“สุวัจน์” ชมรัฐบาลแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี

กรุงเทพฯ 30 ธ.ค.-“สุวัจน์” ชมรัฐบาลแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี แนะนายกฯ ใช้ประสบการณ์ธุรกิจ-ความได้เปรียบผลักดันบริหารงาน ชงปี 67 รัฐบาลต้องหารายได้ให้ประเทศ-ประชาชน ย้ำดิจิทัลวอลเล็ตหาเสียงไว้แล้วก็ต้องทำ

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) ประเมินผลการทำงานของรัฐบาล 3 เดือนว่า รัฐบาลพยายามทำงานในสิ่งที่สัญญากับประชาชนไว้ตอนเลือกตั้ง โดยเฉพาะปัญหาเฉพาะหน้า เช่น เศรษฐกิจระยะสั้น การตรึงราคาค่าไฟ ค่าน้ำมัน หนี้นอกและในระบบเพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนให้ดี มองว่ารัฐบาลทำได้ดี แต่สำหรับปีหน้าคงต้องโฟกัสเรื่องของรายได้ประเทศและรายได้ประชาชน รัฐบาลไปเชิญชวนการลงทุนไว้มาก แต่เราจะได้เงินได้งานเพิ่มขึ้นมา จากการลงทุนที่ไปเชิญชวนอย่างไร หรือการส่งออกที่ติดลบ ปีหน้าจะหาตลาดเพื่อการส่งออก นำรายได้เข้าประเทศ หรือการท่องเที่ยวปีนี้มีนักท่องเที่ยว 27 ล้านคน ปีหน้าทำอย่างไรให้ได้ 40 ล้านคน ถ้าทำได้เราก็กลับมาอยู่จุดเดิมก่อนเกิดโควิด-19


นายสุวัจน์ กล่าวว่ารัฐบาลงควรทำอะไรที่ถาวรให้กับประเทศ เช่น การปรับโครงสร้างต่างๆ ได้แก่ พลังงาน ตอนนี้รัฐบาลแก้ปัญหาค่าไฟเฉพาะหน้า แต่ถ้าปรับโครงสร้างทั้งการผลิตและการใช้พลังงานหมุนเวียน การหาแหล่งก๊าซเป็นของตัวเองจะเป็นเรื่องที่ถาวรและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน การปรับโครงสร้างภาคการเกษตร อุตสาหกรรมรถยนต์ที่กำลังเปลี่ยนป็นรถยนต์ไฟฟ้า และโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น EEC แลนด์บริดจ์ รถไฟฟ้าความเร็วสูง มอเตอร์เวย์ จะต่อยอดอย่างไร แต่รัฐบาลต้องระวังเรื่องตัวเลขหนี้สาธารณะในขณะนี้ 62% แม้ยังไม่ทราบว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะเกิดขึ้นเมื่อไร แต่ถ้าเกิดขึ้นก็อาจจะทำให้ตัวเลขหนี้สาธรณะสูงขึ้นถึง 65-66% หนี้ภาคประชาชนตอนนี้กว่า 90% รัฐบาลต้องระมัดระวังและสร้างเสถียรภาพทางการคลังเพื่อให้เกิดความมั่นใจ หากนโยบายการผลักดันนโยบายการหารายได้ชัดเจน จีดีพีก็จะโต หนี้ต่างๆ จะลดลง ตลาดหุ้นก็จะกลับมาคึกคัก

นอกจากนี้ นายสุวัจน์ ยังกล่าวถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ว่าเป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นเศรษฐกิจ และน่าจะเพิ่มจีดีพีได้อีกประมาณครึ่งเปอร์เซ็นต์ ปีหน้าจีดีพีอาจจะอยู่ที่ประมาณ 3% แต่ถ้ามีนโยบายนี้ก็อาจจะเพิ่มเป็น 3.5% และขอย้ำว่าสิ่งที่ต้องควบคุมหนี้สาธารณะตอนนี้ห้าแสนล้านบาท หากมีการกู้เงินเพิ่มอีกก็จะทำให้สูงกว่า 62% แม้ไม่เกิน 70% แต่นักลงทุนและนักวิเคราะห์ก็จะมอง ดังนั้น รัฐบาลต้องหามาตรการหารายได้เพิ่มให้กับประเทศในระยะยาวควบคู่กันไป การท่องเที่ยวดีขึ้น การส่งออกดีขึ้น การปรับโครงสร้างต่างๆ เพื่อให้บาลานซ์ตัวเลขที่ทำให้เกิดความมั่นใจเสถียรภาพการคลังของประเทศ แต่มองว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเงินถึงห้าแสนล้านบาทย่อมมีความรุนแรงที่ทำให้เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้นได้ และถ้าติดเรื่องข้อกฎหมายคิดว่ารัฐบาลต้องมีมาตรการสำรองที่เทียบเคียงได้กับดิจิทัลวอลเล็ต


“ดิจิทัลวอลเล็ตบอกประชาชนไว้ก็ต้องทำและก็เป็นนโยบายของรัฐบาล เพียงแต่ต้องมีความรอบคอบในเรื่องของความถูกต้องของขั้นตอนต่างๆ คือ การตีความทางกฎหมายของกฤษฎีกา แต่โดยภาพรวมก็มีผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ เพียงแต่ว่าระมัดระวังที่มาและหนี้สาธารณะที่เกิดขึ้นให้อยู่ในเกณฑ์ที่ยังมีเสถียรภาพในด้านการคลังอยู่” นายสุวัจน์ กล่าว

เมื่อถามถึง คำแนะนำแก่นายกรัฐมนตรี นายสุวัจน์ กล่าวว่า เวลาไม่รอท่า ตอนนี้นายกรัฐมนตรีต้องโฟกัสในการหารายได้ ใช้ประสบการณ์ในทางธุรกิจ ความได้เปรียบและเสถียรภาพทางการเมือง ผลักดันให้งานเรียบร้อย เพราะปีหน้าจะเป็นปีที่ท้าทายในเรื่องเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามปัจจัยต่างๆ ก็เป็นใจเพราะส่งออกปีนี้ติดลบ แต่ปีหน้าเศรษฐกิจโลกจะดีขึ้น ดอกเบี้ยขาลง เงินเฟ้อลดลง ดังนั้น เศรษฐกิจไทยโดยพื้นฐานย่อมจะต้องดีขึ้น ตัวเลขการส่งออกที่ติดลบปีหน้าก็ต้องเป็นบวก นักท่องเที่ยวก็ต้องเพิ่มขึ้น และถ้ามีการลงทุนเพิ่มก็จะยิ่งขับเคลื่อนจีดีพี หนี้ต่างๆ จะเบาลง

ส่วนเรื่องการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีของพรรคแกนนำ นายสุวัจน์ กล่าวว่า น่าจะยังไม่มีอะไร เพราะ สว. ยังอยู่ ดังนั้นการเปลี่ยนตัวจึงไม่ใช่เรื่องง่าย อะไรยากๆ คงไม่ทำในช่วงนี้และไม่ใช่การเปลี่ยนผ่านที่ราบรื่น.-312.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”