นำ ครม. ตรวจราชการ 6 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน

ระนอง 22 ม.ค.-นายกฯ นำ ครม. ตรวจราชการ 6 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน มอบรัฐมนตรีกระจายลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากประชาชน ก่อนประชุม ครม. เต็มคณะ วันพรุ่งนี้

นายเศรษฐา  ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง  พร้อมคณะรัฐมนตรี  เดินทางลงพื้นที่จังหวัดระนอง  เพื่อตรวจราชการที่จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ประกอบด้วย กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล   ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร ในวันพรุ่งนี้ (23 ธ.ค.)   ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของปีนี้ด้วย  


เมื่อเดินทางมาถึงนายกรัฐมนตรี สักการะศาลหลักเมืองและอนุสาวรีย์พระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดีที่ศาลหลักเมืองระนอง  โดยที่จุดนี้บิดาของนายคงกฤษ  ฉัตรมาลีรัตน์ สส.ระนอง พรรคภูมิใจไทย มารอต้อนรั พร้อมอาสาสมัคสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และเจ้าหน้าที่เทศบาลระนอง  พร้อมมอบดอกกุหลาบและขอถ่ายรูปกับนายกรัฐมนตรีด้วย 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการลงพื้นที่ จ.ระนอง นายกรัฐมนตรี เดินทางด้วยรถ Alphard สีดำ ทะเบียน กง 888 จังหวัดระนอง  ทั้งนี้ ช่วงหนึ่งก่อนนายกฯ จะเดินออกจากศาลหลักเมือง มีประชาชนตะโกนเรียก “ท่านนายกฯ ประชาชนฝากถามเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต รออยู่นะคะ”   นายกฯ ได้เดินเข้าไปหาแล้วตอบว่า “ครับ”


ขณะที่มีประชาชนตะโกนแซว นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า “เขยระนอง”  ทำให้นายอนุทิน ยิ้มไม่หุบ เพราะภรรยาของนายอนุทิน เป็นคนจังหวัดระนอง

จากนั้นนายกรัฐมนตรีเดินทางไปติดตามประเด็นการค้าผ่านแดน แรงงานข้ามชาติ พิธีการศุลกากร และประมง  และพบปะผู้แทนชาวประมงในการแก้ไขปัญหาการทำประมง  ที่ท่าเรือระนอง-เกาะสอง ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง   ขณะที่ในช่วงบ่ายนายกรัฐมนตรี  จะเดินทางไปยังพื้นที่โครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน หรือโครงการแลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง ที่อุทยานแห่งชาติแหลมสน ตำบลม่วงกลวง อำเภอกะเปอร์ โดยถือว่าเป็นครั้งแรกที่นายกรัฐมนตรีเดินทางลงพื้นที่ ซึ่งเป็นจุดที่จะสร้างโครงการแลนด์บริดจ์ ภายหลังจากที่รัฐบาลมีการโรดโชว์โครงการนี้ในต่างประเทศอย่างต่อเนื่องตลอดการทำงานตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา และในช่วงเย็น นายกรัฐมนตรี และคณะจะเดินทางไปเยี่ยมชมการบริหารจัดการบ่อน้ำแร่ร้อนรักษะวาริน ตำบลบางริ้น อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้มอบหมายให้คณะรัฐมนตรีร่วมลงพื้นที่ โดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินทางไปพูดคุยตัวแทนผู้ปลูก-ส่งออกมังคุด รับฟังข้อมูลเกษตรที่โรงแรมเฮอริเทจ แกรนด์ คอนเวนชั่นระนอง นายปานปรีย์ พหิทธานุกร  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตรวจเยี่ยมด่านศุลกากรระนอง  นายอนุทิน  ชาญวีรกูล  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย   ไปติดตามข้อร้องเรียนการสร้างสะพานข้ามคลองล่าช้าที่เกาะพยาม  นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม  ลงพื้นที่ประชุมแก้ไขกลุ่มจังหวัดภาคใต้จังหวัด ที่สำนักงานอุตสาหกรรมระนอง และนายจุลพันธ์   อมรวิวัฒน์   รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง   ลงพื้นที่ติดตามปัญหาแก้ไขหนี้นอกระบบ ยกระดับความเป็นอยู่ประชาชนที่มัสยิดเราะห์มะห์.-314.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

รถบัสรับส่งพนักงานพุ่งตกคูน้ำ เจ็บ 21

รถบัสรับส่งพนักงานพุ่งตกคูน้ำ ถนนสายเอเชีย ขาขึ้น จ.พระนครศรีอยุธยา มีผู้บาดเจ็บ 21 คน คาดคนขับหลับใน เบื้องต้นยังไม่พบตัว

เน้นเครื่องจักรหนักเข้าถึงโซน B, C คาดมีผู้ติดค้างจำนวนมาก

ฝนตกหนักช่วงเช้า เพิ่มอุปสรรคค้นหาผู้ประสบภัย และการรื้อซากอาคาร สตง.ถล่ม เจ้าหน้าที่ทุกส่วนต้องหยุดปฏิบัติภารกิจชั่วคราว วันนี้ยังเน้นใช้เครื่องจักรหนักเข้าถึงโซน B และโซน C ที่มีลักษณะคล้ายร่างกายมนุษย์ติดอยู่ในซาก ด้านทีม K9 ประกาศยุติภารกิจค้นหาผู้สูญหาย