นายกฯ แจงปมชั้น 14 รพ.ตำรวจ ยันไม่มีดีลปีศาจ

รัฐสภา 25 มี.ค.-นายกฯ แจงปมชั้น 14 รพ.ตำรวจ ยันไม่มีดีลปีศาจ ต่อให้ก้าวไกลเป็นรัฐบาล “ทักษิณ” ก็กลับประเทศ ชี้ “ทักษิณ“ ได้รับความไม่ยุติธรรมตลอด 20 ปี บอกลาออกจากความเป็นลูกสาว-ความเป็นแม่ไม่ได้ ขอวิจารณ์การทำงานจะเป็นประโยชน์มากกว่า

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงฝ่ายค้าน ว่า ประเด็นเรื่องของชั้น 14 ซึ่งตนกับผู้อภิปรายมีความคิดเห็นที่ต่างกัน เพราะว่า ท่านเคยมีความเคลื่อนไหวกับกลุ่มพันธมิตรที่จังหวัดภูเก็ตและเชื่อว่าคงไม่ได้ใช้อารมณ์ความรู้สึกในตอนนั้นมาใช้อภิปรายตนในวันนี้ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้พูดไปในรายละเอียดหมดแล้ว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนอยากชี้แจงในฐานะของลูกสาวคนหนึ่ง ตั้งแต่เมื่อพ่อกลับมาอยู่ประเทศไทยและออกจากโรงพยาบาลชั้น 14 ตนยังไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ไม่อยากให้ท่านอภิปรายให้เกิดความสับสน เหมือนกับว่าดิฉันเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วและมีอำนาจในการสั่งข้าราชการ หรือว่าสั่งใครใดๆ ซึ่งขณะนั้นตนเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและไม่มีอำนาจใดๆ เลย ซึ่งในเรื่องของความถูกต้อง ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งไหนก็ตาม ทุกคนมีหน้าที่ในการรักษากฎระเบียบ การจะอภิปรายอะไรแบบนี้ก็ต้องเห็นค่าของผู้ที่รักษากฎหมายและคนที่เป็นข้าราชการด้วย เพราะการพูดแบบนี้ เหมือนเป็นการด้อยค่าไปในตัว

”เชื่ออย่างยิ่งว่าลูกคนไหนก็ตาม ที่เห็นความไม่ยุติธรรม ที่เกิดขึ้นกับคุณพ่อ ซึ่งผ่านมาเกือบ 20 ปี ไม่มีใครอยากให้เกิด และสถานการณ์ทั้งหมดในรอบ 20 ปีที่ผ่านมาในประเทศ ทุกคนก็ทราบถึงความยากลำบากที่เราและประชาชนได้ประสบมา ในเรื่องของความอยุติธรรม ซึ่งถ้าหาใครซักคนที่เผชิญเรื่องของความไม่อยุติธรรม ดิฉันมั่นใจว่า นายทักษิณคือคนท็อปๆที่ได้รับความไม่ยุติธรรม ท่านถูกยึดอำนาจทางการเมืองและถูกอายัดทรัพย์สิน ถูกยึดทรัพย์สินถูกลอบสังหารหลายรอบ ซึ่งตนอยู่มหาวิทยาลัย ก็ทราบ สมัยนั้นการสื่อสารก็ยังไม่ค่อยดี ซึ่งในวันนั้นตนก็ไม่ได้มีความรู้สึกที่ดี และวันนั้นไม่ทราบด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นได้ยินแค่ข่าวและรออีกสักพักสรุปแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณพ่อ ซึ่งไม่ใช่เกิดครั้งเดียวและเกิดขึ้นหลายครั้ง เป็นสิ่งที่ เกิดความเจ็บปวดในครอบครัว นอกจากนี้ยังถูกพลัดพรากไปไกลกัน อยู่คนละประเทศอยู่เสมอ ซึ่งได้เดินทางไปหาคุณพ่อบ่อยๆ เพื่อจะได้ไม่คิดถึงกันมากจนเกินไป โดยไปมาตลอด จนกระทั่งช่วงโควิด ท้องลูกคนแรก เดินทางยากลำบาก เมื่อท้อง 6 เดือนและได้อยู่กับคุณพ่อหนึ่งเดือน ก็เสียน้ำตา ตอนนั้นไม่รู้ว่าโควิดจะอยู่นานมากเท่าไหร่หรือความรุนแรงมากแค่ไหน“ นางสาวแพทองธาร กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แน่นอนว่าความไม่ยุติธรรมเหล่านี้เกิดขึ้นทำให้ครอบครัวเราที่สนิทกันอยู่แล้ว รักกันมากยิ่งขึ้น เพราะเราผ่านช่วงเวลาที่ลำบากมาด้วยกัน ก็เข้าใจซึ่งกันและกัน เป็นสิ่งที่ทำให้ตนได้เติบโตขึ้นมาอย่างมีสติ และทราบว่าอะไรเป็นสิ่งที่ควรหรือไม่ควร และเป็นสิ่งที่ต้องเห็นใจซึ่งกันและกันอ ในเรื่องที่ลำบากก็มีข้อดีซ่อนอยู่เสมอ ตนเชื่ออย่างนั้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมามีสมาชิกกล่าวหาว่า คุณพ่อได้กลับมาเพราะว่ามีการดีลผ่านปิศาจ ผ่านการจัดตั้งรัฐบาลชุดนี้ ซึ่ง 100% ไม่ใช่ความจริงเลย และนี่คือการตัดสินใจของท่านอย่างเต็มรูปแบบว่าจะกลับมา ซึ่งตนก็ไม่อยากให้ท่านกลับมาและติดคุกหรือถูกจำกัดที่ทาง ซึ่งนายทักษิณก็บอกว่า อยากใช้เวลาที่เหลือที่เมืองไทย และปีนี้อายุ 75 แล้วอยากใช้เวลาที่เหลือกับครอบครัวที่เมืองไทย เพราะเติบโตที่เมืองไทยมาโดยตลอดและรักและห่วงประชาชนมาก คิดอะไรก็คิดจะคิดเรื่องเศรษฐกิจ ทำให้ประชาชนรวย ทำให้ตนมีแรงบันดาลใจในการทำงาน ว่าแม้เจอเรื่องขนาดนี้ก็ยังคิดดีๆกับคนอื่นได้ เป็นสิ่งที่ต้องใช้พลังบวกเยอะๆในใจ

