นำ 150 ส.ส.ก้าวไกล รายงานตัว มั่นใจเสียงโหวตนายกฯ

รัฐสภา 27 มิ.ย.-“พิธา” นำทัพ 150 ส.ส.ก้าวไกล รายงานตัวที่สภา สวมเสื้อ “เราคือผู้แทนราษฎร เรามาจากประชาชน’  ลั่นไม่ห่วงเสียง ส.ว. มั่นใจเสียงพอเป็นนายกฯ แน่นอน ปัดตอบแผนสำรองหากไม่ได้ ปธ.สภาฯ รอผลคุยเพื่อไทยพรุ่งนี้ ด้านเจ้าหน้าที่สภาแห่กรี๊ด

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ส.ส.ก้าวไกล รวม 150 คน เดินทางด้วยรถบัสออกจากตึกไทยซัมมิท มายังอาคารรัฐสภา เพื่อรายงานตัว ส.ส.อย่างพร้อมเพรียงกัน ซึ่ง ส.ส.ทุกคนสวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว สกรีนคำว่า ‘เราคือผู้แทนราษฎร เรามาจากประชาชน’ และใส่สูทหรือแจ็กเก็ตทับอีกหนึ่งชั้น โดยเดินจากบริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าอาคารเข้ามาพร้อมกัน และทันทีที่นายพิธาเดินทางมาถึงชั้น B1 ซึ่งเป็นสถานที่รายงานตัว มีเจ้าหน้าที่สภามารอและส่งเสียงกรี๊ดต้อนรับ ขณะที่เจ้าหน้าที่พนักงานทำความสะอาดของรัฐสภาก็ได้ชูป้าย ‘ยินดีต้อนรับ’ ก่อนที่นายพิธาจะให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนถึงประเด็นร้อนต่างๆ


นายพิธา กล่าวว่า การเข้ามาทำหน้าที่ในสภาครั้งนี้ พรรคก้าวไกลมี ส.ส. 151 คน ซึ่งมากกว่าครั้งที่แล้ว 2 เท่า ก็จะเข้ามาช่วยกันผลักดันงานที่ทำค้างไว้ และผลักดันกฎหมายเพื่อประชาชน ส่วนสาเหตุที่นำ ส.ส.มารายงานตัวในวันนี้ มีหลายเหตุผล เพราะก่อนหน้านี้ตนติดโควิดไม่สามารถมาได้ อีกทั้งวันที่ 27 มิ.ย. มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของไทย ( วันประกาศใช้พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว) จึงเชื่อว่าจะเป็นนิมิตหมายที่ดี

ส่วนกรณี ส.ว. ออกมาประกาศจะไม่โหวตให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ส่วนตัวก็ไม่กังวลใจ เพราะเท่าที่ได้พูดคุยกับหลายคนก็มีดุลพินิจ โหวตเลือกตามบรรทัดฐานที่เคยทำไว้ในปี 2562 ซี่ง ส.ว. เคยพูดไว้ว่าหากสภาล่างสามารถรวมเสียงได้เกิน 251 คน จะไม่ฝืนมติจากสภาล่างหรือมติจากประชาชน ดังนั้นในภาพรวม ส.ว.ทั้ง 250 คน จะยึดตามหลักการนี้ให้มั่น ไม่ใช่เรื่องของบุคคลว่าจะโหวตให้นายพิธาหรือไม่ แต่เป็นเรื่องของหลักการถ้ายึดตามนี้ก็ไม่มีอะไรน่ากังวล


ส่วนกรณีนายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. ระบุจะมี ส.ว. โหวตให้นายพิธาไม่เกิน 5 เสียงนั้น นายพิธา ยืนยันว่า สิ่งที่นางสาวศิริกันยา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ เคยพูดไว้เป็นเรื่องจริงซึ่งพรรคก้าวไกลพยายามพูดคุยทำลายกำแพงระหว่าง 2 สภา จึงมีความคืบหน้าขึ้นเรื่อยๆ เพราะได้ชี้แจงข้อกังวลใจของ ส.ว. ในเชิงหลักการไปแล้ว อีกทั้ง ส.ว. หลายคนก็ยังไม่ได้พูดความคิดของตัวเองออกมากับสื่อมวลชน เพราะรอเวลาอยู่ พร้อมยืนยันอีกครั้งว่ามีจำนวนเสียง ส.ว. พอที่จะโหวตให้ตนเป็นนายกฯ

