รัฐบาลเชื่อแลนด์บริดจ์นำไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น

รัฐสภา 18 ม.ค.- “มนพร” ตอบกระทู้สดประเด็น แลนด์บริดจ์ ชี้ อยู่ระหว่างการศึกษาทุกมิติ พร้อมรับฟังทุกความเห็น เชื่อความเปลี่ยนแปลงจะนำไปสู่สิ่งที่ดีเสมอ จะดันความฝันให้เป็นจริง


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้(18 ม.ค.)มีวาระกระทู้ถามสด ซึ่งมีประเด็นตั้งถามเกี่ยวกับการทำโครงการแลนด์บริดจ์ เชื่อมอ่าวไทย-อันดามัน โดยมีผู้ตั้งถาม จำนวน 2 กระทู้ จาก สส.พรรคเพื่อไทย และ สส.พรรคก้าวไกล โดยรัฐบาลส่ง นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นผู้ชี้แจงแทน เนื่องจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีภารกิจที่ต่างประเทศ

นางมนพร ตอบกระทู้ถามสด ซึ่งตั้งถามโดย สส.ของพรรคเพื่อไทย ว่า จากการโรดโชว์ของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ต่างประเทศ พบว่ามีนักลงทุนให้ความสนใจและเข้าร่วมหารือ ซึ่งนักลงทุนสนับสนุนเพราะต้องการช่องทางขนส่งทางเรือที่สามารถขนส่งสินค้าได้สะดวก ล่าสุดนายเศรษฐา ที่เดินทางไปยังกรุงดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ ได้พูดคุยกับนักลงทุนใน กลุ่มสหภาพยุโรป ได้รับเสียงต่อรับ ได้รับความสนใจและตอบรับนักธุรกิจเชิงบวก ได้ขยายความคิดและโครงการให้นักลงทุนต่างชาติ ซึ่งประเทศไทยต้องการโอกาสทำโครงการขนาดใหญ่เพื่อให้ประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน


นางมนพร กล่าวว่า โครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาลมีคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ทุกโครงการต้องฟังความเห็น ออกกฎหมาย ที่ผ่านมากระทรวงคมนาคม  เสนอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งตนเป็นที่ปรึกษากรรมาธิการฯ ได้เชิญคนที่เห็นด้วยและเห็นต่างให้ความเห็น รวมถึงศึกษาทุกมิติ  อาทิ ความมั่นคง อุตสาหกรรม ต่างประเทศ สิ่งแวดล้อม และให้ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ

“การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแลนด์บริดจ์ มีผลกกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม ถือเป็นความท้าทายที่ต้องวางแผนเพื่อแก้ปัญหา ผลกระทบในพื้นที่ที่ รวมถึงคำนึงถึงการเวนคืนที่ดินในราคาที่เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจให้กับประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ นอกจากนั้น กรรมาธิการฯ ได้ลงพื้นที่ฟังเสียงประชาชน พบว่าประชาชนส่วนหนึ่งคัดค้านเพราะไม่อยากสูญเสียที่ดินทำกินดั้งเดิม สิทธิในที่อยู่อาศัย และการประมงพื้นบ้าน ซึ่งรัฐบาลไม่ละเลยเสียงคัดค้านดังกล่าวและเตรียมออกกฎหมายพิเศษในพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน โดยนำความเห็นของประชาชนมาพิจารณา ทั้งนี้ ความเปลี่ยนแปลงจะนำไปสู่สิ่งที่ดีเสมอ” นางมนพร ชี้แจง

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ชี้แจงคำถามถึงการศึกษาโครงการและระยะเวลาสิ้นสุด หลังจากที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระบุว่าจะใช้เวลาถึงปี 2573 ว่า ในการศึกษาแบ่งเป็น  3 ส่วน โดย 1.  ศึกษาความเหมาะสมโครงการ การออกแบบท่าเรือ  รูปแบบการลงทุน ซึ่งรับผิดชอบโดย สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.)  กระทรวงคมนาคม โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ)  โดยใช้เวลา 1 ปี, 2. งานก่อสร้างรถไฟขนส่ง ที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย รับผิดชอบ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจ้างที่ปรึกษา วางหมุดเส้นทางและ เวนคืน พร้อมกับรับฟังความเห็นของประชาชน  และ 3. การทำอีไอเอ ในส่วนของการกก่อสร้างมอเตอร์เวย์ ที่กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ทั้งนี้อยู่ระหว่างการเสนอขอรับจัดสรรงบประมาณ ปี2567 เพื่อจ้างที่ปรึกษาออกแบบเบื้องต้น


