ลุกประท้วงว่าประธานให้สิทธิ์รัฐบาลมากกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนำมาสู่การลงมติทันที นายพริษฐ์ จึงพยายามทวน เรื่องนี้ท่านประธานก็ทวนตามอำนาจที่ใช้ เราก็สามารถรักษาความสงบเรียบร้อยลงได้ เราพยายามใจเย็น บางครั้งไม่ต้องใช้ข้อกล่าวหาที่รุนแรงกับพวกเรา เราพยายามรักษากติกา วันนี้มันมีบางฝ่ายที่รอไม่ได้แค่นี้เอง

จากนั้นเวลา 16.21 น. ที่ประชุมลงมติเห็นด้วยกับการนำญัตติแผ่นดินไหวมาพิจารณาก่อนหรือไม่ เห็นด้วย 144 เสียง ไม่เห็นด้วย 252 เสียง งด 2 เสียง ไม่ลงคะแนน 3 เสียง ถือว่าควรจะนำญัตติของนายอนุสรณ์ คือเลื่อนวาระขึ้นมาพิจาณณาก่อน แล้วจะนำญัตติแผ่นดินไหว ของนายณัฐพงษ์ ขึ้นมาพิจารณาต่อ โดยเวลาที่ใช้หาข้อยุติได้กว่า 3 ชั่วโมง.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แจ้งข้อหาอดีตทหารพรานทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 14 ก.ค. – ตำรวจตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายกับอดีตทหารพรานต่อยทหารกัมพูชาที่ปราสาทตาเมือนธม ขณะที่ ศบ.ทก. ยืนยันไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรง พ.ต.อ.นพดล พินิจอักษร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพนมดงรัก เปิดเผยความคืบหน้าอดีตทหารพรานและนักท่องเที่ยวทำร้ายทหารกัมพูชา ว่า ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานดำเนินคดี เบื้องต้นตั้งข้อหาทำร้ายร่างกาย ในส่วนผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มาพบพนักงานสอบสวน ยังไม่ได้หลบหนีไปไหน สามารถเรียกตัวมาแจ้งข้อหาได้ ขณะที่ปราสาทตาเมือนธม มีนักท่องเที่ยวเข้ามาชมกันอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่พบทหารคนที่โดนชกแต่อย่างใด ขณะที่ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ยืนยันไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรง หลังนักท่องเที่ยวไทยทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศทำหนังสือประท้วง ปมวัดภูม่านฟ้า มองแอบแฝงการเมือง ย้ำมรดกทางวัฒนธรรมควรเสริมสร้างความสัมพันธ์ใม่ใช่แบ่งแยก.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพ “พระปริยัติธาดา” วัดกัลยาณมิตรฯ สึกที่ระยอง

ระยอง 14 ก.ค. – เปิดภาพ “พระปริยัติธาดา” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ พัวพันสีกากอล์ฟ สึกแล้วที่ จ.ระยอง ขณะที่พระบางรูปยืนยันไม่สึก เพราะแม้เป็นข่าวแต่ไม่ได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้ง ส่วนเงินที่โอนเป็นเงินส่วนตัว ให้เพราะเมตตา ภาพล่าสุดของพระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ที่มีข่าวว่าหายตัวนานหลายวัน เพราะมีคนเปิดเผยหลักฐานความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 61 และก่อนหน้านี้มีกระแสว่า ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ สึกไปแล้วตั้งแต่วันศุกร์ แต่เมื่อเช้านี้ (14 ก.ค.) ภาพนี้ได้ยืนยันว่า พระปริยัติธาดา ได้สึกแล้วที่วัดในพื้นที่ จ.ระยอง เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ผ่านมา “พระภาวนาวิริยคุณ” ลั่นไม่สึก ให้ด้วยความเมตตาขณะที่พระที่ยังไม่สึกอย่าง พระภาวนาวิริยคุณ หรือพระอาจารย์ไสว ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ มีชื่อพัวพันโอนเงินให้สีกากอล์ฟ 182,200 บาท แต่ท่านได้ย้ายมาเป็นประธานสงฆ์ที่วัดไชยมงคล จ.พิษณุโลก ตั้งแต่ปี 62 โดยมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาวัด และเผยแผ่พระพุทธศาสนาผ่านโซเชียล ท่านเปิดใจกับทีมข่าวยืนยันว่าเรื่องราวเกี่ยวพันกับสีกากอล์ฟ เกิดขึ้นเมื่อปี 66 โดยฝ่ายหญิงติดต่อมาทางแชท ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาชีวิต […]

