ทำเนียบรัฐบาล 26 พ.ค.-นายกฯ ยืนยันสานต่อความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับโปแลนด์ กระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การศึกษา และกรอบพหุภาคี
นายวัลแดมาร์ ดูบายอฟสกี (H.E. Mr. Waldemar Dubaniowski) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐโปแลนด์ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสพ้นจากหน้าที่ โดยนายกรัฐมนตรีชื่นชมเอกอัครราชทูตโปแลนด์ฯ ที่มีบทบาทส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทย-โปแลนด์ตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง เพิ่มพูนความร่วมมือในทุกด้าน ทั้งนี้ ไทยยืนยันที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์กับโปแลนด์ในมิติต่าง ๆ ให้ใกล้ชิดทุกด้านต่อไป
นายกรัฐมนตรี ยินดีที่ไทยเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวของชาวโปแลนด์ รวมถึงกีฬามวยไทยยังได้รับความนิยมในโปแลนด์ และจะมีการแข่งขันมวยไทยใน European Games 2023 ซึ่งโปแลนด์จะเป็นเจ้าภาพด้วย ด้านเอกอัครราชทูตโปแลนด์ฯ แสดงความชื่นชมในกีฬามวยไทยเป็นการส่วนตัว โดยได้มีโอกาสรับชมการแข่งขันมวยไทยในหลายโอกาส พร้อมชื่นชมความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของโปแลนด์ ซึ่งนักศึกษาไทยนิยมเดินทางไปศึกษาต่อด้านแพทยศาสตร์ในโปแลนด์มากขึ้น ซึ่งค่าใช้จ่ายเพื่อศึกษาการแพทย์ของโปแลนด์มีราคาที่เหมาะสม จึงได้รับความนิยมมากขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวขอรับการสนับสนุนจากโปแลนด์ ให้ไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialised Expo ในปี 2028 ที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งจะเป็นเวทีให้นานาประเทศได้นำเสนอทางออก และแลกเปลี่ยนความร่วมมือสู่ความยั่งยืน
เอกอัครราชทูตโปแลนด์ฯ กล่าวว่า ไทยและโปแลนด์มีความสัมพันธ์ยาวนาน มีความร่วมมือครอบคลุมหลากหลาย นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้เฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน เมื่อปี 2565 อีกด้วย
โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายยินดีที่การค้าระหว่างไทยและโปแลนด์มีมูลค่ารวมกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2022 รวมถึงการลงทุนระหว่างกันมีมูลค่าสูง และมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยนายกรัฐมนตรียินดีที่หน่วยงาน Polish Investment and Trade Agency (PAIH) ได้จัดตั้งสำนักงานในไทย และในโอกาสครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตฯ ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างกัน เพื่อเป็นกรอบความร่วมมือด้านการส่งเสริมการค้าและการลงทุน โดยนักลงทุนจากไทยและโปแลนด์ต่างสนใจลงทุนซึ่งกันและกัน
ทั้งสองฝ่ายยินดีต่อความร่วมมือระหว่างไทยกับโปแลนด์ในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ยูเครน โดยไทยได้มอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผ่านช่องทางต่างๆ รวมแล้วกว่า 20 ล้านบาท ด้านโปแลนด์ฯ ชื่นชมรัฐบาลไทยที่ให้ความสำคัญต่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ยูเครน พร้อมหวังว่าเหตุการณ์ความขัดแย้งนี้จะเกิดสันติสุขโดยเร็ว.-สำนักข่าวไทย