“ณัฐพงษ์” นำทีม ปชน. แถลงหลังแพ้โหวตปมเลื่อนญัตติ

รัฐสภา 3 เม.ย.- “ณัฐพงษ์” นำทีม แถลง หลังแพ้โหวต “แผ่นดินไหว-เลื่อนเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ซัดรัฐบาลเร่งรีบ น่าสงสัย เชื่อกลุ่มทุนอิงแอบอยู่ข้างหลัง ด้าน “โรม” ฉะ สส.รัฐบาลอยากกลับบ้าน เลยต้องแทรกให้ได้ ขณะ “ไอติม” ถามอยากให้ไทม์ไลน์ ทำไมไม่ทำรายงานการศึกษาช่วงปิดสมัย มอง ไม่สมเหตุสมผล


พรรคประชาชนนำโดย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อหัวหน้าพรรค นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค ,นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรค และสส.ของพรรค ร่วมแถลงภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเลื่อนระเบียบวาระร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เป็นเรื่องด่วนที่จะพิจารณาในวันที่ 9 เม.ย.

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนได้เสนอญัตติด่วนให้มีการพิจารณาข้อเสนอในเรื่องผลกระทบกับเหตุแผ่นดินไหว ซึ่งเป็นปัญหาที่ประชาชนรอคำตอบอยู่ ในขณะเดียวกันพรรคเพื่อไทยมีการเสนอญัตติให้เปลี่ยนระบเบียบวาระปาดหน้า การประชุมในวันนี้จะไม่มีปัญหาถ้าสส.ทั้ง2ฝั่งอยู่ประชุมสภาฯ ไม่ว่าจะดึกแค่ไหนทำหน้าที่รักษาองค์ประชุมและพิจารณาญัตติไปตามลำดับจะสามารถดำเนินการได้โดยไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้น ซึ่งทำให้เห็นว่ารัฐบาลมีข้อกังวลในส่วนขององค์ประชุม ที่หากอภิปรายเรื่องแผ่นดินไหวจนมืดเกินไปอาจจะมีองค์ประชุมไม่ครบ


“การกระทำที่เกิดขึ้นล้วนวะท้อนให้เห็นว่า การผลักดันเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ของรัฐบาลมีความเร่งรีบ เกินความจำเป็นอย่างน่าสงสัยจริงๆ” นายณัฐพงษ์ กล่าว

ด้านนายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนมองว่าหากรัฐบาลไม่เสนอร่างเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ แซงคิวร่างกฎหมายอื่นในสัปดาห์หน้า มีโอกาสน้อยมากที่จะพิจารณาถึงร่างดังกล่าว ยิ่งรีบยิ่งทำให้เห็นว่าปัจจุบันรัฐบาลยังไม่มีผลการรายการความเป็นไปได้ที่ละเอียด รอบคอบและเป็นที่ยอมรับเพียงพอที่จะรับรองนโยบาย

นายรังสิมันต์ กล่าวว่าสรุปแบบเข้าใจง่ายๆ ว่า ทำไมการประชุมสภาฯจึงไม่สามารถประชุมได้อย่างราบรื่น และทำไมถึงต้องมีการเสนอเปลี่ยนวาระเข้ามาแทรกก่อนที่จะมีการเข้าสู่การพิจารณาในเรื่องของญัตติการจัดการแผ่นดินไหว คือ สส.รัฐบาลอยากกลับบ้านเร็วแค่นั้น เพราะถ้าเกิดรอให้มีการพิจารณาญัตติแผ่นดินไหวเสร็จก่อน สส.รัฐบาล ก็คงจะไม่ได้อยู่ในการทำหน้าที่ในสภาแล้ว และก็คงจะเป็นห่วงว่า ถ้าเสนอให้มีการเปลี่ยนแปลงญัตติในเวลานั้น โหวตไปโหวตมา จะแพ้เสียงของฝ่ายค้าน เพราะฝ่ายค้านเราไม่ได้เห็นด้วย กับการที่จะมีการเปลี่ยนแปลงวาระแน่นอน เป็นแค่เพียงข้ออ้าง ที่ทำให้เกิดปัญหาเกิดบรรทัดฐานใหม่ๆ ความยุ่งยากใหม่ๆ หลายๆ นำไปสู่การสูญเสียเวลา