ขณะที่การตั้งกระทู้ถามของ นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ซักถามถึงรายละเอียดของผลการศึกษาบนข้อเท็จจริง เช่น สายการเดินเรือ การลดค่าใช้จ่ายในสายการเดินเรือที่มีความคุ้มค่าต่อการลงทุนระหว่าง แลนด์บริดจ์เมื่อเทียบกับช่องแคบมะละกา รวมถึงประมาณการเรือขนส่งที่จะใช้เส้นทางแลนด์บริดจ์ตามผลการศึกษาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ตนฐานะฝ่ายค้าน ไม่ได้ค้านไปเรื่อย แต่จากการรับฟังข้อมูลไม่พบรายละเอียดที่เป็นข้อเท็จจริง แต่พบเป็นข้อมูลเพื่ออวยและฝันใหญ่เท่านั้น

“จากผลการศึกษาพบว่ากการขนส่งจะเสียเวลา 7-10 วัน ที่จะขนย้ายสินค้าขึ้นลง และสายการเดินเรือต้องเพิ่มจำนวนเรือ 7-10 ลำ ถือว่ามีค่าใช้จ่ายและเสียเวลาที่มากกว่า ช่องแคบมะละกา และช่องทางเดินเรืออื่นๆ ดังนั้น รัฐบาลต้องมีข้อมูลที่มีนัยสำคัญที่จะบอกในความคุ้มค่าของการลงทุน ทั้งนี้เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา สภาพัฒน์ฯ บอกว่าโครงการดังกล่าวไม่คุ้มค่า และเสนอให้ลดขนาดของโครงการและลงทุน รวมถึงผลระทบชุมชน ผลกระทบสิ่งแวดล้อม แต่ขณะนี้รัฐบาลต้องการเพิ่มขนาด ข้อมูลทางธุรกิจไม่ชัดเจน แต่ไปเร่ขาย ซึ่งจะขายของหรือขายหน้าต้องรอดู” นายสุรเเชษฐ์  กล่าว

นางมนพร ชี้แจงว่า จะผลักดันความฝันแลนด์บริดจ์ให้เป็นจริงและลงมือทำ ทั้งนี้ โครงการช่องทางแลนด์บริดจ์เพื่อลดการเสียเวลาและระยะทางขนส่ง จากที่ช่องแคบมะละกามีความแออัด และมีปัญหาปล้นเรือสินค้าเพิ่มมากขึ้น ขณะที่การขนส่งสินค้าจากประเทศจีนไป ออสเตรเลีย ทางเรือมีเพิ่มมากขึ้น แต่ประเทศจีนตอนใต้หลายพื้นที่ไม่ติดทะเล หากมีโครงการแลนด์บริดจ์จะทำให้มีเรือตู้สินค้ามาที่แลนด์บริดจ์เพิ่มมากขึ้น เพราะประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย แม้ไม่ใช่ทุกเส้นทางการเดินเรือ แต่จากการศึกษาพบว่า เส้นทางที่ขนส่งเส้นทางเรือฟีดเดอร์ที่จะประหยัด แต่ระยะยาวหากจำนวนตู้สินค้าเพิ่มมากขึ้น เรือใหญ่จะเข้ามารับตู้สินค้าจากท่าเรือระนอง จะมีเพิ่มมากขึ้น

