“เศรษฐา” ยินดีสมรสเท่าเทียม

สยามพารากอน 23 ม.ค.-“เศรษฐา” ยินดีสมรสเท่าเทียม ชี้ประวัติศาสตร์ต้องจารึกกว่า 20 ปี บอกชาวไพรด์เรียกร้องสิทธิ์อยากให้มีความเท่าเทียม ไม่ใช่เหนือกว่าคนอื่น ตกใจผู้นำประเทศใหญ่ประกาศมีแค่ 2 เพศ ลั่นไทยประเทศเล็กแต่ใจใหญ่กว่า ระบุไม่อยากชุบมือเปิบ ความสำเร็จเกิดจากหลายพรรค-หลายรัฐบาล

นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถา ในงานวันสมรสเท่าเทียม (Marriage Equality Day) ว่า วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ต้องจารึกไว้ว่าการเดินทางอันยาวนานกว่า 20 ปี ได้มาถึงจุดที่เราทุกคน สามารถแสดงออกถึงความรักซึ่งมีต่อกันโดยไม่จำกัดเพศสภาพ สามารถเชิดหน้าชูตาในสังคมได้อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี


นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า อย่างที่บอกเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตนและพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญมาโดยตลอด ชื่อก็บอกอย่างชัดเจนว่าสมรสเท่าเทียม ตนขออยากจะเน้นคำว่าเท่าเทียม พี่น้องชาวไพรด์ทุกคนเรียกร้องสิทธิ์อยากให้มีความเท่าเทียม ไม่ใช่เหนือกว่าคนอื่น แต่สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้ต้องใช้ระยะเวลานานเพราะมีการบิดเบือน ว่าเราต้องการเรียกร้องสิทธิ์ที่เหนือกว่า โดยความเท่าเทียมเป็น สิทธิพื้นฐานที่พวกเราทุกคนควรจะต้องได้

นายเศรษฐา ย้ำว่า เรื่องสมรสเท่าเทียม เรื่องการเคารพนับถือเพศสภาพ ส่วนตัวให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาตั้งแต่ก่อนเดินทางเข้าสู่ถนนการเมือง ซึ่งเหตุผลหลักเหตุผลหนึ่งที่ตนเลือกเข้ามาอยู่ที่พรรคเพื่อไทย ไม่ใช่แค่เรื่องเศรษฐกิจ แต่เป็นเรื่องที่ สส. และสมาชิกพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับกฎหมายสมรสเท่าเทียม มาโดยตลอดต่อเนื่อง


“ไม่อยากจะใช้คำว่าชุบมือเปิบ กับความสำเร็จที่พี่น้องทุกคนได้เดินทางมาไกลมีหลายพรรคการเมือง หลายรัฐบาลมีความพยายามช่วยกันผลักดันเรื่องเหล่านี้ให้เกิดขึ้นได้ และความรักที่เรามีต่อกันไม่ต้องแอบข้างหลังอีกแล้ว เราสามารถเดินเชิดหน้าชูตา อย่างที่เราอยากจะเป็น อยู่อย่างที่เราอยากจะอยู่แสดงออกอย่างที่เราอยากจะแสดงออกได้อย่างเต็มตัว” นายเศรษฐา ระบุ

นายเศรษฐา ยังกล่าวว่า ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมามีการเข้ารับตำแหน่งของผู้นำประเทศใหญ่ประเทศหนึ่ง ซึ่งตนเองรู้สึกตกใจและได้มีการประกาศว่าในประเทศของท่านมี 2 เพศเท่านั้น แต่คงไม่ไม่เหมาะสมที่ตนจะมากล่าวถึงความขัดแย้ง หรือสร้างประเด็นถึงเรื่องนี้ แต่ขอใช้คำนี้ดีกว่า เรามีประชากร 68 ล้าน ถึงแม้ขนาดเศรษฐกิจเราไม่ได้ใหญ่เท่าเขาแต่ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ตนเชื่อว่าเรามีหัวใจใหญ่กว่า เรายอมรับคนที่อยากจะเป็น เราให้เกียรติ เราให้เวที เราให้พื้นที่
อย่างที่เขาสมควรจะได้รับ ถึงแม้จะเป็นการรอคอยนานกว่า 20 ปี และเมื่อสักครู่ตนได้เจอกับคู่สมรสอายุ 63 ปีกับ 78 ปีอยากจะขอแสดงความยินดีและขอโทษในเวลาเดียวกันว่า “Better late than never สายยังดีกว่าไม่มา”

นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า ผลกระทบที่เรามีกฎหมายสมรสเท่าเทียมเป็นชาติต้นต้นของเอเชีย เป็น World-Class Destination ด้านการท่องเที่ยว ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาทำงานอย่างหนักเพื่อดึงนักท่องเที่ยว ปี 2567 เกือบ 40 ล้านคน และปีนี้ตนเชื่อว่าชาว LGBTQ+ น่าจะเข้ามาสร้างเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวสีรุ้งที่เมืองไทยได้ สร้างความอุดมสมบูรณ์ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนคนไทยได้.-316.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง