รับรองเลือกตั้ง ส.ส. สัปดาห์หน้า แต่ไม่ยันครบ100%

โรงแรมเซ็นทราฯ 16 มิ.ย. – “อิทธิพร” พร้อมพิจารณาประกาศผลรับรอง ส.ส.สัปดาห์หน้า แต่ไม่ยืนยันจะครบ 100% หรือไม่ ให้ดูที่คำร้อง ยันไม่แทรกแทรงกรรมการไต่สวนสอบ “พิธา” ถือหุ้นสื่อฯ


นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงความคืบหน้าพิจารณาประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง  ส.ส. ว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทางสำนักงาน กกต.ได้มีการเสนอข้อมูลการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ซึ่งที่ประชุมได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้น แต่เห็นว่าการรับรองผลจะต้องมีข้อมูลประกอบมากกว่านี้ เพราะฉะนั้นกระบวนการพิจารณาเรื่องการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จะมีการประชุมต่อในสัปดาห์หน้า รวมทั้งการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อด้วย โดยยืนยันว่าการประกาศรับรองผลจะต้องเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนดให้ต้องประกาศไม่เกิน 60 วัน ทั้งนี้จะช้าหรือเร็วแค่ไหนขึ้นอยู่กับว่าข้อมูลที่จะเข้าสู่การพิจารณานั้นครบถ้วนสมบูรณ์แล้วหรือไม่   

นายอิทธิพร กล่าวว่า ข้อมูลที่ได้นั้นมาจากผู้อำนวยการ กกต.จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามว่ามีว่าที่ ส.ส.คนใดเข้าข่ายหรือไม่ ซึ่งกระบวนการนี้ใกล้จะแล้วเสร็จ ถ้าสัปดาห์หน้ามีข้อมูลเพียงพอก็สามารถที่จะประกาศรับรองผลให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 95 แต่ถ้าข้อมูลครบถ้วนก็จะสามารถประกาศให้ได้ครบร้อยละ 100 ทั้งนี้ยืนยันว่า กกต.จะประกาศผลให้เร็วกว่าการเลือกตั้งเมื่อปี 2562


เมื่อถามว่ากรณีที่มีเอกสารหลุด และพบว่ามีจำนวน 71 ส.ส.ที่พบเรื่องร้องเรียน นายอิทธิพร กล่าวว่า เป็นเอกสารที่สำนักงานเสนอข้อมูลต่อที่ประชุม กกต. เพื่อประกอบการพิจารณา ซึ่งเป็นเพียงข้อมูลส่วนหนึ่ง ไม่ใช่ข้อมูลหลัก และยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้ที่จะไม่ประกาศรับรองผลให้กับ 71 ส.ส.หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ยังไม่อยากพูดเช่นนั้น เพราะเมื่อดูข้อมูลคำร้องจะสามารถพูดได้ว่าสำนวนที่ร้องเป็นประเภทใด ถ้าเกี่ยวข้องทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรม กกต.ต้องพิจารณาว่าจะมีมติให้ดำเนินการอย่างไร หรือจะให้ดำเนินการสืบสวนต่อไปก่อน

เมื่อถามว่าหากจะต้องพิจารณาใบเหลืองหรือใบส้มจะมีระยะเวลาดำเนินการอย่างไร นายอิทธิพร กล่าวว่า หากมีใบเหลือง หรือใบส้ม จะต้องดำเนินการก่อนประกาศก่อนรับรองผล ส.ส. ส่วนจะแจกให้กับใครหรือไม่แจกนั้นจะต้องดูที่กระบวนการสืบสวนไต่สวน ซึ่งข้อมูลมาจาก กกต.จังหวัด หรือส่วนกลางเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเสนอผ่านเลขาธิการ  กกต.เพื่อเสนอเข้าสู่ที่ประชุม กกต. ซึ่งไม่สามารถพูดได้ว่ากระบวนการจะเป็นอย่างไรต่อไป ยืนยันว่าในระยะเวลาที่เหลืออยู่ก่อนครบกรอบ 60 วัน หาก กกต.ต้องสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ก็สามารถที่จะทำได้ เพราะระยะเวลามีเพียงพอและกฎหมายเปิดช่องย่นให้สามารถระยะเวลา เพื่อดำเนินการ ซึ่งขณะนี้สำนวนคำร้องเรียนคัดค้านการเลือกตั้ง  กกต.ยังไม่ได้มีการเริ่มพิจารณา

เมื่อถามว่ากรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดต นายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ถูกร้องเรียนให้ตรวจสอบการถือครองหุ้นบริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน) จะประกาศผลพิจารณารับรองไปก่อนหรือไม่นั้น นายอิทธิพร กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการโดย กกต.ได้มีมติตั้งคณะกรรมการไต่สวนขึ้นมาตรวจสอบ  ซึ่งจะดำเนินการไปตามระเบียบการสืบสวนไต่สวน โดยกำหนดขั้นตอนและระยะเวลาในการดำเนินการไว้ชัดเจน ย้ำว่าต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย และต้องยึดถือกระบวนการตามขั้นตอนต่างๆอย่างเคร่งครัด ส่วนจะต้องแยกระหว่างการประกาศรับรองผลกับการสืบสวนไต่สวนหรือไม่นั้น ยืนยันว่าไม่เกี่ยว เพราะ กกต.คำนึงถึงสาเหตุสำคัญ คือการเลือกตั้งมีความสุจริตและเที่ยงธรรมหรือไม่


ส่วนกรณีบริษัทไอทีวี ล่าสุดออกแถลงการณ์ เป็นเอกสารคำชี้แจงโดยมีทั้งเอกสารลงบันทึกการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น และคลิปวิดีโอการประชุมผู้ถือหุ้นที่ถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะ รวมถึงเอกสารที่ยื่นให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะผู้จัดการมรดกจะมีผลต่อการพิจารณาของ กกต.หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนตามอำนาจการตรวจสอบของคณะกรรมการการสืบสวนไต่สวน ซึ่งได้ทำหน้าที่ตามขั้นตอนจะมีการเรียกพยานหรือเอกสารได้ โดย กกต.จะไม่ก้าวก่ายหรือแทรกแซงการทำงาน โดยขั้นตอนของคณะกรรมการไต่สวนฯ มีหน้าที่ให้ดำเนินการให้เสร็จโดยเร็วภายใน 20 วัน หากไม่ทันสามารถขอขยายระยะเวลาได้ครั้งละ 15 วัน ดังนั้นเรื่องนี้จะทำโดยเร็วไม่ได้เพราะจะขัดต่อกระบวนการของกฎหมายที่กำหนด

เมื่อถามอีกว่า มีการเรียกร้องให้ กกต.ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 เพื่อให้ทันต่อการโหวตนายกรัฐมนตรี    นายอิทธิพร กล่าวว่า เรื่องนี้พูดตอนนี้ไม่ได้ เพราะยังไม่ผ่านขั้นตอนการพิจารณา หรือการนำเสนอของใคร ทุกอย่าง กกต.ต้องตัดสินโดยมติในที่ประชุม เมื่อยังไม่มีเรื่องเข้ามาอาจจะไม่เหมาะสมถ้าหากพูดเรื่องนี้ไปก่อน

เมื่อถามย้ำว่า เรื่องนี้จะต้องให้มีผู้ร้องเรียนเข้ามาก่อนหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ถ้าตามกฎหมายไม่จำเป็น เมื่อถามเพิ่มเติมว่า สามารถนำข้อมูลในชั้นของคณะกรรมการสืบสวนมายื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญตามมาตรา 82 ได้หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ตามทฤษฎีข้อมูลหลักฐานผลการตรวจสอบวินิจฉัยของคณะกรรมการสืบสวนเป็นอย่างไรจะต้องเสนอมาตามลำดับ เมื่อมาถึง กกต.จะต้องพิจารณาว่าข้อมูลเพียงพอ หรือว่าจะต้องดำเนินการอะไรเพิ่มเติม หรือสามารถตัดสินได้เลย  

เมื่อถามอีกว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะสามารถพิจารณาได้ทันก่อนการโหวตนายกรัฐมนตรีเพื่อป้องกันปัญหา ประธาน  กกต. กล่าวว่า คิดอย่างนั้นไม่ได้เพราะเรื่องเข้าสู่กระบวนการถ้าเทียบกับระเบียบสืบสวนไต่สวน ก็เหมือนประมวลวิธีพิจารณาความอาญา หากไปเร่งก็จะไม่เป็นธรรม .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก