กทม. 8 ก.ย.-“อนุทิน” รมว.มหาดไทย สั่งผู้ว่าฯ จัดทำบัญชีรายชื่อผู้มีอิทธิพล และควบคุมการครอบครองอาวุธปืนให้เข้ม ชงกฎหมายกันชง-กัญชาเพื่อเศรษฐกิจ หยุดการนำไปใช้ที่ไม่ใช่ทางการแพทย์
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด จัดทำบัญชีผู้มีอิทธิพล จะสำเร็จและดำเนินการอย่างไรต่อว่า ขออย่าระบุว่าเป็นการสั่งการ เป็นสิ่งที่เราจะต้องดูแล คนที่จะมาดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน แม้จะมีบุคลิกเป็นผู้นำแต่จะต้องมีคุณธรรม ไม่ใช้อิทธิพลในการดูแลปกครองประชาชน แต่หากเป็นผู้มีอิทธิพลแล้วมาปกครองบ้านเมือง ก็จะเกิดเหตุการณ์อย่างเช่นที่จังหวัดนครปฐม ไม่พอใจก็ข่มขู่ นี่ขนาดลูกน้อง แต่ถ้าเป็นลูกพี่จะขนาดไหน ไม่มีลูกน้องที่ไหนที่ไม่ทำตามลูกพี่ ตัวอย่างที่เลวๆ แบบนี้ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัด และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยต้องช่วยตน ไปขึ้นทะเบียนและคัดกรอง คนแบบนี้จะอยู่ในบ้านเราและในสังคมไม่ได้ เพราะประชาชนจะเดือดร้อน ถึงขั้นเอาชีวิตกันมันไม่ได้ บ้านเมืองมีขื่อมีแปร
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงการขึ้นทะเบียนปืนว่าจะเข้ามีความเข้มข้นมากขึ้น ใบอนุญาตการมีปืนห้ามบรรจุกระสุน และพกพาไปในที่สาธารณะ มีข้อห้ามมากมาย เพราะไม่ใช่มีใบอนุญาตแล้วจะพกพาไปไหนตอนไหนได้ ต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัด ส่วนจะต้องนำประวัติจากทาง สตช. มาพิจารณาควบคู่กันหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ต้องมีการตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง และเชื่อว่าประชาชนไม่ต้องการอยู่ภายใต้การนำของคนอันธพาลเหล่านี้
ส่วนการที่ นายอนุทิน ได้ย้ำว่าการทำงานของกระทรวงมหาดไทยต้องไม่มีระบบเส้นสาย หรือเรื่องทางการเมือง นายอนุทิน ย้ำว่า เป็นการทำงานสไตล์ของตนอยู่แล้ว ตนเชื่อมั่นว่าหากเราให้ความเป็นธรรม กับคนทุกคนได้ คำว่าเส้นสายจะเปลี่ยนไปเป็นผลงาน ใครมีผลงานคนนั้นเส้นใหญ่ ใครรักประชาชนอย่างไรก็เข้าตาผู้บริหารและรัฐมนตรี นายอนุทิน ยังย้ำว่า การทำงานกระทรวงมหาดไทยภายใต้การนำของตน ไม่มีคำว่าสิงห์ดำสิงห์แดง พิสูจน์มาแล้วในยุคที่พ่อของตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เราเอาผลงานเป็นที่ตั้ง และเส้นสาย จะต้องหมดไปในยุคของตน ซึ่งระบบเส้นสายควรต้องหมดไปตั้งนานแล้ว ตนจะพยายามทำให้ไม่มีการแบ่งขั้วแบ่งฝ่าย ตนจะทำให้ กระทรวงมหาดไทยเป็นกระทรวงที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชน สีหรือขั้วฝ่าย คลายทุกข์ให้ประชาชนไม่ได้ ความสามารถ ประสบการณ์ ความตั้งใจ จะทำให้ประชาชนมีความสุข ส่วนการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ไม่ใช่นโยบายในส่วนของตน ที่ให้สัญญากับพี่น้องประชาชนไว้
เมื่อถามถึงแนวทางปกป้องสถาบัน จะมีแนวทางอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นความภาคภูมิใจที่เรามีสถาบันพระมหากษัตริย์ เราจะให้ท่านถูกลบหลู่ดูหมิ่นไม่ได้ ส่วนเรื่องการศึกษาต้องให้เยาวชนของชาติ ต้องภูมิใจในสถาบันหลักของชาติ ที่เป็นมาโดยช้านาน แก้ไขวิกฤตการณ์ของชาติมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง หลักสูตรต่างๆถูกถอดออกไป แล้วอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้น ตนเล่าเรียนมาจึงรู้สึกหวงแหน ภูมิใจที่เรามีสถาบันอันเป็นที่รักของชาติอยู่ สภาพหลังจากที่ถอด หลักสูตรออกไปเป็นอย่างไรเราก็เห็นกันอยู่ หลังจากนี้คงจะต้องมีการสังคายนา และปลูกฝังค่านิยมที่ดีเหล่านี้ต่อไป พร้อมสร้างความเข้าใจให้กับเด็กและเยาวชน
เมื่อถามถึงกรณีพรรคเพื่อไทย จะนำกัญชาไปสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ส่วนตัวมีความพอใจมากน้อยเพียงใด นายอนุทินกล่าวว่าต้องขอบพระคุณหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในช่วงที่เรามีการหารือกัน พรรคภูมิใจไทยได้ฝากทำความเข้าใจ ว่าไม่ได้นำกัญชามาใช้ในทางสันทนาการ หรือมอมเมา แต่นำมาใช้ประโยชน์ทางด้านการแพทย์ และสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจ และเพื่อสุขภาพของประชาชน แต่ที่ผ่านมามีการสื่อสารที่ผิดเพี้ยนไป เพราะกฎหมายยังไม่ผ่านสภา แต่หากกฎหมายผ่านแล้วสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น ซึ่งเร็วๆ นี้ทางพรรคภูมิใจไทยจะยื่นกฎหมายควบคุมกันชงกัญชาสู้สภาอีกครั้งหนึ่ง ต้องนับหนึ่งใหม่ แต่โครงสร้างพื้นฐานมีอยู่แล้ว โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขคนใหม่และนายกรัฐมนตรี จะได้พิจารณาเพิ่มเติมหรือทำอะไรที่เป็นประโยชน์มากขึ้น ก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น และในคำแถลงนโยบายก็มีเรื่องนี้ปรากฎอยู่เช่นกัน.-สำนักข่าวไทย