หนุนเชียงใหม่มีรถไฟฟ้า ส่งเสริมการท่องเที่ยว

เชียงใหม่ 11 ม.ค.- นายกฯ ชื่นชมทีมไทยแลนด์เตรียมคุยเพื่อนบ้านแก้ปัญหาฝุ่นและไฟป่า เผยร่าง กม.อากาศสะอาดฯ ฉบับก้าวไกล เซ็นแล้ว เชื่อเข้าสภาฯ ทันวันนี้ ชี้เชียงใหม่ควรมีรถไฟฟ้า ส่งเสริมการท่องเที่ยว


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดเชียงใหม่ ว่า ได้มีการประชุมเตรียมความพร้อมเรื่องป้องกันไฟป่า รวมถึงการพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่โดยรวม โดยก่อนเข้าประชุมได้มีเรื่องด่วน คือ มีการเซ็นร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ให้กับพรรคคก้าวไกล ซึ่งคาดว่าจะนำเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรทันวันนี้ (11 ม.ค.)

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า การประชุมวันนี้เป็นการติดตามหลังลงพื้นที่เมื่อวันที่ 28 พ.ย.66 โดยมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมด้วย ทั้งฝ่ายความมั่นคง กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเรื่องแรกที่มีการพูดถึง คือ ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่าจุดความร้อนลดลง โดยช่วงเวลาเดียวกันจาก 50 กว่า เหลือ 10 กว่า ซึ่งถือเป็นหมายในการเริ่มต้นปีที่ดี แสดงว่าการที่เราลงพื้นที่ร่วมมือทำงานแบบบูรณาการ โดยมีหัวหน้าทีมผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ในการประสานทุกภาคส่วน จึงทำให้ค่าฝุ่นลดลงอย่างมีนัย


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับด้านคมนาคม ในจังหวัดเชียงใหม่ ด้านถนนแบ่งเป็นสามวงแหวน วงแหวนหนึ่งสร้างมานานแล้ว แต่ยังไม่ครบ ขาดช่วงหนึ่งที่ไม่มาก แต่กระทรวงคมนาคมก็มีแผนงานที่จะทำให้ครบโดยเร็ว ซึ่งเหลือพื้นที่ไม่กี่กิโลเมตร เพียงต้องการการประสานงานระหว่างรัฐบาลกับกองทัพอากาศ โดยตนจะกลับไปพูดคุยกับกองทัพอากาศ โดยขอร้องให้ผู้บัญชาการทหารอากาศ ประสานทำการจราจรทางอากาศให้ครบ เพื่อลดการจราจรที่ติดขัดทางอากาศ ขณะเดียวกันก็จะทำให้ฝุ่น PM 2.5 ลดลงด้วย

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงวงแหวนส่วนที่สอง เป็นการยกระดับเหนือชลประทาน และวงแหวนส่วนสามจะทำให้การจราจรสะดวกขึ้น

“เรื่องที่ควบคู่กันไปจะมีการทำเรื่องของรถไฟฟ้า อันนี้สำคัญมาก เพราะเราทราบกันดี นักท่องเที่ยวเชียงใหม่เยอะ และเมื่อเวลานักท่องเที่ยวมาก็ไม่ได้ขับรถ การจราจรอาจจะติดขัด ฉะนั้นหากมีรถไฟฟ้า และในกรุงเทพฯ ก็เป็นที่ประจักษ์แล้ว ทุกอย่างสะดวกสบายขึ้น ดังนั้น หากมีการท่องเที่ยวก็จะสะดวกสบายมากขึ้น และเมื่อวงแหวนครบลูป ก็จะทำเรื่องของรถไฟฟ้า เพราะระหว่างการทำรถไฟฟ้า การจราจรก็จะไม่ติดขัด เนื่องจากสามวงแหวนได้เสร็จแล้ว เมืองใหญ่รถไฟฟ้ามีนัย เพราะเชียงใหม่เป็นเมืองใหญ่ ติด 10 อุตสาหกรรมของประเทศ ซึ่งการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรม ผมเชื่อว่าเมืองใหญ่ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวเยอะขนาดนี้ ถ้าไม่มีรถไฟ รถไฟฟ้าไม่ได้ ผมคิดว่าต้องมี จะช่วยอำนวยความสะดวกสบายและกระตุ้นเศรษฐกิจ กระจายความแออัดในเมืองออกไปชานเมืองได้ สำคัญกว่านั้นอากาศสะอาด เพราะไม่ได้ใช้รถยนต์ และเป็นการใช้มากขึ้น ซึ่งถือเป็นการส่งเสริมนโยบายของรัฐบาล ลดค่าฝุ่น 2.5” นายเศรษฐา กล่าว


