หนุน กกต.ส่งศาล รธน.วินิจฉัย “พิธา”

รัฐสภา  10 ก.ค. – “ดิเรกฤทธิ์” ชี้ กกต.ส่งเรื่องให้ศาล รธน.ตีความคุณสมบัติ “พิธา” ก่อนโหวตนายกฯ ดีกว่าโหวตไปแล้วต้องโมฆะทีหลัง ถ้า กกต.ยังไม่ตัดสินใจ จะขอมติสภาฯ เลื่อนวาระ คาด ส.ว.ส่วนใหญ่งดออกเสียงเป็นแนวทางให้เลื่อนโหวต


นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบสถานภาพนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ว่า สมาชิกรัฐสภามีหน้าที่เลือกนายกรัฐมนตรีที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ แต่ปัญหาคือกรณีนายพิธา มีคุณสมบัติ ณ วันที่จะเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ซึ่งองค์กรที่จะวินิจฉัยคือศาลรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านมามีผู้ไปยื่นร้องเรียน กกต.จึงทำหน้าที่เป็นผู้กลั่นกรองเบื้องต้น คล้ายกับพนักงานสอบสวนในคดีอาญา ดังนั้น เมื่อ กกต.รับเรื่องไว้แล้ว ต้องตรวจสอบหลักฐานว่าครบถ้วนหรือไม่ และรีบส่งศาลรัฐธรรมนูญ

“ผมมองว่าเป็นเรื่องของการให้ความเป็นธรรม นายพิธาจะถูกหรือผิด จะมีคุณสมบัติครบถ้วน ไม่มีลักษณะต้องห้ามหรือไม่ ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ให้ชัดโดยเร็ว เพราะมิเช่นนั้นเมื่อเปิดประชุมรัฐสภา วันที่ 13 กรกฎาคม คงจะอภิปรายอย่างกว้างขวางและหยิบยกมาตรา 272 ซึ่งมีการพูดถึงคุณสมบัติของผู้ที่ถูกเสนอชื่อไปโยงกับมาตราอื่น ๆ นำไปสู่ข้อสงสัยว่าข้อยุติคืออะไร หากเลือกไปจะขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ เช่นเดียวกับโครงสร้างทางคดีอาญา ตามมาตรา 151 ที่ทราบว่าขาดคุณสมบัติ แต่ยังลงสมัครเลือกตั้ง ทำนองเดียวกันหากสมาชิกรัฐสภารู้อยู่แล้วว่านายพิธาขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามแล้วยังเลือก อาจจะขัดกับรัฐธรรมนูญได้ ซึ่งมีโทษทางอาญาด้วย เรื่องนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญต่อหลักการพิจารณาในวันที่ 13 ก.ค. สรุปคือเมื่อคุณสมบัติของนายพิธา เป็นหัวใจสำคัญที่สมาชิกรัฐสภาจะต้องพิจารณาประกอบการลงมติให้ความเห็นชอบหรือไม่ให้ความเห็นชอบ” นายดิเรกฤทธิ์ กล่าว


นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญโดยเร็ว และเมื่อศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องแล้ว จะต้องมีคำสั่งที่เกี่ยวข้องโดยด่วน เช่น หากถูกร้องว่ามีคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งทางเมืองจะต้องมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่อย่างไร เพราะเมื่อดำรงตำแหน่ง ส.ส.ไม่ได้ จะมีผลย้อนหลังไปจนถึงวันเลือกตั้ง ดังนั้น วิธีการของศาลอาจจะต้องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อน เพราะในทางปฏิบัติ หากนายพิธาชนะก็จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ แต่ถ้าแพ้ เป็นรัฐมนตรี ตำแหน่ง ส.ส. หรือหากได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี จะเป็นโมฆะทั้งหมด ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย ศาลควรสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อนเหมือนกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

