รัฐสภา 26 ส.ค. – “พริษฐ์” มอง 2 รองปธ.สภาฯ ไม่เป็นกลาง เหตุลงมติเห็นชอบร่างงบฯ 69 – ชิงปิดประชุมก่อนเวลา ตั้งคำถามหนีถก MOU 43, 44 หรือไม่ ชี้ มีวาระค้างอยู่เป็น 10 ฉบับ ไม่มีเหตุจำเป็นต้องปิดประชุมบ่าย 3
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ์ สส.พรรคประชาชน กล่าวถึง การปฏิบัติหน้าที่ของรองประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ไม่เป็นกลางว่า หาก ย้อนกลับไป 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จะเห็นว่านายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ได้ลงมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ในวาระ 3 ซึ่งตามธรรมเนียมปฏิบัติ ประธานและรองประธานจะใช้วิธีการงดออกเสียง ยิ่งหากเป็นญัตติที่มีความเห็นต่างชัดเจน เช่นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ ต้องปฏิบัติหน้าที่เป็นกลาง โดยไม่ร่วมลงมติ
นายพริษฐ์ กล่าวว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา เราก็เห็นเหตุการณ์การปิดประชุม โดยเฉพาะรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ที่ให้สัมภาษณ์ว่านั่งบนบัลลังก์ร่วม 10 ชั่วโมง เมื่อตนมานั่งนับแล้วบวกลบยังไงก็ไม่ถึง 10 ชั่วโมง เพราะมีการสลับสับเปลี่ยนหลายคน จาก 9 โมงไปถึง 15:00 น.นับยังไงก็ได้ 6 ชั่วโมง จึงงงว่า 10 ชั่วโมงมาจากไหน จึงเกิดคำถามในภาพรวมว่า ตกลงแล้วรองประธานสภาทั้งสองคน ปฏิบัติหน้าที่เป็นกลางตามความคาดหวังของข้อบังคับการประชุมหรือไม่ จึงมีการตั้งคำถามว่าเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้สภาฯ พิจารณาญัตติในการตั้งกรรมาธิการวิสามัญ ขึ้นมาพิจารณา MOU 43 , 44 หรือไม่ ดังนั้น จึงคาดหวังว่าในสัปดาห์นี้ คงมีคำตอบและคำชี้แจง จากรองประธานสภาฯ เพื่อให้สมาชิกในสภามั่นใจว่ารองประธานสภาจะปฏิบัติหน้าที่เป็นกลางจริง
นอกจากนั้นไม่กี่วันที่ผ่านมาได้เห็นการสัมภาษณ์ที่โบ้ยกันไปกันมา ถึงการปิดประชุมสภาว่าเกิดจากอะไร ซึ่งยืนยันว่าวิปฝ่ายค้านชัดเจนมาโดยตลอด และในวันนั้นระเบียบวาระการประชุมยังมีญัตติและรายงานค้างพิจารณาอยู่กว่า 10 ฉบับ จึงไม่มีเหตุจำเป็นใดเลย ที่จะต้องปิดประชุมตั้งแต่ 15.00 น. จึงอดสงสัยไม่ได้ว่า ปิดประชุมเพื่อเลี่ยง MOU 43,44 และยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน และสำคัญ การที่เราใช้เวทีสภา มาถกข้อดีข้อเสียเป็นสิ่งที่ควรทำ
เมื่อถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเกมการเมืองหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ยังไม่เห็นเหตุความจำเป็นในการปิดประชุม เพราะมีความประสานไปแล้ว ระหว่างวิปว่าจะมีการเลื่อนระเบียบวาระ ญัตติยกเลิก MOU 43,44 ขึ้นมา ซึ่งถือเป็นญัตติที่ประธานสภาวินิจฉัยแล้วว่าเป็นญัตติด่วน แล้วเหตุใดจึงไม่จำเป็นต้องพิจารณา.-319 -สำนักข่าวไทย