คปท.ร้องกมธ.วุฒิฯหาความจริง”ทักษิณ”อยู่ชั้น 14

รัฐสภา 20 ธ.ค.-“คปท. ไม่ทนร้อง2 กมธ.วุฒิสภา จี้หาความจริง ”ทักษิณ“ ป่วยจริงหรือไม่ หลังอยู่ชั้น 14 เกือบครบ 120 วัน พร้อมขอหลักฐานการประชุม จ่อฟ้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สว.สมชาย ขู่ขรก.การเมือง ปฏิบัติไม่ตรงไปตรงมาเสี่ยงติดคุก ชี้ในอดีตก็มีให้เห็น ขณะนายแพทย์เจตน์ รับข้อมูลอาการป่วย4โรค ที่ได้มาไม่ชัดเจน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) เข้ายื่นหนังสือต่อ คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนสิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา และคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี การรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี ว่าอยู่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจจริงหรือไม่ และมีอาการหนักขนาดไหน รวมถึงการรักษาตัวดังกล่าวเป็นไปตามหลักสากลหรือไม่ เนื่องจากเกือบ 120 วันยังไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวออกมาชี้แจงให้คลายข้อสงสัย พร้อมทั้งขอสำเนา เอกสารการชี้แจงของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในชั้นกรรมาธิการวุฒิสภา เพราะจะนำเอาไปเป็นหลักฐานในการยื่นฟ้อง หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องเช่น กรมราชทัณฑ์ โรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ เป็นต้น

โดยมีนายสมชาย แสวงการ ประธานกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน ฯ วุฒิสภา และ นายแพทย์เจตน์ ศิรธรานนท์ ประธานกรรมาธิการ การสาธารณสุข วุฒิสภา เป็นผู้รับหนังสือดังกล่าว


นายสมชาย กล่าวว่า วุฒิสภาได้รับเรื่องเข้าระบบแล้ว ซึ่งในกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนฯ ได้ตรวจสอบเรื่องนี้มาอย่างน้อย 2 ครั้งแล้ว โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงในที่ประชุมกรรมาธิการ ซึ่งยังมีบางประเด็นที่ชี้แจงไม่ได้ และยังอยู่ในข้อสงสัยเพิ่มเติม โดยเฉพาะประเด็นการออกระเบียบล่าสุด ซึ่งในวันจันทร์ที่ 25 ธันวาคม เวลา13.30 น. ก็จะมีการเรียก กรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ มาชี้แจงเพิ่มเติม ว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรหลังจากการรักษาตัวครบ 120 วันแล้ว พร้อมฝากไปยังพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ รวมไปถึงประธาน กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ว่าให้มาชี้แจงต่อข้อสงสัยดังกล่าว

นายสมชาย กล่าวต่อว่าที่ผ่านมาทางคณะกรรมาธิการได้รับทราบจากโรงพยาบาลตำรวจ ว่าไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลทางการแพทย์ได้ เนื่องจากผู้ป่วยไม่อนุญาตให้ชี้แจง แต่ทางกรรมาธิการได้รู้ข้อมูลจากที่เป็นข่าวว่านายทักษิณมีอาการป่วย 4 โรค ซึ่งโรคดังกล่าวก็ถือว่าเป็นโรคปกติของผู้สูงอายุ ส่วนที่ คปท. ร้องขอให้ไปตรวจสอบโรงพยาบาลตำรวจนั้น ทางกรรมาธิการก็จะนำไปพิจารณา ซึ่งหากมีการปรากฏว่านายทักษิณไม่ได้อยู่โรงพยาบาลตำรวจจริง ผู้ที่เคยมาชี้แจงในกรรมาธิการทั้งหมดก็จะต้องถูกดำเนินคดี เพราะได้รับการยืนยันว่านายทักษิณอยู่โรงพยาบาลตำรวจ 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ยืนยันว่าตนไม่ได้มีอคติแต่อย่างใด เพราะตั้งแต่มาเป็นประธานกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน ก็ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับราชทัณฑ์จำนวนมาก โดยเฉพาะสิทธิผู้ต้องขัง ตนจึงอยากเห็นกระบวนการยุติธรรมของไทยมีความเสมอภาคเท่าเทียม รวมถึงไม่เอื้อต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง พร้อมทั้งฝากไปยังข้าราชการประจำว่าต้องทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพราะในอดีตก็มีบทเรียนมาแล้ว เช่นการออกพาสปอร์ต โครงการจำนำข้าว ที่มีคนติดคุกและตอนนี้ก็ยังอยู่ในเรือนจำ เพราะการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ 