“อย่างสินค้าเทกอง ปูนซีเมนต์ หรือไม้ ที่ขนส่งโดยตู้สินค้า หากเข้ามาที่ท่าเรือระนองจะลดต้นทุนสินค้า และเมื่อมีเรือมากขึ้นจะทำให้เกิดการตอบโต ขณะที่ความคุ้มค่าของการทำโครงการขนาดใหญ่ นั้น ยืนยันว่าบริษัทที่ปรึกษาจะศึกษาทุกมิติ และบริษัทที่จะลงทุนต้องเข้ามาศึกษาในการศึกษาของประเทศไทยในแง่ความเป็นไปได้ หากไม่คุ้มค่าเขาไม่มาลงทุน แต่เมื่อศึกษาแล้วประเด็นที่เป็นไปไม่ได้ต้องกลับมาทบทวน” นางมนพร กล่าว

นางมนพร ตอบคำถามถึงการขนส่งสินค้าเทกอง และการขนส่งน้ำมัน โรงกลั่นน้ำมันที่อยู่ในผลการศึกษาหรือไม่ ว่า เป็นการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการไม่ได้บอกว่า จะนำสินค้าประเภทใดที่จะเข้าสู่เส้นทาง  ซึ่งประเด็นการสร้างโรงกลั่นหรือท่อน้ำมัน ทางสนข.เคยตอบคำถามในกรรมาธิการฯ แล้วหากจะมีต้องมีการศึกษา ทั้งนี้ในรายละเอียดของสินค้านั้น ขอชี้แจงว่าเป็นเพียงผลการศึกษาที่ยังไม่เสร็จสิ้น หากศึกษาแล้วเสร็จจะรายงานในทุกมิติ

จากนั้นนายสุรเชษฐ์ ตั้งกระทู้ถามย้ำว่า เมื่อผลศึกษายังไม่ชัดเจน ทำไมถึงไปเร่ขายต่างประเทศแล้ว ขณะที่การศึกษาอื่นๆ เช่น มอเตอร์เวย์ ได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งการดำเนินการในโครงการที่จะเกิดขึ้น รัฐบาลจะยกที่ให้นายทุนกี่ไร่ และนานเท่าไร นอกจากนั้นยังมีประเด็นการชักศึกเข้าบ้านในแง่นโยบายทางการเมืองด้วย ทั้งนี้ควรคำนึงถึงมิติเชิงพื้นที่มากกว่าการขายฝันโครงการใหญ่ที่พบว่าหลายโครงการไม่ประสบความสำเร็จ ประชาชนเดือดร้อน แต่ผู้รับเหมารวม ทั้งนี้ขอให้ไตร่ตรองให้ดีว่าควรทำหรือไม่ควรทำ มีความคุ้มค่าและโปร่งใส มากกว่าอยากทำ

นางมนพร จึงชี้แจงว่า ยอมรับว่าทุกโครงการมีผลกระทบ จึงใช้กลไกของสภาฯ ผ่านกรรมาธิการฯ ที่ประกอบด้วยทุกพรรคการเมืองเพื่อพิจารณาศึกษา ประชุมกว่า 10 ครั้ง และลงพื้นที่รับฟังความเห็นของประชาชนที่ได้รับผลกระททบ จากนั้นเมื่อศึกษาแล้วจะนำมาให้สภาฯ พิจารณาและสส.สามารถให้ความเห็นได้ หากส่วนใหญ่เห็นชอบให้รัฐบาลจะพิจารณาว่ามีสาระทำโครงการหรือไม่ หากตั้งโครงการและจะทำ ต้องมาขอความเห็นชอบจากสภาฯ ซึ่งเป็นอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ หากพบว่าของบสูงเกินไป สามารถอภิปรายปรับลดได้

“ก่อนทำโครงการได้ศึกษารายละเอียดใน 10 ส่วน ยืนยันว่าไม่มีการหมกเม็ด ทั้งระบบโลจิสติกส์ การออกแบบ ผลกระทบสิ่งแวดล้อม วิเคราะห์รูปแบบการลงทุน การออกแบบท่าเรือ 84% สถานะประเมินผลเกี่ยวข้องสิ่งแวดล้อม ข้อกังวลของประชาชน ชาวประมง การขับเคลื่อนและการร่วมทุน ซึ่งกระบวนการแต่ละส่วนอยู่ระหว่างการศึกษา ทั้งนี้ ข้อห่วงใยของฝ่ายค้านจะนำไปพิจารณาประกอบการศึกษาด้วย” นางมนพร กล่าว.-316.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร