รัฐสภา 8 ส.ค.-“เสรี” ปัดตอบหนุนแคนดิเดตนายกฯ ยังไม่ชัดเสนอใคร ย้ำมาตรฐานไม่หนุนแก้ ม.112 เตรียมตรวจสอบ “เศรษฐา” ปมร้องเลี่ยงภาษีที่ดิน 500 ล้าน ชี้ต้องชัดเจนก่อนโหวตรอบหน้า
นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) และประธานกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวถึงการร่วมจัดตั้งรัฐบาลระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย ว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกอะไรได้ เพราะการจัดตั้งรัฐบาลเพิ่งรวมเสียงได้ 200 กว่าเสียง ยังไม่รู้ว่าจะมีพรรคการเมืองอื่นหรือจะมีพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติมาร่วมเพื่อให้เกิดเสถียรภาพหรือไม่ และยังไม่แน่ชัดว่าจะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคใด เพื่อขอความเห็นชอบในที่ประชุมรัฐสภา แม้ว่าพรรคเพื่อไทยยืนยันจะเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีก็ตาม แต่เมื่อถึงที่สุดแล้วต้องรอความชัดเจนอีกครั้ง การพูดตอนนี้จะกลายเป็นว่า ส.ว.ให้การสนับสนุนพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง
“ยอมรับว่าชื่อของนายเศรษฐามีคุณสมบัติพอที่จะพิจารณา แต่ต้องตรวจสอบว่ามีมาตราฐานที่เคยตัดสินใจไว้แล้วคือไม่แตะมาตรา 112 และไม่แก้รัฐธรรมนูญหมวด 1 หมวด 2 และบุคคลที่ถูกเสนอชื่อมีคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ รวมทั้งต้องดูนโยบายพรรค เพื่อประกอบการตัดสินใจด้วย เพราะถือว่ามีส่วนสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชน ซึ่งทั้งหมดนี้คือแนวทางที่ส.ว. วางไว้ตั้งแต่การเลือกนายกฯ ครั้งที่แล้ว” นายเสรี กล่าว
ส่วนกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐยื่นเรื่องให้ส.ว.ตรวจสอบนายเศรษฐา กรณีเลี่ยงภาษีที่ดิน 500 กว่าล้านบาท นายเสรี กล่าวว่า กรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ จะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมในวันนี้(8 ส.ค.) เพื่อตรวจสอบรายละเอียดว่าเกี่ยวข้องกับภาระหน้าที่ของกรรมาธิการหรือไม่ หากไม่เกี่ยวข้องจะส่งต่อให้กรรมาธิการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะต้องตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนจะเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไป เพราะถือว่ามีส่วนสำคัญในการเข้ามาบริหารประเทศ จะต้องตรวจสอบได้ มีเหตุมีผล โดยไม่อคติ
ส่วนการที่นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว.ระบุว่า นายกรัฐมนตรีคนต่อไปไม่ได้มาจากพรรคเพื่อไทย นายเสรี กล่าวว่า เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของนายกิตติศักดิ์เพียงคนเดียว ไม่ใช่การตั้งธงของส.ว.ทั้งหมด ตอนนี้ยังไม่สามารถฟันธงเรื่องอะไรได้ เพราะยังไม่รู้ว่าชื่อที่จะถูกเสนอในที่ประชุมรัฐสภาจะเป็นใคร แต่หาหกเสนอชื่อนายเศรษฐาควรจะเข้ามาแสดงวิสัยทัศน์ เพื่อตอบข้อซักถามของสมาชิกด้วยตนเอง
เมื่อถามย้ำว่าหากพรรคพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติร่วมรัฐบาลด้วย จะเป็นปัจจัยทำให้ส.ว.สนับสนุนมากขึ้นหรือไม่ นายเสรี ยอมรับว่า มีผลทุกพรรค ส.ว.ต้องพิจารณาหมดทุกพรรค แต่เป็นปัจจัยในแต่ละพรรคว่าพรรคที่มาร่วมต้องไม่สร้างปัญหา เพราะต้องยอมรับว่าสถานการณ์ตอนนี้มีการแสดงออกทางการเมืองที่ก้าวร้าวรุนแรง ต้องยอมรับความจริงว่าบางพรรคอยู่เบื้องหลัง นักการเมืองจะต้องมีความรับผิดชอบ เข้ามาแก้ไขปัญหาร่วมกัน ไม่ใช่นึกจะทำอะไรก็ได้ เพราะจะทำให้ประเทศไปสู่ทางตัน เกิดความเสียหาย.-สำนักข่าวไทย