ขณะนพ.เจตน์ กล่าวว่า จากที่ทางกรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจได้เคยมาชี้แจงในกรรมาธิการสรุปได้ว่า ข้อมูลที่เจ็บป่วยอยู่ 4โรคได้มาจากต่างประเทศ แต่เรื่องอาการหนักยังไม่มีความชัดเจนแต่อย่างใด เพราะมีการอ้างถึงสิทธิของผู้ป่วย ซึ่งเราก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านั้น ตนคิดว่าหลักฐานที่สำคัญที่สุดคือเวชระเบียนผู้ป่วยใน แต่ก็ไม่สามารถที่จะขอมาได้ เพราะต้องเป็นคำสั่งของศาล ยืนยันว่าทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ


ด้านนายประพันธ์ คูณมี สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่าตนในฐานะผู้ที่เคยร่วมชุมนุม ในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งก็ได้เห็นการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐต่อนายทักษิณ ว่าไม่ถูกต้องและไม่ชอบธรรม ชัดเจนในเรื่องของการให้อภิสิทธิ์บุคคลคนเดียว เป็นการทำลายหลักการยุติธรรมและหลักกฏหมาย กฎระเบียบของบ้านเมือง เพราะฉะนั้นการที่ประชาชนมาร้องเรียนต่อวุฒิสภาก็ถือว่าเป็นช่องทางหนึ่งในการตรวจสอบ ซึ่งหากเป็นการหลีกเลี่ยงทำผิดกฏหมาย วุฒิสภาก็จะไม่ปล่อยให้เรื่องแบบนี้อยู่บ้านเมืองอีกต่อไป พร้อมย้ำว่า แม้ที่ผ่านมาจะเคยร่วมต่อสู้ ในการชุมนุมในอดีต แต่ปัจจุบันก็ไม่ได้มีความโกรธแค้นส่วนตัวต่อนายทักษิณ และก็มองว่าประชาชนคนไทยก็ให้โอกาสในทักษิณพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้รับพระราชทานอภัยลดโทษ เหลือจำคุกเพียงหนึ่งปี

” ผมคิดว่าท่านน่าจะต้องควรปฏิบัติ ให้อยู่ในกฎเกณฑ์ของกฎหมาย ในฐานะที่เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศนี้ แต่ปรากฏว่าแม้วันเดียวก็จะไม่ยอมเข้าไปอยู่ในคุก หรือปฏิบัติตามกฏหมายเลย ซึ่ง ผมคิดว่ามันเป็นการทำร้ายหลักการสำคัญของบ้าน ทำร้ายจิตใจจิตใจของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ต้องขังคนอื่นๆ และผู้ที่เคยเคลื่อนไหวทางการเมือง และโดนพิพากษาลงโทษก็ไม่เคยเรียกร้อง อภิสิทธิ์ชนเหมือนกับตัวท่านเลย ท่านเองซึ่งเคยเป็นผู้นำประเทศแทนที่จะเป็นแบบอย่างที่ดี ให้กับบ้านเมืองกลับไม่ได้ทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดี “ นายประพันธ์ กล่าว ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มคปท. จะมีการรวมตัวทำกิจกรรม ที่หน้าโรงพยาบาลตำรวจในวันอาทิตย์ที่ 24 ธ.ค. นี้ เป็นการแสดงจุดยืนหลังนายทักษิณรักษาตัวครบ 120 วัน ในวันที่ 22 ธ.ค. สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”