แรงงานไทยในอิสราเอลดับเพิ่มเป็น 18 ราย

ก.รต่างประเทศ 10 ต.ค.-กต.เผยยอดแรงงานไทยเสียชีวิตเพิ่มเป็น 18 คน เร่งส่งลอตแรก 15 คนถึงไทย 12 ต.ค. อีก 80 คน 18 ต.ค. ยันช่วยทั้งที่ไปถูกกฎหมาและผิดกฎหมาย


นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงความคืบหน้าการช่วยเหลือคนไทยที่ประสบภัยจากความไม่สงบ ในหลายพื้นที่ของรัฐอิสราเอลว่า ตัวเลขที่ได้รับรายงานล่าสุดจากเทลอาวีฟ มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 6 คนรวมเป็น 18 คน ซึ่งเป็นการได้รับแจ้งจากนายจ้าง ผู้ได้รับบาดเจ็บ 9 ราย  ส่วนผู้ที่ถูกควบคุมตัวยังมี 11 รายเหมือนเดิม ขณะนี้ได้อพยพแรงงานออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยระยะ 4 กิโลเมตร โดยกองทัพอิสราเอลร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามใช้เทคโนโลยีติดตามผู้สูญหาย โดยร่วมมือกับทางการอิสราเอลและภาคเอกชน ซึ่งสถานทูตอยู่ระหว่างการร่วมมือกับตำรวจส่งรายชื่อเพื่อให้ญาติสามารถติดต่อได้

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เอกอัครราชทูตมาเลเซียได้คุยกับฝ่ายปาเลสไตน์และทูตที่อื่นก็ชาวกยันประสาน พยายามหาหนทางเจรจาเพื่อให้ยุติความรุนแรง ซึ่งนายปานปรีย์ พหิทรานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้หารือทางโทรศัพท์กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของอิสราเอลเมื่อค่ำวานนี้(9 ต.ค.) ซึ่งทางการอิสราเอลได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ครั้งนี้ และให้คำมั่นจะพยายามดูแลคนไทยและชาติอื่นเช่นเดียวกับดูแลคนในชาติของตนให้ดีที่สุดและมั่นใจว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้


“นายปรานปรีย์แจ้งย้ำว่ารัฐบาลไทยให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัยของคนไทย และจะขอให้ทำทุกวิถีทางช่วยปกป้องพี่น้องคนไทยและช่วยเหลือคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันออกมาให้เร็วที่สุด พร้อมขอให้ทางการอิสราเอลตรวจสอบและยืนยันข้อมูลผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บอย่างเป็นทางการในโอกาสแรกด้วย ส่วนผู้ถูกจับตัวประกันนั้น จากที่หารือฝ่ายต่าง ๆ เท่าที่ทราบ หวังว่าไม่น่าจะทำร้ายคนต่างชาติ เพราะไม่ได้เป็นผู้เกี่ยวข้องและคงไม่ขยายความขัดแย้ง แต่ในชั้นนี้ต้องรอดูเหตุการณ์ต่อไป” นางกาญจนา กล่าว

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า สถานทูตเทลอาวีฟจะส่งแรงงานไทยเดินทางกลับในวันที่ 11 ตุลาคม ซึ่งเป็นรายงานไทยที่บาดเจ็บและแรงงานที่เคลื่อนย้ายจากที่ปลอดภัยรวมเป็น 15 คน โดยจะเดินทางถึงกรุงเทพฯ เวลา 10.35 น. วันที่ 12 ต.ค.นี้ ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศจะไปรับและให้กำลังใจ ส่วนเที่ยวบินที่สองในวันที่ 18 ต.ค. จำนวน 80 คน ขณะนี้แรงงานที่ลงทะเบียนขอเดินทางกลับจำนวน 3,226 คน 

ด้านน.ส.พรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ร่วมแถลงผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอร์เรนซ์ แสดงความเสียใจกับผู้ประสบภัยในครั้งนี้และส่งกำลังใจให้กับญาติของแรงงานไทยในพื้นที่ ยืนยันสถานทูตไม่ได้นิ่งนอนใจและพยายามทำทุกวิถีทางระดมสรรพกำลังติดตามและติดต่อกับพี่น้องแรงงงงานไทยในพื้นที่ แต่ขณะนี้ประเทศอยู่ในภาวะสงคราม ซึ่งมีการแบ่งโซนเป็นสีแดง สีส้มและสีเหลือง การช่วยเหลือจะต้องเข้าไปทีละโซน จึงตระหนักดีถึงความเดือดร้อนและได้ประสานกับทางการอิสราเอลว่ามีคนไทยอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ ขอให้ทางการอิสราเอลช่วยติดตาม ซึ่งต้องใช้เวลาจะจัดลำดับไปตามโซน ทุกเรื่องต้องใช้เวลาและขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจในข้อจำกัดนี้ด้วย


“กลุ่มแรกที่จะกลับไทย 15 คนในวันที่ 12 ต.ค. ยืนยันว่าออกจากกรุงเทลอาวีฟในวันที่ 11 ต.ค.แน่นอน ซึ่งสถานทูตจะจัดรถไปรับหรือจะให้นายจ้างมาส่งหรือติดต่อให้รถเหมามาเพื่อมาขึ้นเครื่อง และจะไปตั้งเคาน์เตอร์ที่สนามบิน ออกเอกสารการเดินทางให้แรงงานก่อนขึ้นเครื่อง ยืนยันว่าเราจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้พี่น้องแรงงาน 15 คนนี้ขึ้นเครื่องไป ยกเว้นเหตุสุดวิสัยคือสนามบินปิด มั่นใจว่า 15 คนแรกจะได้กลับแน่นอน ส่วนที่จะเดินทางกลับ 80 คนก็ยังยืนยัน ขณะนี้ได้ขอให้เจ้าหน้าที่โทรกลับพี่น้องทุกคนที่ลงทะเบียนเพื่อยืนยันข้อมูลสำหรับใช้ในการจองตั๋วเครื่องบินหรือประสานเรื่องการเดินทางมาขึ้นเครื่อง จะพยายามอย่างดีที่สุด” เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงเทลอาวีฟ กล่าว

น.ส.พรรณนภา กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนในการประสานเดินทางกลับ อันดับแรกเปิดให้ลงทะเบียน แต่ถ้าไม่สามารถลงได้ก็มีโทรศัพท์ Hot Line ที่ให้ติดต่อเข้ามา ได้ตลอดเวลาและกำลังจะให้เพิ่มคู่สาย ขณะเดียวกันมีทีมที่โทรกลับสำหรับคนที่ส่งข้อความไว้ แรงงานที่อพยพจะจัดลำดับความสำคัญ เพราะมีพี่น้องแรงงานหลายคนที่เกิดความหวาดกลัวอยากจะกลับด้วย แต่จะขออนุญาตส่งผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดกลับก่อน

“สำหรับผู้ที่ไม่มีเอกสารเดินทางติดตัวสถานทูตได้เตรียมพร้อมเอกสารการเดินทางให้กับแรงงาน ก่อนออกเดินทางทุกครั้งจะไปที่สนามบินก่อน 4-5 ชั่วโมง เพื่อทำเอกสารการเดินทาง และเตรียมอาหาร น้ำไปให้กับพี่น้องแรงงานด้วย ขอยืนยันว่าจะดูแลให้ดีที่สุดและจะทำทุกอย่างให้ราบรื่นที่สุด” เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงเทลอาวีฟ กล่าว

ส่วนความปลอดภัยของแรงงานที่ถูกจับเป็นตัวประกัน น.ส.พรรณนภา กล่าวว่า ทุกฝ่ายไม่ได้นิ่งนอนใจ ทั้งรัฐบาลและหลายหน่วยงานกำลังประสานผ่านช่องทางต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด ในพื้นที่ที่เกิดเหตุเป็นประเด็นเรื่องความมั่นคง เราก็พยายามติดตามและตนได้ติดต่อผ่านกระทรวงการต่างประเทศและกองทัพอิสราเอล รวมทั้งช่องทางต่าง ๆ ด้วยว่า หวังว่าแรงงานไทยและชาติอื่น ๆ จะได้รับความช่วยเหลือออกมา อย่างปลอดภัยโดยเร็ว