นายกรัฐมนตรี  ยังเปิดเผยด้วยว่า เรื่องการสร้างรถไฟฟ้าที่จังหวัดเชียงใหม่ ทางกระทรวงคมนาคมได้เริ่มศึกษาแนวทางและมีแผนแล้ว เชื่อว่าหลังนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะมีการแถลงรายละเอียด ส่วนเรื่องกรอบในการดำเนินการก่อสร้าง ต้องรอให้การก่อสร้างถนนวงแหวนรอบเชียงใหม่แล้วเสร็จก่อน เพราะหากทำควบคู่กันยิ่งจะกระทบต่อการคมนาคม

ส่วนเรื่องการปรับปรุงท่าอากาศยาน ที่จะเริ่มต้นภายในปีนี้ โดยมีการขยายพื้นที่ตกแต่งใหม่ให้ทันสมัย เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวได้หลายสิบล้านคน ตรงนี้เป็นอะไรที่สามารถทำได้เลย ส่วนระยะยาวจะมีการสร้างสนามบินแห่งใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการสำรวจ ซึ่งจะทำให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นหนึ่งในฮับการท่องเที่ยวของภูมิภาคนี้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี

ส่วนเรื่องการเผาป่า นายกรัฐมนตรี เชื่อว่า ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรฯ ดูแลกันได้ดีมาก จึงทำให้จุดความร้อนลดลง แต่เราไม่ได้อยู่คนเดียว โดยมีประเทศเพื่อนบ้านทางกัมพูชา รวมถึง สปป ลาว เมียนมา โดยเมียนมากับลาว ปัญหาน่าจะมาหนักประมาณเดือนมีนาคมและเมษายน จึงต้องอาศัยการพูดคุยของกระทรวงการต่างประเทศ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับ สปป ลาว เรามีความสัมพันธ์ที่ดี จึงเป็นไปด้วยดี แต่ทางเมียนมาค่อนข้างจะซับซ้อนหน่อย แต่ยังมีระยะเวลาอีกประมาณเดือนครึ่ง โดยจะให้นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ดูแลเป็นพิเศษ รวมถึงการเผาป่าจากชายแดนเมียนมาก็เป็นปัญหาสำคัญ

“สำคัญกว่านั้น เดือนนี้และเดือนหน้าเป็นฤดูเผาป่าของทางด้านกัมพูชา เห็นได้จากแผนที่ ที่โชว์ค่าจุดความร้อน ซึ่งวันนี้ตนจะนำข้อมูลมาดู และช่วงบ่ายนี้จะยกหูคุยกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เพราะเรามีความสัมพันธ์ที่ดี และท่านเองก็มีความเป็นห่วงเป็นใยในเรื่องนี้พอสมควร” นายเศรษฐา กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรื่องทรัพยากรในการดูแลไฟป่า ยังเป็นประเด็นสำคัญที่มีงบประมาณขาดแคลนจากกรมฝนหลวงฯ ซึ่งตนได้ทราบนโยบาย โดยจะต้องมีการจัดซื้อจัดจ้าง บูรณาการอุปกรณ์เพิ่มมากขึ้น แต่ต้องใช้เวลา เพราะการจะสั่งซื้อเครื่องบินหรืออะไร ต้องใช้ระยะเวลา 1-2 ปี เป็นต้นไป

“แต่ในปัจจุบันได้มีการพูดคุยและขอร้องให้แม่ทัพภาคที่ 3 ดูแลพูดคุยกับผู้บัญชาการทหารบกและผู้บัญชาการทหารอากาศ หากมีเครื่องบินหรืออุปกรณ์ที่อาจจะยังไม่ได้ใช้ หรือใช้น้อย ให้เราปรับปรุงนิดหน่อยแล้วนำมาใช้ได้ ในแง่ของการปล่อยน้ำ หรือทำฝนหลวงได้หรือไม่ เพราะหากช่วยเหลือกันได้ก็จะเป็นการทำงานที่ครบวงจร เป็นการทำงานทีมไทยแลนด์อย่างแท้จริง กอ.รมน. ก็สามารถช่วยได้อยู่แล้ว เพราะทำอยู่แล้วในแง่ของไฟป่า” นายเศรษฐา กล่าว.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ทุ่นระเบิดใหม่ตอกย้ำกัมพูชาละเมิดกติกาสากล