“ภูมิธรรม” ลั่นเอาผิดถึงที่สุดคดีสีกากอล์ฟ เรื่องนี้ไม่จบง่าย

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. – “ภูมิธรรม” ประสานดีเอสไอช่วยตำรวจสอบสวนกลาง ทำคดีสีกากอล์ฟ ลั่นเรื่องนี้ไม่จบง่าย เอาผิดถึงที่สุด เพราะมีลักษณะบ่อนทำลาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการดำเนินคดีเอาผิดสีกากอล์ฟ และพระสงฆ์ที่เกี่ยวข้อง ว่า จะให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เข้าไปช่วยดู เพราะคดีนี้สั่นสะเทือนความรู้สึกของประชาชน กระทบความมั่นคงในแง่ของพุทธศาสนา ซึ่งเป็นหลักของประเทศ โดยเมื่อเช้านี้ตนได้พูดคุยกับอธิบดีดีเอสไอ ให้ช่วยเข้าไปดู หรือมีอะไรที่จะส่งเสริมสนับสนุนให้กับตำรวจที่ทำหน้าที่อยู่แล้ว ซึ่งอธิบดีดีเอสไอก็รับเรื่องไปพิจารณาดำเนินการ และยังได้คุยโทรศัพท์กับ พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งอยู่ระหว่างติดราชการต่างประเทศ โดยตนได้กำชับว่าเรื่องนี้ต้องจริงจัง ต้องเริ่มต้นด้วยการตั้งข้อหาสีกากอล์ฟให้ชัดเจนมากขึ้น และให้ประสานงานกับทางดีเอสไอ ซึ่ง พลตำรวจโท จินภพ ยินดี เพราะเป็นเรื่องที่ต้องการทำอยู่แล้ว เนื่องจากกระทบกับพุทธศาสนา และให้รายงานตนด้วย โดยเรื่องนี้จะไม่ปล่อยผ่านเฉยๆ และย้ำว่าได้กำชับกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว ทั้งนี้ การที่ให้ดีเอสไอเข้ามาช่วยดูคดี ไม่ได้หมายความว่าให้โอนคดีไปที่ดีเอสไอ แต่ให้มาช่วยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางดู โดยหลักการจะให้ตำรวจสอบสวนกลางทำคดีต่อไป ส่วนดีเอสไอมีอะไรเสริมได้ก็จะดี เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาคดีที่เกี่ยวกับสงฆ์ […]

ตร.ไซเบอร์หอบสำนวนคดีคลิปเสียง “ฮุนเซน” มอบอัยการสูงสุด

14 ก.ค.- ตำรวจไซเบอร์หอบสำนวน 50 หน้า ส่งมอบให้อัยการสูงสุด ดำเนินคดี “คลิปเสียงฮุนเซน” ผิดม.116 และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ขณะที่โฆษกอัยการรับต้องละเอียดรอบคอบ เกี่ยวข้องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่ผ่านมาไม่เคยมีการสั่งฟ้องผู้นำประเทศมาก่อน พลตำรวจตรีศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 นำสำนวนคดีคลิปเสียงฮุนเซน ประมาณ 50 หน้า พร้อมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง มอบให้พนักงานอัยการสูงสุด จากกรณีที่ นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.สอท.1 เพื่อดำเนินคดีกับผู้ใช้บัญชี เฟซบุ๊กชื่อ “Samdech Hun Sen of Cambodia” ซึ่งมีการเผยแพร่คลิปเสียงการสนทนา ระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา พลตำรวจตรีศิริวัฒน์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า เพจ Facebook สมเด็จฮุน เซน มีลักษณะการโพสต์ข้อความที่เป็นขั้นเป็นตอน […]