เมื่อถามย้ำว่า การยื่นวินิจฉัยคุณสมบัตินายพิธา จะส่งผลต่อการพิจารณาของ ส.ว. ที่ตั้งใจจะสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวว่า ตนเคยประกาศเจตนารมณ์ต่อสาธารณชนไว้ว่าจะประคับประคองระบอบรัฐสภาไว้ คือ ส.ส.เสียงข้างมากมีหน้าที่จัดตั้งรัฐบาล ส.ว.ก็ควรสนับสนุน รวมถึงผู้ที่ถูกเสนอจะต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม แต่เมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว มีการร้องกล่าวโทษนายพิธา ตนจึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดและให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหา เพราะถ้านายพิธาไม่มีคุณสมบัติ ตนก็เลือกไม่ได้ และถ้าเลือกไปก็สุ่มเสี่ยงจะเกิดปัญหาทำผิดรัฐธรรมนูญ จึงไม่ต้องพูดถึงเงื่อนไขที่ 3 ว่า นายพิธาจะขับเคลื่อนประเทศให้เกิดความสงบเรียบร้อยได้หรือไม่

“เรื่องการโหวตไม่ใช่ส่งผลแค่การพิจารณาของ ส.ว. แต่ส่งผลต่อการพิจารณาของทั้ง ส.ส. และ ส.ว เพราะมาตรา 272 ห้ามเลือกคนที่ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม หากไปเลือกเขา ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติ จะเป็นการทำผิดรัฐธรรมนูญเสียเอง และต้องรับโทษเรื่องที่เกี่ยวข้อง เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องใหญ่และเป็นไปตามกลไกของกฎหมายที่ต้องเคารพ องค์กรที่เกี่ยวข้องต้องทำให้กระจ่าง ไม่มีเงื่อนตายเงื่อนล็อก เพียงแค่ต้องมีความชัดเจน” นายดิเรกฤทธิ์ กล่าว


ส่วนจำเป็นต้องเลื่อนการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวว่า วาระการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นเรื่องของรัฐสภา จึงอยู่ที่ 750 คนที่จะมองว่าหากเลือกไปแล้วจะไม่มีปัญหาตามมาก็ดำเนินการได้ แต่หากมีบางคนมองว่าสุ่มเสี่ยงต่อการทำผิด ก็ใช้มติของรัฐสภาเลื่อนวาระออกไปได้ ซึ่งจะต้องรอวันที่ 13 กรกฎาคม และตนอาจจะยกมือขอหารือในที่ประชุมในประเด็นนี้ด้วย แต่หากในวันดังกล่าว ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีคำสั่งให้นายพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ และไม่เลื่อนวาระลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ส.ว.หลายคนอาจใช้วิธีงดออกเสียง เพื่อเป็นทางออกการเลื่อนวาระดังกล่าว และกลับมาโหวตในครั้งต่อไป.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

ตึกสตง.ถล่ม

เข้าสู่วันที่ 12 นำออกได้อีก 4 ร่าง ภารกิจค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม

หลังดีเอสไอรับคดีตึก สตง.ถล่ม เป็นคดีพิเศษ วันนี้ (8 เม.ย.) กรรมการคดีพิเศษได้ลงพื้นที่สังเกตการณ์และหารือแรงงานที่เกี่ยวข้องกับพยานหลักฐาน เพื่อใช้ในคดีกับผู้ที่เข้าข่ายกระทำความผิด ขณะที่ กทม. ยืนยันใช้แผนเดิมในการรื้อถอนอาคาร โดยวันนี้จะพยายามตัดยอดส่วนบนให้ได้ 5 เมตร เพื่อหาร่างผู้ติดอยู่ในโซน B และ C

นายกฯ ลั่นต้องมีผู้รับผิดชอบตึก สตง.ถล่ม ทำโมเดลขีดเส้น 90 วัน

นายกฯ ดึง 4 สถาบันวิศวะ บวก กรมโยธาธิการและผังเมือง ร่วมทำโมเดลเหตุตึก สตง.แห่งใหม่ถล่ม ขีดเส้น 90 วัน ลั่น ต้องมีผู้รับผิดชอบแน่นอน พร้อมฟันระหว่างทางถ้าพบทำผิดกฎหมาย สั่ง ตรวจตึกทั้งรัฐและเอกชนใหม่ทั้งหมด เข้ม ปลอดภัยรับแผ่นดินไหว ชี้ เอกชนขู่ถอดถอน รมว.อุตสาหกรรม ไม่ได้ เพราะไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

อุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีพายุฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง

กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ส่วน กทม.-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 40% กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