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – วันนี้ รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวา ลงพื้นที่ดูปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บนภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมเรียกร้องให้ตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ผู้บริจาค ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ยืนยันเป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่เพิ่งพบช่วงเหตุปะทะล่าสุด.-สำนักข่าวไทย

ผลถก RBC กัมพูชาเมินกู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์

ตราด 16 ส.ค. – กัมพูชายังไม่ให้ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด หลังฝ่ายไทยผลักดันในเวที “RBC ไทย-กัมพูชา” พื้นที่ชายแดนจันทบุรี-ตราด พร้อมการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ แขวนไว้หารือในการประชุมครั้งต่อไป พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า วันนี้ (16 สิงหาคม 2568) พลเรือโท อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และพลตรี อุย เฮียง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา ตลอดจนคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคของทั้งสองฝ่าย จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ (Regional Border Committee) หรือ RBC ณ ประเทศไทย ที่บ้านทะเลภูรีสอร์ท อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เพื่อร่วมกันหารือในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และการดำเนินชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศด้วยสันติวิธี โดยได้ลงนามใน “บันทึกความตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ราชอาณาจักรไทย กับภูมิภาคที่ 3 […]

วัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะแจงดำเนินคดีอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท

กทม. 16 ส.ค.-ไวยาวัจกรฝ่ายกฎหมายวัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะชี้แจงการดำเนินคดีกับอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท ตรวจสอบประวัติย้อนหลัง 10 ปี พบปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาส 240 ครั้ง ด้านเจ้าอาวาสยอมรับเสียใจ ผิดหวังที่ไว้ใจคนใกล้ตัว ไวยาวัจกรวัดฝ่ายกฎหมาย ตั้งโต๊ะชี้แจง กรณีที่มีบุคคลภายในวัดปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์วรวิหาร ไปถอนเงินออกจากบัญชีวัดกว่า 240 ครั้ง ยักยอกเงินกว่า 56 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน ปี 67 ที่ผ่านมา ในส่วนการดำเนินการขณะนี้แบ่งเป็น 3 คดี คดีแรก พบการกระทำความผิดคือเมื่อเดือนเมษายน 2567 ทางวัดได้รับบริจาคจากกองทัพเรือเป็นแคชเชียร์เช็ค 1.5 ล้านบาท ลงวันที่ 10 เมษายน 2567 โดยในแคชเชียร์เช็คระบุว่ามอบให้ทางวัด จึงต้องเอาเข้าบัญชีวัด ทางเจ้าอาวาสจึงมีการมอบให้นายกฤษณ์ ที่เป็นไวยาวัจกรวัดในตอนนั้น เอาแคชเชียร์เช็คดังกล่าวไปขึ้นเงินและเอาเข้ายังบัญชีของวัด ต่อมาทางเจ้าอาวาสได้ทวงถามไปยังนายกฤษณ์ เพราะในขณะนั้นจำเป็นจะต้องบูรณะศาสนสถาน แต่นายกฤษณ์ อ้างว่าไม่ว่าง และได้มอบหมายให้นายชัยณรงค์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยไวยาวัจกรในตอนนั้นนำเงินไปเข้าธนาคาร ทางเจ้าอาวาสเลยมีการติดต่อไปยังนายชัยณรงค์ เพื่อทวงถามเรื่องเงิน แต่ก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด […]

“มาริษ” นำคณะทูตดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูต 33 ประเทศ ดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ เตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง ให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ หลังจากฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในภาพรวมที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา และตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ รวม 33 ประเทศ ขึ้นไปสำรวจพื้นที่และดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ ที่อยู่ใกล้แนวปราสาทพระวิหาร เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่ขึ้นภูมะเขือ งดถ่ายภาพติดพื้นที่ทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ระหว่างทางขึ้น ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ถูกสะเก็ดเสียหายอีก 2 หลัง โดยจุดนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายด้วย เพื่อให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ.-สำนักข่าวไทย