ทั้งนี้จะลดเพดานการแก้ไขมาตรา 112 เพื่อให้ได้เสียงสนับสนุนจาก ส.ว. หรือจะยืนยันตามนโยบายที่หาเสียงไว้ นายพิธากล่าวว่า การแก้มาตรา 112 เราได้พูดก่อนการเลือกตั้ง และตกผลึกว่าเป็นทางออกให้สังคมไทย เพราะที่ผ่านมามีการใช้มาตรานี้เป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งทางการเมือง รังแกคนเห็นต่างและเยาวชน ซึ่งไม่เป็นผลดีกับสถาบันไหนเลย ดังนั้นการจะรักษาสิ่งที่เรารัก ก็ควรจะมีการแก้ไขตามบริบทของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จะไม่ทำให้เส้นทางการจัดตั้งรัฐบาลต้องสะดุดลง แต่เมื่อมีข้อมูลหลายฝ่าย ก็อาจทำให้คนเข้าใจผิด ว่าแก้ไขก็คือแก้ไข ไม่ใช่ยกเลิก ซึ่งเท่าได้คุยกับวุฒิสภาและหลายฝ่ายก็เข้าใจมากขึ้น ว่าการที่เรารักษาระบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ก็ต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับประเทศไทยในยุคเปลี่ยนผ่าน ซึ่งก็ต้องทำความเข้าใจกันมากขึ้น จึงไม่น่าเป็นอุปสรรคแต่อย่างใด

เมื่อถามว่า มาตรา 112 จะเป็นอุปสรรคทำให้ไปไม่ถึงนายกรัฐมนตรี จะทำอย่างไร นายพิธา กล่าวว่า “ผมคิดว่าถ้าจะมี ก็เป็นสิ่งที่กังวลใจ เพราะเหมือนกับว่าเป็นการเอาเสียงที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนมาปะทะกับสถาบันโดยตรง เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมและเป็นสิ่งที่อันตราย เพราะฉะนั้นอย่าเอาเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้าง เรายังมีอีกหลายเรื่องที่เห็นตรงกันแล้วมาบริการจัดการ ที่เหลือก็เป็นเรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติและรัฐสภา”


เมื่อถามว่าขณะนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีการวินิจฉัยเรื่องการแก้ไขของมาตรา 112 กังวลหรือไม่ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ ส.ว. ไม่โหวตให้ นายพิธา กล่าวว่า ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ากังวลใจ เป็นเรื่องระหว่างศาลรัฐธรรมนูญและอัยการสูงสุด เพราะมองว่าการแก้ไขกฎหมายกฎหมายหนึ่งไม่เท่ากับการล้มล้างการปกครองอย่างที่กล่าวหาที่เกินจริงไปเยอะ เรามีความตั้งใจที่จะรักษาประเทศไทยในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้เป็นหลักให้เรายืนแน่นอยู่ ซึ่งตอนนี้ก็อธิบายกันอยู่เรื่อยๆ คิดว่าไม่ได้เป็นตามกระแสข่าว และการแก้ไขมาตรา 112 พรรคก้าวไกลก็ใช้เป็นนโยบายซึ่งผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว

ขณะเดียวกัน นายพิธายังไม่ขอให้ความเห็น กรณีหยก วัย 15 ปี ที่มีปัญหากับโรงเรียน โดยเฉพาะนโยบายโรงเรียน ทั้งแต่งตัว ทำผม

เมื่อถามว่า สรุปแล้วตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรสรุปแล้วจะเป็นของพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ขอให้รอฟังการประชุมร่วมกันกับพรรคเพื่อไทย และจะมีการแถลงร่วมกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิธา ให้สัมภาษณ์ทั้งหมดเพียง 10 นาที และทันทีที่ผู้สื่อข่าวตะโกนสอบถามว่ามีแผนสำรองหรือไม่ หากตำแหน่งประธานสภาฯ ไม่ได้เป็นของพรรคก้าวไกล นายพิธาปฏิเสธตอบคำถาม และเดินออกจากวงสัมภาษณ์เพื่อเข้าไปรายงานตัวทันที 

ขณะที่บรรยากาศบริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภามีแฟนคลับประมาณ 10 คน สวมเสื้อสีส้ม พร้อมป้ายข้อความระบุว่า “ เป็นกำลังใจให้และยินดีกับท่านนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย และทีมงาน ส.ส.พรรคก้าวไกล ทั้ง 151 ท่าน” ตัวแทนแฟนคลับระบุว่า ขอสนับสนุนให้นายพิธาได้เป็นนายกรัฐมนต  เพราะประชาชนเลือกมาท่านควรที่จะได้นั่งทั้งนายกรัฐมนตรีและประธานสภา ไม่ว่าตำแหน่งไหนเราก็จะสนับสนุน อยู่เคียงข้างพรรคก้าวไกลตลอดไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมสึก คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

