รัฐสภา 19 ก.ย.-“พิเชษฐ์” เผย ถ้าตกลงกันไม่ได้ เตรียมกล่องสุ่มจับสลากปธ.กมธ. ลั่นต้องจบในสัปดาห์นี้ ชี้ความเดือนร้อนประชาชนรอไม่ได้ เหตุเหลือเวลาสมัยนี้แค่เดือนเดียว
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ยืนยันว่าสัปดาห์นี้จะต้องได้ข้อยุติเรื่องตำแหน่งประธาน คณะกรรมาธิการสามัญทุกคณะ โดยในวันพฤหัสบดี ที่21 กันยายนนี้ จะมีการหารือเพื่อหาข้อยุติอีกครั้ง เพราะก่อนหน้านี้ได้ให้ไปหารือกันนอกรอบมาถึง 2 ครั้งแล้วและครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งตนได้บอกในที่ประชุมไปแล้วว่าให้เร่งประสานงานเจรจาให้ลงตัว ดังนั้นหากในวันที่ 21 ยังคุยกันไม่รู้เรื่องตนได้เตรียมกล่องไว้ 2 ใบ ใบหนึ่ง มี 8 หมายเลข คือ8พรรค ให้จับลำดับว่าใครจะได้จังสลากก่อน ขณะที่อีกกล่องหนึ่งมี25 หมายเลขพร้อมชื่อกรรมาธิการ ใครจับได้ก็ได้เป็นประธานกรรมาธิการชุดนั้นไป โดยจับตามสัดส่วนของแต่พรรคที่จะได้ประธานกรรมาธิการตามที่ตกลงไว้
“ส่วนใครจะยอมหรือไม่ยอม ผมต้องรับผิดชอบในฐานะของสภาผู้แทนราษฎรคณะกรรมาธิการต้องเดินหน้าได้เพราะเป็นผลประโยชน์ของประชาชนและปัญหาของประเทศรอไม่ได้ ดังนั้นขออยู่บนความเป็นกลางและเป็นธรรม ตึงต้องรับดำเนิยการ เนื่องจากสมัยประชุมนี้เหลือเวลาเพียง 1 เดือน และจะเปิดอีกทีวันที่ 12 ธันวาคม ซึ่งส.ส.จะได้ไปทำงานในพื้นที่ แต่หากหวังจะเอาผลประโยชน์ของ พรรคและความคิดของตนเองเป็นที่ตั้งคงเป็นไปไม่ได้ ซึ่งบอกไปหลายครั้งแล้วและครั้งนี้ขอจับสลาก ถ้าไม่ยอมจับฉลากและเจรจากันไม่ได้ วันที่ 27 กันยายนนี้จะตั้งกรรมาธิการฯในสภา และให้ไปโหวตกันในวันที่ 28 กันยายนที่มีการประชุมกรรมาธิการนัดแรก ซึ่งถือว่าแผนนี้เป็นขั้นเลวร้ายที่สุด แต่ก็เป็นไปตามหลักการประชาธิปไตย” รองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าว
เมื่อถามว่าพรรคไหนที่มีปัญหา นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าพรรคไหนไม่ยอม ทราบแต่เพียงว่ามีปัญหากัน เมื่อมีวิปรัฐบาล มีวิปฝ่ายค้านแล้วยังไม่คุยกัน ตนก็ต้องทำตามหน้าที่ของตน จะคิดว่าจะรักษาผลประโยชน์ของตนเองและของพรรคคงเป็นไปไม่ได้เพราะประชาชนต้องมาก่อน และถ้าวันที่ 21 นี้จบลงได้ก็ไม่ต้องจับฉลากและการโหวต ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับที่ประชุม ตนมีเวทีให้
เมื่อถามว่าประธานกรรมาธิการคณะไหนที่ไม่ลงตัว นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ไม่มีพรรคไหนบอก ต่างคนต่างนิ่ง แต่ตนขอยืนยันว่าต้องทำตามหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของประชาชน.
นายพิเชษฐ์ กล่าวถึงผลการเลือกตั้งจังหวัดระยองที่พรรคก้าวไกลได้ส.ส.เพิ่มอีก 1 คน และจะส่งผลต่อการเพิ่มประธานกรรมาธิการของพรรคก้าวไกลด้วย ว่า ขณะนี้จำนวนส.ส.มี 499 เนื่องจากกกต.ยังไม่รับรอง ก็ต้องยึดผลอย่างเป็นทางการ และหากยังคุยกันไม่ได้ แล้วเกิดมีส.ส.ออกจากพรรคก้าวไกลไปอีก 1 คน ทำให้ส.ส.ของพรรคก้าวไกลหายไป 1 คนอยู่ดี แต่การเสนอชื่อประธานกรรมาธิการก็ต้องจบในวันที่ 27 กันยายน เพื่อประชุมนัดแรกวันที่ 28 กันยายน ดังนั้น สัดส่วนคือส.ส. ณ ปัจจุบัน
ส่วนกระแสข่าวว่าพรรคก้าวไกลมีแผนจะขับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ออกจากพรรคเพื่อรักษาตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 1 ว่า เป็นความคิดของพรรคการเมือง ซึ่งต้องแล้วแต่ว่าแต่ละพรรตจะมีกลยุทธ์หรือเกมการเมืองอย่างไร ถือเป็นสิทธิของพรรคนั้น ส่วนในแง่ความสง่างามก็แล้วแต่สังคมจะตัดสิน.-สำนักข่าวไทย