“ศุภชัย” เชื่อไทยได้ประโยชน์ รถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน

กทม. 18 พ.ย.-“ศุภชัย” โพสต์ แสดงปาฐกถาในประเทศจีน ชื่นชมนโยบาย “Green and Belt” พัฒนาเศรษฐกิจเติบโตไปพร้อมๆ กับการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เชื่อไทยได้ประโยชน์ โครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน

นายศุภชัย ใจสมุทร ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุเรื่อง การไปร่วมประชุมหัวข้อ “การสัมมนาพรรคการเมือง และอารยธรรมนิเวศน์ โครงการความริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Political Parties and ecological civilization seminar,Belt and Road Initiative) ระหว่างวันที่ 8-14 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ที่ได้รับมอบหมายจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้เข้าร่วมการประชุมสัมมนาในหัวข้อ “พรรคคอมมิวนิสต์จีนกับการเสวนากับพรรคการเมืองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในเอเชียใต้ การแบ่งปันและผลลัพธ์ของการประชุม Belt and Road สำหรับความร่วมมือระหว่างประเทศ” (CPC in dialogue with political parties of South East Asia and South Asia countries,Sharing the outcomes of the belt and road forum for international cooperations) ตามคำเชิญของพรรคคอมมิวนิสต์จีน


นายศุภชัย กล่าวปาฐกถา ว่า ขอแสดงความชื่นชมนโยบาย “Green and Belt” ของจีน โดยเห็นว่าในปัจจุบันทั่วโลก หันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโตไปพร้อมๆ กับการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Development) เพื่อสร้างการพัฒนา ที่นำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งไม่ใช่เพียงนโยบายภายในประเทศเท่านั้น แต่จีนยังใช้รูปแบบการพัฒนาตามแนวทางการพัฒนาสีเขียวในโครงการ Belt and Road Initiative (BRI) แห่งศตวรรษที่ 21 ทำให้เป็นกระแสที่โลกให้ความสนใจ

ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2560 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ประกาศความตั้งใจในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โครงการที่เกิดขึ้นควรไม่มีค่าใช้จ่ายและคำนึงถึงผลลัพธ์ด้วย ผลกระทบที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก รวมถึงการพยายามลดความเสี่ยงของผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมแนวคิดในการดำเนินโครงการภายใต้ BRI ต่อมาในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2560 จีนได้ลงนามข้อตกลงกับสหประชาชาติ (UN) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นระหว่างประเทศในการผลักดันแถบ และถนนสีเขียว โดยสหประชาชาติทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน – SDGs) ร่วมกับกระทรวงของจีนที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริมการพัฒนาโครงการภายใต้ BRI ดำเนินการตามวงจรการพัฒนาที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) – เป้าหมายที่สหประชาชาติมุ่งหวังให้บรรลุภายในปี 2573 ซึ่งเป็นระดับสากล เป้าหมายที่ประชาคมระหว่างประเทศยอมรับร่วมกัน ได้แก่ International Coalition for Green Development on the Belt and Road ซึ่งจะรวบรวมตัวแทนจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ NGOs นักลงทุน สถาบันการเงิน และองค์กรภาคเอกชนในกลุ่มประเทศ BRI เพื่อทำงานร่วมกันในการผลักดัน และตรวจสอบโครงการต่างๆ ภายใต้ BRI โดยใช้ประโยชน์จากการเชื่อมโยงและสำนักงานสหประชาชาติทั่วโลกเพื่อประสานงานและทำงานร่วมกับภาครัฐและเอกชนในประเทศ BRL เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการลงทุนภายใต้ BRI สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของ UN


Green and Belt จะนำผลประโยชน์ในหลายมิติมาสู่จีนและประเทศอื่น ๆ พร้อมผลักดันโครงการดังกล่าว ถือเป็นการยกระดับยุทธศาสตร์ BRI ให้เปิดกว้างสู่สากลมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจของโครงการในสายตานักลงทุนและเร่งการลงทุนภายใต้ BRI

สำหรับประเทศไทยในฐานะหนึ่งในประเทศ BRI ที่มีโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ถือเป็นโครงการเชื่อมต่อโครงข่าย ผมมองว่าประเทศไทยควรเตรียมใช้ประโยชน์จากการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมผ่านโครงการรถไฟความเร็วสูงดังกล่าวอย่างเต็มที่ เพื่อเชื่อมต่อระบบขนส่งทางรางจากประเทศไทยไปยังประเทศจีนในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งจะเป็นช่องทางในการเจาะตลาดจีน รวมถึงสามารถเชื่อมต่อกับตะวันออกกลาง และยุโรปได้ นอกจากนี้ในระยะต่อไปเส้นทางรถไฟความเร็วสูงนี้จะเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟความเร็วสูง และเครือข่ายโลจิสติกส์ภายใต้โครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งมีเครือข่ายเชื่อมโยงทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพช่วยให้ตอกย้ำนโยบายของรัฐบาลในการผลักดันให้ประเทศไทยมีโอกาสเป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน และการขนส่งที่สำคัญ เชื่อมโยงประเทศ CLMV(ประเทศ กัมพูชา ลาว สหภาพเมียนมาร์ และเวียดนาม ) อาเซียน และจีนเข้าด้วยกัน

นายศุภชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า กิจกรรมดังกล่าว มีผู้แทนพรรคการเมืองและกลุ่มนักคิดจากประเทศตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ 18 ประเทศ รวมตัวกันที่เมืองคุนหมิง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนเพื่อหารือถึงแนวทางในการกระชับความร่วมมือกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน ภายใต้โครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง(One Belt One Road) ซึ่งประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้ประกาศขั้นตอนสำคัญ 8 ประการเพื่อสนับสนุนความร่วมมือ อย่างเข้มข้น การประชุมดังกล่าวได้พิจารณาถึงอนาคตของ BRI และวิธีที่ประเทศหุ้นส่วนสามารถแบ่งปันในผลลัพธ์จากนโยบายดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เสียงสะท้อนจากวีรบุรุษแนวหน้าถึงแนวหลัง

11 ส.ค. – แม้สถานการณ์สู้รบไทย-กัมพูชาเหมือนจะดีขึ้น แต่ยังวางใจไม่ได้ เช่นข่าวทหารไทยเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บอีก 3 นาย วันนี้จะพาไปดูความพร้อมของหน่วยแพทย์ในการดูแลทหารของชาติในฐานะวีรบุรุษ พร้อมข้อคิดจากจ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญชูกล้า หรือจ่าเต้ 1 ในวีรบุรุษ ฝากถึงแนวหลัง.-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” เล็งปิด​ ศบ.ทก. หลังถก​ สมช.​ เคาะสถานการณ์สงบจริง

เมืองทองธานี 11 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ลั่น​ ก็จบ!! ​ หลัง “กองทัพ” ยืนยันแล้ว “แม่ทัพภาค 2” ไม่ได้พูดยึดปราสาทตาควาย ย้ำยังไม่มีอะไรผิดสัญญา เล็งปิด​ ศบ.ทก. หลังประชุม​ สมช.​ 13-14 ส.ค.นี้​ เคาะสถานการณ์สงบจริง​ นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​ กล่าวถึงกรณีพลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2​ ออกมา ประกาศยึดคืนปราสาทตาควาย จะถือเป็นการละเมิดข้อตกลงไทย-กัมพูชาหรือไม่ ว่า​ ยังไม่ได้ยินแม่ทัพภาคที่ 2 พูด​ แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อตกลง​ เมื่อถามว่าแม้กองทัพ จะออกมาปฏิเสธแล้ว​ แต่ทางกัมพูชา​อาจมองเป็นการกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้ง และละเมิดข้อตกลง 13 ข้อ นายภูมิ​ธรรม​ กล่าวว่า​ ยังไม่มีอะไรผิดสัญญา กองทัพซึ่งเป็นตัวหลักได้ยืนยันแล้ว​ ก็จบตามนั้น​ เมื่อถามว่า​ สถานการณ์ชายแดน 2-3 วันที่ผ่านมา​ ถือว่าสงบนิ่งหรือไม่​ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าเหตุการณ์ความไม่สงบจะกลับมา​อีก […]

