2 ปีศูนย์ป้องปรามทุจริตรับเรื่องร้องกว่าพันเรื่อง

สำนักงานป.ป.ช. 20 ต.ค.- ป.ป.ช.เปิดผลป้องปรามการทุจริตของศูนย์ป้องปรามการทุจริตแห่งชาติ  2 ปี รับแจ้งเบาะแสการทุจริตกว่า 1,300 เรื่อง   มูลค่างบประมาณกว่าแสนล้านบาท


นายนิวัติไชย เกษมมงคล  เลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า สำนักงานป.ป.ช.จัดตั้งศูนย์ป้องปรามการทุจริตแห่งชาติ สำนักงาน ป.ป.ช. (Corruption Deterrence Center : CDC) ขึ้น มีวัตถุประสงค์เพื่อเฝ้าระวังและประเมินสภาวการณ์ทุจริต เพื่อให้สามารถป้องปรามและลดปัญหาการทุจริตได้อย่างมีประสิทธิภาพตามหน้าที่และอำนาจของหน่วยงาน เพื่อให้เกิดระบบการวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยงการทุจริตและการบูรณาการข้อมูลจากทุกภาคส่วน เพื่อช่วยระงับยับยั้งการทุจริตและแก้ไขปัญหาการทุจริตอย่างเป็นระบบ สร้างความเชื่อมั่นต่อระบบเฝ้าระวังการทุจริตที่มีประสิทธิภาพ อันจะนำไปสู่การสร้างความร่วมมือและผนึกกำลังต้านทุจริตในวงกว้าง ตามกลไกของกฎหมายที่บัญญัติไว้ในมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 

“ผลการดำเนินงานของศูนย์ป้องปรามการทุจริตแห่งชาติ สำนักงาน ป.ป.ช. ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม 2565   ถึงวันที่ 30 กันยายน 2566  สามารถขับเคลื่อนงานด้านการป้องปรามการทุจริต   โดยมีรายละเอียดดังนี้  ตั้งแต่เปิดมีจำนวนเรื่อง  ประเด็น  หรือข้อมูลเบาะแสเกี่ยวกับการทุจริตเข้ามายังศูนย์ฯ  จำนวนทั้งสิ้น 1,360 เรื่อง    โดยจำแนกตามปีงบประมาณ  ระหว่างเดือน มกราคม – กันยายน 2565   จำนวน 541 เรื่อง   และระหว่างเดือน ตุลาคม 2565 – กันยายน 2566 จำนวน 819 เรื่อง ซึ่งผลการดำเนินการจากข้อมูลเบาะแสเกี่ยวกับการทุจริต 1,360 เรื่อง แจ้งให้สำนักส่วนกลาง สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค หรือสำนักงานป.ป.ช. ประจำจังหวัด รับทราบเพื่อดำเนินการ 220 เรื่อง และได้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น ลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือการเฝ้าระวัง และรายงานกลับแล้ว 1,140 เรื่อง โดยตรวจสอบเฝ้าระวังและแจ้งหน่วยงานที่มีหน้าที่และอำนาจเข้าดำเนินการแล้ว 844 เรื่อง ปรับปรุงแก้ไขแล้ว 245 เรื่อง ปรากฏข้อมูลหลักฐานว่ามีพฤติการณ์เข้าข่ายกระทำการทุจริต 51 เรื่อง” โฆษกป.ป.ช. กล่าว


นายนิวัติไชย กล่าวว่า สำหรับข้อมูลเบาะแสเกี่ยวกับการทุจริตที่เข้ามายังศูนย์ฯ แบ่งเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่  1.การจัดซื้อจัดจ้าง  ระบบสาธารณูปโภค เป็นกรณีขอให้ตรวจสอบกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง   หรือ โครงการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค จำนวน 985 เรื่อง 2.การทุจริตต่อหน้าที่ แสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบ 212 เรื่อง 3.ทรัพยากรธรรมชาติกรณีขอให้มีการตรวจสอบเจ้าพนักงานของรัฐดำเนินการเกี่ยวกับทรัพยากรสาธารณะไปแสวงหาประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย  118 เรื่อง 4.เรียกรับทรัพย์สิน เป็นกรณีที่เจ้าพนักงานของรัฐ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด 42 เรื่อง และ 5.ร่ำรวยผิดปกติเนื่องมาจากการปฏิบัติตามหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ 3 เรื่อง เมื่อรวมงบประมาณโดยคำนวณเฉพาะงบประมาณโครงการที่ศูนย์ฯ ได้เข้าไปตรวจสอบเพื่อป้องปรามระงับยับยั้งความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น รวมมูลค่างบประมาณกว่า 131,462,000,000 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส กับมีลมแรงในภาคอีสาน ส่วนบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสานตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

เรือใบอิตาลีที่สวยงามที่สุดในโลกเดินทางถึงภูเก็ตแล้ว

ภูเก็ตคึกคัก เรือใบอิตาลีที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดลำหนึ่งของโลก ออกเดินทางมาแล้วรอบโลก ได้เข้าจอดเทียบท่าจังหวัดภูเก็ต โดยมีทัพเรือภาคที่ 3 ให้การต้อนรับทหารเรืออิตาลีกว่า 150 นาย อย่างอบอุ่นพร้อมเปิดให้ประชาชนขึ้นชมเรือฟรีได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.)

พระเปย์สีกา ช่องโหว่ผลประโยชน์ในดงขมิ้น

รองเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในมหาสารคาม ขอลาสิกขากลางดึก หลังถูกแฉ เป็นพระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ขณะที่รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งตรวจสอบว่า เป็นเงินส่วนตัว หรือ เงินวัด เพราะจะมีความผิดแตกต่างกัน