15 พ.ค.- เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมลาสิกขาด้วยตัวเอง หลังถูกเค้นสอบนานกว่า 8 ชม. เบื้องต้นยอมให้การแล้ว คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ช่วงหนึ่งของการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อุ้มพระพุทธรูป ปางสมาธิองค์สีดำ ถือเข้าไปไปยังห้องสอบสวนที่สอบปากคำพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เจ้าคณะภาค 14 สังเกตพบว่ามีการนำพระพุทธรูปวางไว้บนโต๊ะบริเวณด้านหน้าของ พระธรรมวชิรานุวัตร โดยมีรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า พระธรรมวชิรานุวัตร ยอมทำพิธีลาสิกขาบทด้วยตัวเอง แต่ยังไม่เริ่มพิธีเนื่องจากรอชุดเสื้อผ้าเปลี่ยนหลังทำพิธีลาสิกขาบทแล้วเสร็จ ส่วนการสอบปากคำ เบื้องต้นทางพระธรรมวชิรานุวัตร ยอมให้การกับพนักงานสอบสวนแล้ว และให้การไปในทิศทางที่ดี ซึ่งปรากฏว่าทางพระธรรมวชิรานุวัตร ได้โอนเงินไปให้กับผู้ต้องหาที่ 2 เป็นจำนวนเงินหลักร้อยล้านบาท ในช่วงปี 2564 ซึ่งข้อมูลนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำหาข้อเท็จจริง ว่ามีการทำธุรกรรมด้วยสาเหตุใด แต่พบบางส่วนเข้าไปพัวพันกับเว็บการพนัน .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

นายกฯ ร่วมพิธีวางพวงมาลาอนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน

เวียดนาม 16 พ.ค.-นายกฯ ร่วมพิธีวางพวงมาลาอนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน รวมทั้งสุสานโฮจิมินห์ เน้นย้ำไทยให้ความสำคัญประวัติศาสตร์และมิตรภาพกับเวียดนาม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมพิธีวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานสำคัญที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของนักปฏิวัติผู้เสียสละชีวิต เมื่อปี ค.ศ. 1940 ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของขบวนการต่อสู้ของเวียดนามภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ โดยตั้งอยู่บนถนนบั๊กเซิน (Bạch Sơn Street) ในพื้นที่ใกล้กับจัตุรัสบาดิ่งห์ โดยออกแบบในสไตล์ศิลปะสังคมนิยม ที่ประกอบด้วยกลุ่มรูปปั้นนักรบปฏิวัติ แสดงถึงความกล้าหาญและความสามัคคีของนักต่อสู้เพื่อเอกราชของเวียดนาม หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางต่อไปยังสุสานโฮจิมินห์ ตั้งอยู่ที่จัตุรัสบาดิ่งห์ สถานที่ซึ่งอดีตผู้นำโฮจิมินห์เคยอ่านคำประกาศเอกราชของเวียดนามในปี ค.ศ.1945 ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมทรงอนุสรณ์สถาน โดยใช้หินอ่อนและหินแกรนิตคุณภาพสูง ผสมผสานระหว่างศิลปะสังคมนิยม กับเอกลักษณ์เวียดนาม โดยโฮจิมินห์เป็นบุคคลสำคัญของเวียดนาม ผู้ได้รับการยกย่องในฐานะ “บิดาแห่งชาติ” ที่นำพาประเทศสู่การประกาศเอกราช และเป็นผู้ประกาศก่อตั้งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ทั้งนี้ การเข้าร่วมพิธีวางพวงมาลา ณ สถานที่สำคัญของเวียดนามครั้งนี้ แสดงถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและเวียดนาม ตลอดจนการให้ความสำคัญต่อประวัติศาสตร์และการเมืองของประเทศพันธมิตรที่สำคัญของไทยอย่างเวียดนาม จากนั้น เวลา 10.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะจะเข้าร่วมประชุมหารือทวิภาคีกลุ่มเล็ก กับนายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ณ ทำเนียบรัฐบาล.-314.-สำนักข่าวไทย

“เปรมชัย” นั่งวีลแชร์ เข้ามอบตัว กรณีตึกกำลังสร้าง สตง. ถล่ม

กทม. 16 พ.ค.-“เปรมชัย” ผู้บริหารบริษัทอิตาเลียนไทย นั่งวีลแชร์ เข้ามอบตัวพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ กรณีตึกกำลังสร้าง สตง. ถล่ม ด้านวิศวกร ผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง ทยอยเข้ามอบตัวเช่นกัน เวลา 08.00 น. นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้ประมูลโครงการก่อสร้างหลัก อาคาร สตง.แห่งใหม่ ซึ่งพังถล่มเมื่อวันที่ 28 มีนาคม จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ฐาน “เป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแซมหรือรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้นๆ โดยประการที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย” อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 227 , 238 นายเปรมชัย นั่งวีลแชร์ มีพยาบาลส่วนตัวประกบ เดินทางมาที่ สน.บางซื่อ พร้อมทนายความและญาติ เพื่อเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้บริหารบริษัทกิจการร่วมค้า รวมถึงกลุ่มวิศวกร อีก 13 […]

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]