ทบ.ยัน ‘มทภ.2’ ไม่ได้กล่าวรุกล้ำอธิปไตยปมปราสาทตาควาย

11 ส.ค.- โฆษกกองทัพบกโต้กัมพูชา ยันแม่ทัพภาค 2 ไม่ได้กล่าวรุกล้ำอธิปไตยปมปราสาทตาควาย ย้ำไทยไม่มีความพยายาม “ยั่วยุ-วางแผน” ใช้กำลังทางทหารตามที่เขมรกล่าวอ้าง พลตรี​ วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงกรณีกระทรวงกลาโหมกัมพูชาแถลงการณ์ถึงคำสัมภาษณ์ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เรื่องของปราสาทตาควาย ว่า “ยืนยันว่าเนื้อหาที่แม่ทัพภาคที่ 2 พูด ไม่ได้มีความหมายในแบบที่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้แถลงไป โดยเฉพาะท่านไม่พูดเรื่องการเคลื่อนย้ายกำลัง เพื่อรุกล้ำอธิปไตยกัมพูชา สิ่งที่ท่านได้กล่าวในวันนั้นคือ ปราสาทตาควายอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทย ในช่วงที่มีการปะทะที่ผ่านมาพยายามเข้าไปยึดด้วยการวางกำลัง แต่ยังไม่สำเร็จ จึงได้ทำการวางกำลังบริเวณด้านนอก ห่างจากตัวปราสาท 30 เมตร แต่ในอนาคตจะต้องพยายามนำกลับมาภายใต้การควบคุมของไทยให้ได้ ตามขั้นตอนที่เหมาะสม พร้อมกล่าวว่าเตรียมนำเรื่องต่างๆ ไปพูดคุยเจรจาในวงเจรจาในกรอบการประชุม RBC ที่จะเกิดขึ้นใน 2 สัปดาห์ และย้ำถึงจุดยืนว่าไทยจะไม่ถอยจากแนวการวางกำลังเดิม ขอยืนยันว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ได้พูดถึงเรื่องการใช้กำลังทางทหาร ไปดำเนินการอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นที่กล่าวไปในข้างต้น จึงไม่ใช่ความพยายามที่มีการยั่วยุและมีการวางแผนใช้กำลังทางทหารต่อกรณีปราสาทตาควายอย่างที่กัมพูชากล่าวอ้างแต่อย่างใด” -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเล็ก​” ยันรับฟังข้อเรียกร้องต่ออายุราชการ “มทภ.2” ยึดรอบคอบ

11 ส.ค.- “พล.อ.ณัฐพล​” ยันรับฟังข้อเรียกร้องต่ออายุราชการ “แม่ทัพภาค 2” แต่ต้องพิจารณารอบคอบ เพื่อไม่ให้กระทบขวัญกำลังใจผู้ปฏิบัติงานระดับรอง ที่จะมีโอกาสเติบโตก้าวหน้า พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวเรียกร้องให้มีการต่ออายุราชการทหาร ของ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2  โดยยืนยันว่า รับฟังกระแสเรียกร้องดังกล่าว ที่มีมาจากคนไทยที่รักประเทศ และห่วงใยในสถานการณ์ หลังการสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชาเพิ่งผ่านไป ซึ่งในฐานะผู้บังคับบัญชา ยืนยันว่ารับฟังข้อเรียกร้องดังกล่าว อย่างไรก็ตามเรี่องนี้ ยืนยันว่าจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ สิ่งสำคัญ ต้องพิจารณาภาพรวมขวัญและกำลังใจของผู้ปฏิบัติงานระดับรอง ที่จะมีโอกาสก้าวหน้าเติบโตต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาสถานการร์การสู้รบ ทั้งแม่ทัพภาค 2 เอง และผู้บังคับบัญชาระดับรอง ต่างก็ทำภารกิจอย่างเต็มกำลัง และมีความสามารถทั้งหมด นักวิชาการไม่เห็นด้วยปมต่ออายุราชการ “แม่ทัพภาค 2” ผศ. ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต  ได้โพสท์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงประเด็นดังกล่าวว่า เรื่องการขอเสนอการต่ออายุราชการ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ออกไปนั้น ตนไม่เห็นด้วย ขอให้วางใจวางสติให้ดี ว่าเราต้องไม่ตกหลุมกับดักของคนภายในและภายนอก […]