เมื่อถามว่าเรื่องนี้สะท้อนถึงดีลอะไรในรัฐบาล นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่เราได้อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่าอาจจะมีผลประโยชน์ทับซ้อนเบื้องหลังกับกลุ่มทุนต่างๆ โดยเฉพาะผู้ที่จะมารับสัมปทานทำเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ สิ่งที่สะท้อนอย่างชัดเจนคือความพยายามเร่งรีบในการผลักดันร่างกฎหมายนี้ให้ทันภายในสมัยประชุม ซึ่งเป็นสิ่งที่เราตั้งข้อสงสัยและสังคมสามารถสังเกตเว่ามีเหตุผลอะไรที่ต้องเร่งรีบ เพราะมีกฎหมายอื่นที่สำคัญไม่แพ้กันในสภา

ส่วนกลุ่มทุนที่อยู่เบื้องหลัง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ยังให้คำตอบที่ชัดเจนไม่ได้ เพราะเรายังไม่มีหลักฐาน ซึ่งขณะนี้ยังมีปัญหาเชิงโครงสร้างที่รัฐบาลยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ยังมีลักษณะการทำการเมืองที่อิงแอบผลประโยชน์ส่วนตัว

เมื่อถามว่าการปะทะกับฝ่ายรัฐบาลในวันนี้ จะทำให้สภาเสื่อมเสียหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตอนนี้เพื่อนๆ สส.ก็ยังทำหน้าที่อยู่ในสภา เชื่อว่าจะอยู่ดึกกว่าเดิม ในการพิจารณาเรื่องเหตุแผ่นดินไหว เหตุการณ์ที่ทำให้ล่าช้าหลายชั่วโมง ถ้าทุกคนต่างทำหน้าที่ของสภาให้สมเกียรติและพิจารณาไปตามลำดับ ก็จะไม่มีเหตุวุ่นวายแบบและความล่าช้าเช่นนี้เกิดขึ้น

เมื่อถามว่า ไม่สามารถตกลงกันได้ในวิปฯ หรือไม่นั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า วิปก็ได้มีการพูดคุยกันอยู่แล้วว่าจะมีการเสนอญัตติแผ่นดินไหว และทราบว่ารัฐบาลจะเสนอญัตติเลื่อนเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เป็นสัปดาห์หน้า แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อบังคับ เมื่อการประชุมสภาในวันนี้ ตนได้เสนอญัตติด่วนเรื่องแผ่นดินไหวขึ้นมาก่อนและเราก็ไม่อยากทำอะไรให้การพิจารณาในสภาเสียมาตรฐาน ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เห็นความผิดปกติของรัฐบาลที่พยายามเร่งรีบ ทั้งนี้ ฝ่ายค้านจะตรวจสอบทุกช่องทาง เพื่อสร้างแรงกดดันให้รัฐบาลศึกษาอย่างรอบคอบ

เมื่อถามว่าวันที่ 9 เมษายน ทีมเศรษฐกิจของพรรคประชาชนจะเสนอญัตติด่วนเรื่องการขึ้นกำแพงภาษีของสหรัฐฯ จะไปตรงกับวันพิจารณาเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์พอดี จะซ้ำรอยวันนี้หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ญัตติด่วนของพรรคจะยื่นวันพฤหัสดี (10 เม.ย. 68) ซึ่งจะไม่ชนกัน

ขณะที่นายพริษฐ์ อธิบายเพิ่มว่า มีฝ่ายรัฐบาลตั้งคำถามว่าทำไมเราถึงไม่ยอม เพียงแค่ 5 นาทีในการเลื่อนระเบียบวาระ และเข้าสู่ญัตติแผ่นดินไหว เสมือนกับว่าฝ่ายค้านทำให้เสียเวลา ซึ่ง ณ เวลานี้ ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้เราลดเนื้อหา ถ้าดึกขึ้นกว่าเดิมก็เป็นหน้าที่ สส. นอกจากนี้ การที่รัฐบาลบอกว่าการเลื่อนวาระใช้เวลาแค่ 5 นาที ไม่สมเหตุสมผล แม้รัฐบาลและฝ่ายค้านเห็นตรงกันว่าควรจะมีการเลื่อนระเบียบวาระใดก็ตาม แต่รัฐบาลก็รู้อยู่แล้วว่าเห็นต่างกัน ควรจะต้องเปิดให้อภิปราย ดังนั้น การเอาเข้ามาแทรก ไม่สมเหตุสมผล

นายพริษฐ์ ตั้งคำถามว่า ถ้ารัฐบาลอยากจะทำให้เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ทันตามไทม์ไลน์ ทำไมไม่สลับลำดับไปทำรายงานการศึกษาโดยละเอียด ตอนปิดสมัยประชุม แล้วค่อยเสนอตอนเปิดสมัยประชุมสภา ซึ่งน่าจะสมเหตุสมผลกว่า.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]