นำ 150 ส.ส.ก้าวไกล รายงานตัว มั่นใจเสียงโหวตนายกฯ

รัฐสภา 27 มิ.ย.-“พิธา” นำทัพ 150 ส.ส.ก้าวไกล รายงานตัวที่สภา สวมเสื้อ “เราคือผู้แทนราษฎร เรามาจากประชาชน’  ลั่นไม่ห่วงเสียง ส.ว. มั่นใจเสียงพอเป็นนายกฯ แน่นอน ปัดตอบแผนสำรองหากไม่ได้ ปธ.สภาฯ รอผลคุยเพื่อไทยพรุ่งนี้ ด้านเจ้าหน้าที่สภาแห่กรี๊ด

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ส.ส.ก้าวไกล รวม 150 คน เดินทางด้วยรถบัสออกจากตึกไทยซัมมิท มายังอาคารรัฐสภา เพื่อรายงานตัว ส.ส.อย่างพร้อมเพรียงกัน ซึ่ง ส.ส.ทุกคนสวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว สกรีนคำว่า ‘เราคือผู้แทนราษฎร เรามาจากประชาชน’ และใส่สูทหรือแจ็กเก็ตทับอีกหนึ่งชั้น โดยเดินจากบริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าอาคารเข้ามาพร้อมกัน และทันทีที่นายพิธาเดินทางมาถึงชั้น B1 ซึ่งเป็นสถานที่รายงานตัว มีเจ้าหน้าที่สภามารอและส่งเสียงกรี๊ดต้อนรับ ขณะที่เจ้าหน้าที่พนักงานทำความสะอาดของรัฐสภาก็ได้ชูป้าย ‘ยินดีต้อนรับ’ ก่อนที่นายพิธาจะให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนถึงประเด็นร้อนต่างๆ


นายพิธา กล่าวว่า การเข้ามาทำหน้าที่ในสภาครั้งนี้ พรรคก้าวไกลมี ส.ส. 151 คน ซึ่งมากกว่าครั้งที่แล้ว 2 เท่า ก็จะเข้ามาช่วยกันผลักดันงานที่ทำค้างไว้ และผลักดันกฎหมายเพื่อประชาชน ส่วนสาเหตุที่นำ ส.ส.มารายงานตัวในวันนี้ มีหลายเหตุผล เพราะก่อนหน้านี้ตนติดโควิดไม่สามารถมาได้ อีกทั้งวันที่ 27 มิ.ย. มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของไทย ( วันประกาศใช้พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว) จึงเชื่อว่าจะเป็นนิมิตหมายที่ดี

ส่วนกรณี ส.ว. ออกมาประกาศจะไม่โหวตให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ส่วนตัวก็ไม่กังวลใจ เพราะเท่าที่ได้พูดคุยกับหลายคนก็มีดุลพินิจ โหวตเลือกตามบรรทัดฐานที่เคยทำไว้ในปี 2562 ซี่ง ส.ว. เคยพูดไว้ว่าหากสภาล่างสามารถรวมเสียงได้เกิน 251 คน จะไม่ฝืนมติจากสภาล่างหรือมติจากประชาชน ดังนั้นในภาพรวม ส.ว.ทั้ง 250 คน จะยึดตามหลักการนี้ให้มั่น ไม่ใช่เรื่องของบุคคลว่าจะโหวตให้นายพิธาหรือไม่ แต่เป็นเรื่องของหลักการถ้ายึดตามนี้ก็ไม่มีอะไรน่ากังวล


ส่วนกรณีนายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. ระบุจะมี ส.ว. โหวตให้นายพิธาไม่เกิน 5 เสียงนั้น นายพิธา ยืนยันว่า สิ่งที่นางสาวศิริกันยา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ เคยพูดไว้เป็นเรื่องจริงซึ่งพรรคก้าวไกลพยายามพูดคุยทำลายกำแพงระหว่าง 2 สภา จึงมีความคืบหน้าขึ้นเรื่อยๆ เพราะได้ชี้แจงข้อกังวลใจของ ส.ว. ในเชิงหลักการไปแล้ว อีกทั้ง ส.ว. หลายคนก็ยังไม่ได้พูดความคิดของตัวเองออกมากับสื่อมวลชน เพราะรอเวลาอยู่ พร้อมยืนยันอีกครั้งว่ามีจำนวนเสียง ส.ว. พอที่จะโหวตให้ตนเป็นนายกฯ