“ส่วนพิกัดของตัวประกัน ยังไม่มีข้อมูลจริง ๆ และได้พยายามสอบถามกับทางการต่อเนื่องว่าพอจะทราบหรือไม่ แต่อิสราเอลก็ขอโทษจริง ๆ ยังไม่ทราบหรืออาจยังไม่บอก เพราะเป็นเรื่องของการปฏิบัติงาน ได้พยายามทางการทูตประสานให้ได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย ส่วนข่าวว่าแรงงานไทยถูกจับตัวไปหลาย100 คนนั้น เป็นจำนวนของคนทุกชาติ รวมทั้งอิสราเอล ในสถานการณ์พิเศษแบบนี้ ยืนยันว่าสถานทูตจะดูแลพี่น้องแรงงานทุกคนทั้งที่ไปถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย หากลงทะเบียนขอกลับ เราช่วยเหลืออย่างเท่าเทียม แต่ขอจัดลำดับส่งผู้ที่ได้รับผลกระทบสูงสุดก่อนและจะทยอยส่งกลับ พยายามหาเครื่องบินพาณิชย์อื่น ๆ เพิ่มเติมอาจจะได้ 2-3 คน แต่เราก็จองหมดให้ได้เร็วที่สุดและมากที่สุด” เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงเทลอาวีฟ กล่าว

ส่วนที่มีข่าวการขายแรงงานที่ได้รับการช่วยเหลือออกจากที่เสี่ยงภัยสูงสุดไปส่งให้นายจ้างใหม่เพื่อได้ทำงานต่อ น.ส.พรรณนภา กล่าวว่า ได้ติดต่อกับทางการอิสราเอลเรื่องนี้แล้ว โดยนำแรงงานจากพื้นที่ที่เสี่ยงภัยและนำไปฝากไว้ในพื้นที่ที่ปลอดภัยและ นายจ้างเหล่านั้นก็ให้ไปทำงาน เป็นการให้แรงงานได้ย้ายงานทำ เพื่อให้มีรายได้ในการดำรงชีพ แต่ในส่วนของสถานทูตได้ประสานไปแล้ว

เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงเทลอาวีฟ กล่าวถึง การนำร่างผู้เสียชีวิตออกมา ว่า ทางการอิสราเอลขอให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือผู้มีชีวิตอยู่และติดอยู่ในพื้นที่อันตรายเสี่ยงภัยก่อน กำลังคนของอิสราเอลที่ปฏิบัติหน้าที่ต่าง ๆ มีจำกัด เพราะถูกให้ไปเป็นทหารกันหมดแล้ว ในส่วนของผู้เสียชีวิตจึงยังไม่สามารถระบุชื่อได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเทียบกับเหตุการณ์รุนแรงเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ทางการอิสราเอลใช้เวลาในยืนยันตัวตนและทำเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องบันทึกว่าบุคคลเหล่านี้เป็นผู้เสียชีวิตจากสงครามและเป็นผู้ที่ให้เงินช่วยเหลือมีหลายขั้นตอนกว่าจะพิสูจน์อัตลักษณ์ เพื่อไม่ให้ผิดพลาด และในครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 900 คนแล้ว ซึ่งมากกว่าครั้งที่แล้ว ย่อมต้องใช้เวลาแน่นอน ยืนยันว่าพยายามอย่างเต็มที่เช่นกัน แต่ตอนนี้ขอช่วยผู้ที่รอดชีวิตให้รอดพ้นจากอันตรายก่อน

เมื่อถามย้ำว่าจากการสืบทางลับแรงงานที่ถูกจับตัวไปปลอดภัยดีหรือไม่  น.ส.พรรณนภา กล่าวว่า ยอมรับว่าไม่ทราบข้อมูลจริง ๆ แต่ขอวิงวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้คนไทยและตัวประกันทุกคนยังมีชีวิตอยู่ ทุกคนกลับบ้านด้วยความปลอดภัย แต่ทางการอิสราเอลได้ให้ความมั่นใจว่าจะพยายามช่วยเหลือทุกคนอย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.

รัฐสภา 31 พ.ค. – เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.นี้ เคาะประธาน-รองประธาน วางกรอบการทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 73 คน ประกอบด้วย สัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 18 คน คือ 1. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง 2. นายจักรพงษ์ แสงมณี 3. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง 4. นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม 5. นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 6. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ […]

สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง

รัฐสภา 31 พ.ค.- สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง ประธานสั่งพักประชุม 5 นาที สุดท้ายงูเห่ายอมถอย ไปอยู่สัดส่วน ครม.แทน การประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลังที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติพิจารณางบประมาณรายจ่ายงบประมาณ 2569 ในขั้นตอนการเสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญฯ จำนวน 73 คน ในสัดส่วนของพรรคไทยสร้างไทย จำนวน 1 คน โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน และ สส.พรรคประชาชน ได้เสนอชื่อ นายชัชวาล แพทยาไทย ขณะที่นางสุภาพร สลับศรี สส.พรรคไทยสร้างไทย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ทำให้เกิดการประท้วงกันเนื่องจากมีการเสนอชื่อ 2 คน แต่ปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทยมีหนังจากกรรมการบริหารพรรคว่าจะเสนอชื่อนายชัชวาล เป็นตัวแทนของพรรคทำให้นายฐากูร ยืนยันว่าที่ผ่านมาการเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมาธิการวิสามัญจะต้องถูกเสนอโดยคนของพรรคตัวเอง ไม่ใช่พรรคอื่น ซึ่งวันนี้พรรคไทยสร้างไทยเสนอชื่อตน แต่พรรคการเมืองอื่นเป็นเสนอชื่ออีกคน ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่า ใครจะเป็นผู้เสนอชื่อก็ได้ขอแค่มีผู้รับรอง ก่อนจะให้เวลาทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน […]

“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่

รัฐสภา 31 พ.ค.-“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่ ลั่นถ้าทำให้นายกฯ ไม่ได้ ก็เปลี่ยนตัว เอาคนอื่นไปนั่งแทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วาระร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นายชาดา กล่าวว่าในฐานะที่อยู่ในสภาฯ มาพอสมควร ขอชื่นชมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีการพัฒนาในการอภิปรายอย่างมาก ปี 69 มีงบประมาณลงทุน 7 แสนล้านบาท คนพูดกันตลอดเวลาว่าทำไมช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยในประเทศนี้จึงห่างขึ้นทุกวัน ยกตัวอย่าง ในงบลงทุนเป็นงบก่อสร้าง 4.75 แสนล้านบาท ซึ่งงบก่อสร้างไม่เหมือนในอดีตเพราะต้องถูกตัดไปให้ธนาคาร 5% จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาดูเพราะเป็นการเอาเปรียบประชาชน ในจำนวนนี้มีค่าธรรมเนียม 2.5% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีเรื่องเร่งรัดการเบิกจ่ายอีก 15% ซึ่งธนาคารตัดไป 3% และคิดค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก นายชาดา กล่าวว่างบก่อสร้าง มีเครื่องจักรเหล็กหินวัสดุที่เป็นปูน หากเป็นงานถนนมีแรงงานเพียง 15% เงินส่วนนี้ไม่ได้ไปสู่ระบบข้างล่าง […]

ฝากขังพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก

นครราชสีมา 30 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก และขืนใจลูกวัย 11 ขวบ ฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา อ้างวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโหและมึนเมาสุรา จึงก่อเหตุ ความคืบหน้ากรณีพ่อเลี้ยงพระเอกลิเกสุดโหดใช้ค้อนสำหรับทุบหมู ทำร้ายลูกเลี้ยงนางเอกลิเกที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก จนบาดเจ็บเลือดคั่งในสมอง ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครราชสีมาบุกรวบตัวผู้ต้องหาคือ นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเกชื่อ “รักยิ้ม ทับทิมสยาม” พ่อเลี้ยง ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 พ.ค.) ขณะผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา ก่อนจะควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เพื่อสอบปากคำ เช้าวันนี้ (30 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา คุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผล จนผู้ต้องหา ยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง อ้างว่าในวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโห พร้อมกับมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ส่วนข้อหากระทำอนาจารต่อลูกสาววัย 11 ขวบ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐาน หากตรวจพบหลักฐานที่ชัดเจนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

วิวคว้าแชมป์

“วิว-บาส-เฟม” คว้าแชมป์แบดฯ สิงคโปร์ โอเพ่น

1 มิ.ย. – “วิว กุลวุฒิ” ตบชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด คว้าแชมป์ชายเดี่ยวแบดมินตันสิงคโปร์ โอเพ่น ส่วน “บาส-เฟม” คว้าแชมป์คู่ผสมมาครองได้สำเร็จ แบดมินตัน ระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 รายการ สิงคโปร์ โอเพ่น ที่ประเทศสิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ชาวไทย ที่เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์ เป็นนักของไทยคนแรกที่ขึ้นมือ 1 ของโลก ตบเอาชนะ ลู กวาง ซู จากจีน 2 เกมรวด 21-6 , 21-10 คว้าแชมป์ไปครอง พร้อมฉลองแชมป์ ก่อนขึ้นมือ 1 ของโลกอย่างทางการในสัปดาห์ในการประกาศจากสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) และยังเป็นแชมป์ที่ 4 ในปีนี้ของ “วิว” […]

“มาริษ” แถลงสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม “JBC”

.ต่างประเทศ 1 มิ.ย.-“มาริษ” นำแถลงสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” ยันทำทุกทางไม่ให้บานปลาย ย้ำ กต.ไม่สบายใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เผยยกหูหา “รองนายกฯ กัมพูชา” แล้ว เห็นพ้องตรงกัน เกิดความสงบความเรียบร้อยตามแนวชายแดน ด้าน “โฆษก กต.” ยันโพสต์ “ฮุนเซน” ไม่มีผล คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม “JBC” แน่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำแถลงข่าวเกี่ยวกับพัฒนาการสถานการณ์ไทย-กัมพูชา พร้อมด้วย พลเอก มนัส จันดี เสนาธิการทหาร , นางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ภายหลังการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง ว่า ตนได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ จัดประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือเจบีซี เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา โดยไทยและกัมพูชา เป็นประเทศที่มีความใกล้ชิดกัน ทั้งในระดับรัฐบาลและประชาชน จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องดำเนินการทุกวิถีทางที่จะไม่ให้สถานการณ์บานปลายถึงขั้นกระทบกระเทือนถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ซึ่งถ้ากระทบมากไปจะไม่เป็นผลดี อย่างไรก็ตาม ได้มีเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ช่องบก […]

“วิว กุลวุฒิ” นักแบดชายเดี่ยวไทยคนแรก ขึ้นเป็นมือ 1 โลก

สิงคโปร์ 1 มิ.ย.-“วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ มือ 2 ของโลก ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ แบดมินตัน สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 พร้อมจะขยับขึ้นเป็นมือ 1 โลกชายเดี่ยว เป็นคนแรกของไทย ผลการแข่งขัน แบดมินตัน สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 รายการระดับ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 ชิงเงินรางวัลรวม 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 33 ล้านบาท ที่สิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบรองชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือ 2 ของโลก และเจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก “ปารีสเกมส์ 2024” ตบเอาชนะ หลิน ชุนยี่ มือ 19 ของโลก จากไต้หวัน 2-0 เกม 21-11 […]