“แน่นอนว่าถ้าวันนั้น พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลจับมือกันสำเร็จและตั้งรัฐบาลได้ ท่านเองเป็นผู้นำรัฐบาลและเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอย่างไรนายทักษิณ ก็กลับมาอยู่ดี ไม่ว่ารัฐบาลจะจัดตั้งโดยใคร นี่คือเรื่องจริง ที่คุณพ่อตั้งใจแล้วว่าจะกลับมาให้ได้ ส่วนเรื่องกระบวนการขอพระราชทานอภัยโทษ เป็นสิทธิของผู้ต้องคดีความ ซึ่งมีขั้นตอนกระบวนการต่างๆ ที่ตนขอไม่ก้าวล่วงและเป็นสิทธิของผู้มีคดีความทุกคน ส่วนจะพูดว่าป่วยจริงหรือป่วยหลอก เมื่อแพทย์วินิจฉัยแล้วว่าต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล ก็คือสิ่งที่ชัดเจน จะให้ตนบอกว่าพ่ออายุ 70 กว่า ป่วย ท่านจะเชื่อหรือไม่ ก็คงไม่เชื่อ ป่วยเป็นโควิดหนักมากน้ำหนักลดลงทำให้เกิดอาการผมร่วง ท่านก็คงเชื่อ และถ้าบอกว่าคนอายุ 70 กว่าต้องผ่าตัดและการผ่าตัดไม่ง่าย เหมือนคนอายุ 20 30 40 ท่านคงไม่เชื่อ จึ่งไม่รู้ว่าต้องอธิบายแบบไหน ขณะนี้ มีการยื่นตรวจสอบกับทางแพทยสภา ซึ่งผลจะออกมาอีกไม่นานนี้ หวังว่าทุกท่านจะยอมรับ“ นางสาวแพทองธาร กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อมีกระบวนการตรวจสอบนายทักษิณในกระบวนการต่างๆในฐานะลูกสาวที่รักคุณพ่อก็ห่วงใยแน่นอน และในฐานะนายกฯ ไม่เคยใช้อำนาจไปแทรกแซง อย่าดูถูกข้าราชการไทยในสมัยนี้แล้วทุกอย่างตรวจสอบได้ไม่เคยแทรกแซงกระบวนการเหล่านี้เลย และตลอดกาลการอภิปรายสมาชิกเรียกร้องให้ตนลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นสิทธิ์ของทุกคนในสภาอันทรงเกียรติแห่งนี้ที่ทำได้