ทั้งนี้จะลดเพดานการแก้ไขมาตรา 112 เพื่อให้ได้เสียงสนับสนุนจาก ส.ว. หรือจะยืนยันตามนโยบายที่หาเสียงไว้ นายพิธากล่าวว่า การแก้มาตรา 112 เราได้พูดก่อนการเลือกตั้ง และตกผลึกว่าเป็นทางออกให้สังคมไทย เพราะที่ผ่านมามีการใช้มาตรานี้เป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งทางการเมือง รังแกคนเห็นต่างและเยาวชน ซึ่งไม่เป็นผลดีกับสถาบันไหนเลย ดังนั้นการจะรักษาสิ่งที่เรารัก ก็ควรจะมีการแก้ไขตามบริบทของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จะไม่ทำให้เส้นทางการจัดตั้งรัฐบาลต้องสะดุดลง แต่เมื่อมีข้อมูลหลายฝ่าย ก็อาจทำให้คนเข้าใจผิด ว่าแก้ไขก็คือแก้ไข ไม่ใช่ยกเลิก ซึ่งเท่าได้คุยกับวุฒิสภาและหลายฝ่ายก็เข้าใจมากขึ้น ว่าการที่เรารักษาระบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ก็ต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับประเทศไทยในยุคเปลี่ยนผ่าน ซึ่งก็ต้องทำความเข้าใจกันมากขึ้น จึงไม่น่าเป็นอุปสรรคแต่อย่างใด

เมื่อถามว่า มาตรา 112 จะเป็นอุปสรรคทำให้ไปไม่ถึงนายกรัฐมนตรี จะทำอย่างไร นายพิธา กล่าวว่า “ผมคิดว่าถ้าจะมี ก็เป็นสิ่งที่กังวลใจ เพราะเหมือนกับว่าเป็นการเอาเสียงที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนมาปะทะกับสถาบันโดยตรง เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมและเป็นสิ่งที่อันตราย เพราะฉะนั้นอย่าเอาเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้าง เรายังมีอีกหลายเรื่องที่เห็นตรงกันแล้วมาบริการจัดการ ที่เหลือก็เป็นเรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติและรัฐสภา”


เมื่อถามว่าขณะนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีการวินิจฉัยเรื่องการแก้ไขของมาตรา 112 กังวลหรือไม่ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ ส.ว. ไม่โหวตให้ นายพิธา กล่าวว่า ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ากังวลใจ เป็นเรื่องระหว่างศาลรัฐธรรมนูญและอัยการสูงสุด เพราะมองว่าการแก้ไขกฎหมายกฎหมายหนึ่งไม่เท่ากับการล้มล้างการปกครองอย่างที่กล่าวหาที่เกินจริงไปเยอะ เรามีความตั้งใจที่จะรักษาประเทศไทยในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้เป็นหลักให้เรายืนแน่นอยู่ ซึ่งตอนนี้ก็อธิบายกันอยู่เรื่อยๆ คิดว่าไม่ได้เป็นตามกระแสข่าว และการแก้ไขมาตรา 112 พรรคก้าวไกลก็ใช้เป็นนโยบายซึ่งผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว

ขณะเดียวกัน นายพิธายังไม่ขอให้ความเห็น กรณีหยก วัย 15 ปี ที่มีปัญหากับโรงเรียน โดยเฉพาะนโยบายโรงเรียน ทั้งแต่งตัว ทำผม

เมื่อถามว่า สรุปแล้วตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรสรุปแล้วจะเป็นของพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ขอให้รอฟังการประชุมร่วมกันกับพรรคเพื่อไทย และจะมีการแถลงร่วมกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิธา ให้สัมภาษณ์ทั้งหมดเพียง 10 นาที และทันทีที่ผู้สื่อข่าวตะโกนสอบถามว่ามีแผนสำรองหรือไม่ หากตำแหน่งประธานสภาฯ ไม่ได้เป็นของพรรคก้าวไกล นายพิธาปฏิเสธตอบคำถาม และเดินออกจากวงสัมภาษณ์เพื่อเข้าไปรายงานตัวทันที 

ขณะที่บรรยากาศบริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภามีแฟนคลับประมาณ 10 คน สวมเสื้อสีส้ม พร้อมป้ายข้อความระบุว่า “ เป็นกำลังใจให้และยินดีกับท่านนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย และทีมงาน ส.ส.พรรคก้าวไกล ทั้ง 151 ท่าน” ตัวแทนแฟนคลับระบุว่า ขอสนับสนุนให้นายพิธาได้เป็นนายกรัฐมนต  เพราะประชาชนเลือกมาท่านควรที่จะได้นั่งทั้งนายกรัฐมนตรีและประธานสภา ไม่ว่าตำแหน่งไหนเราก็จะสนับสนุน อยู่เคียงข้างพรรคก้าวไกลตลอดไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย