หนุนเชียงใหม่มีรถไฟฟ้า ส่งเสริมการท่องเที่ยว

เชียงใหม่ 11 ม.ค.- นายกฯ ชื่นชมทีมไทยแลนด์เตรียมคุยเพื่อนบ้านแก้ปัญหาฝุ่นและไฟป่า เผยร่าง กม.อากาศสะอาดฯ ฉบับก้าวไกล เซ็นแล้ว เชื่อเข้าสภาฯ ทันวันนี้ ชี้เชียงใหม่ควรมีรถไฟฟ้า ส่งเสริมการท่องเที่ยว


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดเชียงใหม่ ว่า ได้มีการประชุมเตรียมความพร้อมเรื่องป้องกันไฟป่า รวมถึงการพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่โดยรวม โดยก่อนเข้าประชุมได้มีเรื่องด่วน คือ มีการเซ็นร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ให้กับพรรคคก้าวไกล ซึ่งคาดว่าจะนำเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรทันวันนี้ (11 ม.ค.)

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า การประชุมวันนี้เป็นการติดตามหลังลงพื้นที่เมื่อวันที่ 28 พ.ย.66 โดยมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมด้วย ทั้งฝ่ายความมั่นคง กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเรื่องแรกที่มีการพูดถึง คือ ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่าจุดความร้อนลดลง โดยช่วงเวลาเดียวกันจาก 50 กว่า เหลือ 10 กว่า ซึ่งถือเป็นหมายในการเริ่มต้นปีที่ดี แสดงว่าการที่เราลงพื้นที่ร่วมมือทำงานแบบบูรณาการ โดยมีหัวหน้าทีมผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ในการประสานทุกภาคส่วน จึงทำให้ค่าฝุ่นลดลงอย่างมีนัย


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับด้านคมนาคม ในจังหวัดเชียงใหม่ ด้านถนนแบ่งเป็นสามวงแหวน วงแหวนหนึ่งสร้างมานานแล้ว แต่ยังไม่ครบ ขาดช่วงหนึ่งที่ไม่มาก แต่กระทรวงคมนาคมก็มีแผนงานที่จะทำให้ครบโดยเร็ว ซึ่งเหลือพื้นที่ไม่กี่กิโลเมตร เพียงต้องการการประสานงานระหว่างรัฐบาลกับกองทัพอากาศ โดยตนจะกลับไปพูดคุยกับกองทัพอากาศ โดยขอร้องให้ผู้บัญชาการทหารอากาศ ประสานทำการจราจรทางอากาศให้ครบ เพื่อลดการจราจรที่ติดขัดทางอากาศ ขณะเดียวกันก็จะทำให้ฝุ่น PM 2.5 ลดลงด้วย

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงวงแหวนส่วนที่สอง เป็นการยกระดับเหนือชลประทาน และวงแหวนส่วนสามจะทำให้การจราจรสะดวกขึ้น

“เรื่องที่ควบคู่กันไปจะมีการทำเรื่องของรถไฟฟ้า อันนี้สำคัญมาก เพราะเราทราบกันดี นักท่องเที่ยวเชียงใหม่เยอะ และเมื่อเวลานักท่องเที่ยวมาก็ไม่ได้ขับรถ การจราจรอาจจะติดขัด ฉะนั้นหากมีรถไฟฟ้า และในกรุงเทพฯ ก็เป็นที่ประจักษ์แล้ว ทุกอย่างสะดวกสบายขึ้น ดังนั้น หากมีการท่องเที่ยวก็จะสะดวกสบายมากขึ้น และเมื่อวงแหวนครบลูป ก็จะทำเรื่องของรถไฟฟ้า เพราะระหว่างการทำรถไฟฟ้า การจราจรก็จะไม่ติดขัด เนื่องจากสามวงแหวนได้เสร็จแล้ว เมืองใหญ่รถไฟฟ้ามีนัย เพราะเชียงใหม่เป็นเมืองใหญ่ ติด 10 อุตสาหกรรมของประเทศ ซึ่งการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรม ผมเชื่อว่าเมืองใหญ่ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวเยอะขนาดนี้ ถ้าไม่มีรถไฟ รถไฟฟ้าไม่ได้ ผมคิดว่าต้องมี จะช่วยอำนวยความสะดวกสบายและกระตุ้นเศรษฐกิจ กระจายความแออัดในเมืองออกไปชานเมืองได้ สำคัญกว่านั้นอากาศสะอาด เพราะไม่ได้ใช้รถยนต์ และเป็นการใช้มากขึ้น ซึ่งถือเป็นการส่งเสริมนโยบายของรัฐบาล ลดค่าฝุ่น 2.5” นายเศรษฐา กล่าว


นายกรัฐมนตรี  ยังเปิดเผยด้วยว่า เรื่องการสร้างรถไฟฟ้าที่จังหวัดเชียงใหม่ ทางกระทรวงคมนาคมได้เริ่มศึกษาแนวทางและมีแผนแล้ว เชื่อว่าหลังนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะมีการแถลงรายละเอียด ส่วนเรื่องกรอบในการดำเนินการก่อสร้าง ต้องรอให้การก่อสร้างถนนวงแหวนรอบเชียงใหม่แล้วเสร็จก่อน เพราะหากทำควบคู่กันยิ่งจะกระทบต่อการคมนาคม

ส่วนเรื่องการปรับปรุงท่าอากาศยาน ที่จะเริ่มต้นภายในปีนี้ โดยมีการขยายพื้นที่ตกแต่งใหม่ให้ทันสมัย เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวได้หลายสิบล้านคน ตรงนี้เป็นอะไรที่สามารถทำได้เลย ส่วนระยะยาวจะมีการสร้างสนามบินแห่งใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการสำรวจ ซึ่งจะทำให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นหนึ่งในฮับการท่องเที่ยวของภูมิภาคนี้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี

ส่วนเรื่องการเผาป่า นายกรัฐมนตรี เชื่อว่า ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรฯ ดูแลกันได้ดีมาก จึงทำให้จุดความร้อนลดลง แต่เราไม่ได้อยู่คนเดียว โดยมีประเทศเพื่อนบ้านทางกัมพูชา รวมถึง สปป ลาว เมียนมา โดยเมียนมากับลาว ปัญหาน่าจะมาหนักประมาณเดือนมีนาคมและเมษายน จึงต้องอาศัยการพูดคุยของกระทรวงการต่างประเทศ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับ สปป ลาว เรามีความสัมพันธ์ที่ดี จึงเป็นไปด้วยดี แต่ทางเมียนมาค่อนข้างจะซับซ้อนหน่อย แต่ยังมีระยะเวลาอีกประมาณเดือนครึ่ง โดยจะให้นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ดูแลเป็นพิเศษ รวมถึงการเผาป่าจากชายแดนเมียนมาก็เป็นปัญหาสำคัญ

“สำคัญกว่านั้น เดือนนี้และเดือนหน้าเป็นฤดูเผาป่าของทางด้านกัมพูชา เห็นได้จากแผนที่ ที่โชว์ค่าจุดความร้อน ซึ่งวันนี้ตนจะนำข้อมูลมาดู และช่วงบ่ายนี้จะยกหูคุยกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เพราะเรามีความสัมพันธ์ที่ดี และท่านเองก็มีความเป็นห่วงเป็นใยในเรื่องนี้พอสมควร” นายเศรษฐา กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรื่องทรัพยากรในการดูแลไฟป่า ยังเป็นประเด็นสำคัญที่มีงบประมาณขาดแคลนจากกรมฝนหลวงฯ ซึ่งตนได้ทราบนโยบาย โดยจะต้องมีการจัดซื้อจัดจ้าง บูรณาการอุปกรณ์เพิ่มมากขึ้น แต่ต้องใช้เวลา เพราะการจะสั่งซื้อเครื่องบินหรืออะไร ต้องใช้ระยะเวลา 1-2 ปี เป็นต้นไป

“แต่ในปัจจุบันได้มีการพูดคุยและขอร้องให้แม่ทัพภาคที่ 3 ดูแลพูดคุยกับผู้บัญชาการทหารบกและผู้บัญชาการทหารอากาศ หากมีเครื่องบินหรืออุปกรณ์ที่อาจจะยังไม่ได้ใช้ หรือใช้น้อย ให้เราปรับปรุงนิดหน่อยแล้วนำมาใช้ได้ ในแง่ของการปล่อยน้ำ หรือทำฝนหลวงได้หรือไม่ เพราะหากช่วยเหลือกันได้ก็จะเป็นการทำงานที่ครบวงจร เป็นการทำงานทีมไทยแลนด์อย่างแท้จริง กอ.รมน. ก็สามารถช่วยได้อยู่แล้ว เพราะทำอยู่แล้วในแง่ของไฟป่า” นายเศรษฐา กล่าว.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ประชุม JBC วันแรกเป็นไปด้วยดี สองฝ่ายหารือตรงไปตรงมา

14 มิ.ย.- โฆษก กต. เผยการประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายหารือกันอย่างตรงไปตรงมา พร้อมย้ำไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก สำหรับการประชุมจะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา หรือ JBC ครั้งที่ 6 ว่าตั้งแต่เมื่อเช้า หลังจากคณะผู้แทนไทยฯ ที่นำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย เดินทางถึงกรุงพนมเปญเมื่อวานนี้ ได้รับรายงานความคืบหน้ามาเป็นระยะ และเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ได้เรียกประชุมผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ขอให้เรียกประชุมและรายงานความคืบหน้าเป็นระยะ เพื่อจะได้มีข้อสั่งการ นายนิกรเดช กล่าวว่า การประชุมเริ่มจากที่พบหารือระหว่างสองประธานไทย-กัมพูชา กลุ่มเล็ก จากนั้นได้เริ่มการประชุม JBC เต็มคณะ เพื่อหารือประเด็นทางเทคนิค ที่อยู่ในขอบเขตการทำงานของ JBC เช่นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการสำรวจภูมิประเทศ ขณะนี้การประชุมก็ยังคงดำเนินอยู่ ซึ่งช่วงบ่ายก็จะเป็นการหารือตามระเบียบวาระที่วางไว้ เช่นการพูดคุยด้านเทคนิค และคาดว่าจะมีการประชุมไปจนถึงวันพรุ่งนี้ บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยดี และทั้งสองฝ่ายกำลังเดินหน้าหารือกันตามวาระ ถือว่าการประชุมเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายเดินหน้าคุย และปรับความคิดหากันด้วยดี ฝ่ายไทยหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะมีส่วนช่วยลดความ ตึงเครียดของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น […]

ประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” ยึด MOU43 แก้ปมชายแดน-ลดตึงเครียด

14 มิ.ย.- “ไทย-กัมพูชา” แถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม JBC เจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกัน และการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบ MOU43 นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย เป็นประธานการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) ร่วมกับนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายกล่าวถ้อยแถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ในการเจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกันและการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 (MOU 43) เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาชายแดนและลดความตึงเครียดที่มีอยู่ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการของทั้งสองฝ่าย ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานเชิงเทคนิคที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กรมแผนที่ทหาร กองทัพบก กองทัพเรือ สำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา (เทียบเท่ากระทรวง) กระทรวงกลาโหมกัมพูชา กองทัพภาคต่าง ๆ ของกัมพูชา รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาของกัมพูชาทุกจังหวัด -สำนักข่าวไทย

Cambodia and Thailand hold a closed-door meeting ahead of the official meeting of JBC in Phnom Penh

ไทย-กัมพูชา หารือกลุ่มเล็กก่อนประชุม JBC

พนมเปญ 14 มิ.ย. – สื่อกัมพูชารายงานว่า กัมพูชาและไทย ได้เปิดการหารือกลุ่มเล็กฝ่ายละ 5 คน ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือเจบีซี (JBC) ที่กรุงพนมเปญ ในวันนี้ เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า ในการหารือกลุ่มเล็กที่มีผู้ร่วมเข้าเพียง 10 คน ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายเจีย ฬำ  รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบกิจการชายแดน ส่วนฝ่ายไทยนำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศด้านกิจการชายแดน ซึ่งเป็นนักการทูตผู้เชี่ยวชาญช่วงข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร พร้อมกับเผยแพร่ภาพชุดการหารือดังกล่าว.-814.-สำนักข่าวไทย

รวบแล้ว! โจรชิงทองที่ลำพูน หนีกบดานพัทยา

พัทยา 14 มิ.ย.- หนีไม่รอด! รวบโจรบุกเดี่ยวชิงทอง จ.ลำพูน หนีกบดานพัทยา สารภาพติดการพนันออนไลน์ จากกรณีเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2568 เกิดเหตุคนร้ายรูปร่างสูงประมาณ 160-165 ซม. ทราบชื่อต่อมาคือ นายประกร อายุ 47 ปี ขี่รถจักรยานยนต์สีดำ บุกเดี่ยวเข้าไปชิงทองคำรูปพรรณ จากห้างทองฯ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ได้สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 5 บาท ไปจำนวน 2 เส้น มูลค่ากว่า 500,000 บาท แล้วหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ล่าสุดตำรวจ สภ.จว.ชลบุรี ได้เบาะแสว่า นายประกร ที่มีหมายจับศาลจังหวัดลำพูน ในข้อหากระทำความผิดฐาน “วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” หลังก่อเหตุได้หนีมากบดานในพื้นที่จังหวัดชลบุรี จึงนำกำลังออกติดตาม กระทั่งพบตัวนายประกร อยู่ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านพัทยากลาง เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าจับกุม เจ้าตัวให้การยอมรับ เป็นผู้ก่อเหตุวิ่งราวทองจากห้างทองในพื้นที่จังหวัดลำพูนจริง หลังก่อเหตุได้หนีมายังพื้นที่เมืองพัทยาและนำทองไปขายในห้างทองแห่งหนึ่ง ตอนแรก คิดว่าจะเดินทางเข้ามาตัว แต่ก็สายไปเนื่องจากมาโดนเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้เสียก่อน ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุลงไปนั้นเนื่องจากตนเองติดการพนันออนไลน์ จนเงินหมด […]