รัฐสภา 13 ก.ย.-“พิเชษฐ์” นัดพรรคการเมืองถกประธาน กมธ.อีกรอบ ลั่น 21 ก.ย.นี้ต้องจบ ยันหาก กกต.รับรอง สส.ระยอง “ก้าวไกล” จะได้โควตาเพิ่ม 1 เก้าอี้ ขู่ถ้าตกลงไม่ได้แล้วต้องโหวต ระวังเสียเปรียบ ฝากเตือนบางพรรค ถ้ายังห่วงผลประโยชน์ จะไม่ได้อะไรสักอย่าง
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง ในฐานะประธานในการจัดสรรโควตากรรมาธิการสามัญ สภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่า การจัดสรรตำแหน่งประธานกรรมาธิการจะต้องได้ข้อยุติในสัปดาห์หน้า โดยในวันนี้ (13 ก.ย.66) ได้ออกหนังสือเชิญประชุมในวันพฤหัสบดีที่ 21 ก.ย.66 เวลา 13.30 น. ซึ่งจะเชิญตัวแทนพรรคการเมืองทุกพรรคมาพูดคุยตกลงกันอีกครั้ง โดยหากตกลงกันไม่ได้ ตนจะใช้ข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพราะไม่สามารถรอได้ เนื่องจากมีปัญหาของประชาชนที่อยากให้พิจารณา ดังนั้น หากไม่รับผิดชอบตัวเอง และรับผิดชอบต่อสังคม ตนก็ต้องทำตามธรรมชาติ โดยอันดับแรกจะใช้วิธีการจับสลาก แต่หากยังไม่ยอม ก็จะให้ไปลงมติกันในที่ประชุมในทุกคณะ แต่จะแย่กว่าเดิม จะเอาหรือไม่ ทั้งนี้ เราอยู่สภาฯ มานาน ตามความเป็นจริงจะต้องมีกรรมาธิการ มีประธานมาทำงานแล้ว ไม่ใช่ทอดเวลามาเนิ่นนานขนาดนี้
“ขอให้พรรคที่มีปัญหาคิดให้ดี ไม่เช่นนั้นสิ่งที่จะได้ก็จะไม่ได้สักอย่าง ต้องคิดให้ดีว่าจะเอาอย่างไร ถ้าทำอย่างนี้ก็จะไม่ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ผมบอกให้คุยกันแล้ว ถ้าโหวตแล้วรัฐบาลได้เปรียบ ทุกคนก็รู้อยู่ว่าอะไรจะเป็นอย่างไร จับสลากจะเป็นอย่างไร โหวตในห้องจะเป็นอย่างไร ถ้ายังรักษาผลประโยชน์ สุดท้ายจะไม่ได้สักอย่าง จนถึงวันนี้ยังไม่ได้คุยกันเลย และผมมีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องนี้ ผมก็ต้องทำตามหน้าที่ของผมใช่หรือไม่ ฉะนั้น วันพฤหัสบดีนี้ก็จะประชุม ตกลงเอาอย่างไร อย่างไรก็ต้องจบ รออะไร รอผลประโยชน์ของแต่ละคนแต่ละพรรคหรือ แล้วผลประโยชน์ของประชาชนมันรอได้ไหม” นายพิเชษฐ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกลได้ สส. เพิ่มมาอีก 1 คน จะได้สัดส่วนประธานกรรมาธิการเพิ่มอีก 1 คน หรือไม่ นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า จนถึงตอนนี้ยังไม่มีประกาศรับรองการเป็น สส. จากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดังนั้น หากจนถึงวันที่ 21 ก.ย. แล้วยังไม่รับรอง ก็ต้องเดินหน้าตกลงเรื่องตำแหน่งประธาน เพราะรอไม่ได้ พร้อมย้อนถามว่า หากเดือนนี้และเดือนหน้ายังไม่ประกาศรับรอง จะให้รอไปถึงไหน หากรับรองก่อนวันพฤหัสบดี พรรคก้าวไกลก็จะได้ตำแหน่งประธานกรรมาธิการเพิ่มอีก 1 ตำแหน่งตามหลักการ และขอย้ำว่า การตัดสินใจตรงนี้เป็นการทำตามหน้าที่ ซึ่งการตกลงกัน ถ้าได้ก็คือได้ ถ้าไม่ได้ปล่อยไว้ก็ยังไม่ได้ต่อไปเรื่อยๆ จึงต้องหาข้อยุติ ไม่เช่นนั้นก็จะไม่สามารถเดินหน้าทำงานได้ ดังนั้น จะทำตามใจตัวเองไม่ได้ เพราะเป็นปัญหาของส่วนรวม.-สำนักข่าวไทย