กทม. 25 ต.ค.-“เศรษฐา” ปลุกนักลงทุนต่างชาติ ย้ำประเทศไทยเปิดแล้ว บอกไม่มีใครแสดงความคิดเห็นในเชิงลบ อยากตั้งโรงงานในไทย ชี้ต้องติดตามสงครามอิสราเอล -ฮามาส ยืดเยื้อหรือไม่ คาดการณ์ทิศทางเศรษฐกิจลำบาก ยันทำเต็มที่ทุกระยะ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าร่วมประชุมโต๊ะกลม และกล่าวปาฐกถาในงานประชุมสามัญประจำปีของคณะนักธุรกิจจากหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย (AMCHAM’s Annual General Meeting) ถึงความมั่นใจในการลงทุนโครงการแลนด์บริดจ์ในประเทศไทย ว่า วันนี้(25 ต.ค.) มาพูดในเวที AMCHAM’s ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี ที่นายกฯมาพูดในงานนี้เนื่องจากก่อนหน้านี้ติดสถานการณ์โควิด ขอย้ำว่าเวลานี้ประเทศไทยเปิดแล้วถือเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะเข้ามาลงทุน ตนมาในวันนี้เพื่อมาให้ความมั่นใจและสบายใจ มีอะไรบ้างที่เราจะดูแลเรื่องสิทธิพิเศษ เพื่อให้เขาไม่ต้องห่วงว่าถ้ามาลงทุนที่นี่เราจะดูแลทุกอย่างทั้งระบบการศึกษาและ สาธารณูปโภค
ส่วนในเรื่องการลงทุนรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ตนได้พูดในเวทีด้วยว่า เรามีมาตรการสนับสนุนในการประกอบรถยนต์ อีวี อย่างต่อเนื่อง แต่เราต้องดูแลพาร์ทเนอร์เก่าอย่างรถสัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งเป็นนักลงทุนรายใหญ่รถสันดาปในรอบหลาย 10 ปีที่ผ่านมา
เมื่อถามว่า จากการที่เข้ามาเป็นนายกฯและรู้ข้อมูลเรื่องเศรษฐกิจดีคิดว่าเศรษฐกิจประเทศไทยจะขยับตัว ในห้วง 2-3 เดือนนี้ไปในทิศทางอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนว่าในช่วง 2-3 เดือนนี้อาจจะพูดลำบากเพราะยังอยู่ในช่วงสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาส แต่ก็ต้องดูอย่างใกล้ชิด ซึ่งเราทำอย่างเต็มที่ทั้งระยะสั้นกลางและยาว และเราจะต้องดูว่าสงครามที่เกิดขึ้นจะมีการขยายตัวหรือไม่ ถ้าไม่มีการขยายตัวช่วงนี้ประเทศไทยเข้าสู่ไฮซีซั่น ก็จะสามารถช่วยเศรษฐกิจได้ดี
เมื่อถามว่า จากการพูดคุยกับนักธุรกิจมีข้อห่วงใยอะไรบ้างหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ทุกคนไม่มีใครแสดงความคิดเห็นในเชิงลบ และมีบางบริษัทที่อยากจะเข้ามาตั้งโรงงานในไทย เขามาขอสิทธิพิเศษด้านภาษี ซึ่งก็มีการพูดคุยกันว่าในเดือนหน้าที่ตนจะไปประชุมเอเปคที่สหรัฐอเมริกา จะไปพบปะพูดคุยเรื่องนี้ต่อ.-สำนักข่าวไทย