“แต่สิ่งหนึ่งที่ท่านทำไม่ได้ คือขอให้ดิฉันลาออกจากความเป็นลูกสาวหรือความเป็นแม่ สิ่งนี้ลาออกไม่ได้ และพร้อมที่จะทำงานให้กับคนทุกกลุ่ม ทุกคน ทุกจังหวัด ทุกที่ เพราะว่าสวมหมวกของนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยและทำหน้าที่นี้อย่างเต็มที่และสุดความสามารถ แน่นอนว่าในฐานะลูกสาว ก็คือลูกสาวของนายทักษิณ ชินวัตร ดิฉันพูดคำนี้ด้วย ความภาคภูมิใจตั้งแต่สามารถพูดได้ ขอให้ทุกคนดูและพิสูจน์ความสามารถและความตั้งใจในการทำงานอย่างเต็มที่ ในฐานะนายกรัฐมนตรี หากจะมีการวิพากษ์วิจารณ์ใดๆ ก็ขอวิจารณ์ในเรื่องการทำงาน ก็น่าจะเป็นประโยชน์กว่า ทั้งต่อสภาแห่งนี้และต่อประเทศของเรา” นางสาวแพทองธาร กล่าว

นายรังสิมันต์ โรม สส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ขอใช้สิทธิ์พาดพิง ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า ตอนอายุ 14 ปีเมื่อตอนที่พ่อของนายกรัฐมนตรี ถูกรัฐประหาร และเมื่อมาเรียนที่กรุงเทพฯ ก็ไม่เคยเข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตรเลย และไม่เห็นด้วยกับอุดมการณ์ของกลุ่มพันธมิตร ยืนยันว่า หลังจากมีการรัฐประหารครั้งที่สองของ รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตนคือคนแรกแรกที่ออกมาต่อต้าน เรามาต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ดังนั้นการกล่าวหาว่าตนเคยเข้าร่วมกลุ่มพันธมิตร ยืนยันว่าไม่เคยเข้าร่วมและไม่เคยยึดสนามบิน อีกเรื่องยืนยันว่า ถ้าพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล อดีตนายกรัฐมนตรีจะไม่ได้รับสิทธิพิเศษใดๆ อย่างแน่นอน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอบคุณในการชี้แจง และพร้อมรับข้อมูลใหม่ๆ อยู่เสมอ และท่านจะได้เข้าใจว่าการถูกเข้าใจผิดนั้นเป็นอย่างไร.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

นายกฯ เป็นประธานถวายเครื่องราชสักการะ-จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี และคู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 เวลา 19. 49 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินทางถึงพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล […]

ตรวจความพร้อมรบ

แม่ทัพภาค 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2

กาญจนบุรี 3 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ตามแผนเผชิญเหตุ ทบ. พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2 ชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 เดินทางไปตรวจความพร้อมหน่วย ตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก ทั้งหน่วย กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 1 และกองพันพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 ให้ต้อนรับ พล.ร.9 ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้จัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพบก ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก เข้าในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และให้การสนับสนุนเสริมกำลังรบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบกองทัพภาคที่ 1 โดยหน่วยเตรียมกำลังได้ตรวจสภาพความพร้อมรบตามขั้นตอน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองทัพบก ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้โอวาสกำลังพล ในการเตรียมความพร้อมในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก โดยขอให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน […]

หลวงปู่ศิลา

“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สนับสนุนภารกิจกองกำลังชายแดน

นครราชสีมา 3 มิ.ย.-“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในการดูแลประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ และคณะศิษย์และมูลนิธิธรรมะอุทยาน พร้อมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ มอบเงินบริจาค จำนวน 2,017,860 บาท และข้าวสารจำนวน 1,500 กิโลกรัม ให้กับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังทหารชายแดน โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ ที่กองบัญชาการ ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา สำหรับเงินทั้งหมดนี้ จะได้นำไปจัดสร้างที่พักในฐานที่มั่นของกองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ยังขาดอยู่ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงการจัดหาเครื่องมือต่างๆที่สามารถใช้ได้ภายในฐานปฏิบัติการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทหาร ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แถวชายแดน. -313 สำนักข่าวไทย

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย