fbpx

“เศรษฐา” ไม่หวั่น หลายพรรครุมโจมตีนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล

บางนา 10 เม.ย.-“เศรษฐา” นำทีมเพื่อไทย ลงพื้นที่บางนาช่วยผู้สมัคร ส.ส.หาเสียง ย้ำไม่หวั่น หลายพรรครุมโจมตีนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล บอกขอบคุณยิ่งช่วยประชาสัมพันธ์ให้ ระบุไม่รู้จัก “ไพบูลย์” คือใคร หลังประกาศไม่ขอร่วมงานเพื่อไทย

นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย แกนนำพรรค ลงพื้นที่หาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตพระโขนง-บางนา เบอร์ 3 นายกวีวงศ์ อยู่วิจิตร ที่ซอยสุขุมวิท 93 โดยนั่งรถ 2 แถวแดง ไปพบปะประชาชนและรับฟังปัญหาในชุมชนนิรันดร์คอนโด


ช่วงหนึ่งนายเศรษฐา ได้ย้ำนโยบายเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ให้กันคนที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป จะได้รับทุกคน ซึ่งก็มีเสียงปรบมือจากชาวบ้านที่ฟังการปราศรัย ก่อนถามว่าในครอบครัวมีกี่คนก็ได้รับกันหมด ดังนั้นถ้าครอบครัวมี 5 คนก็ 5 หมื่นบาท ในตามภูมิลำเนาตามบัตรประชาชน และต้องใช้ให้หมดภายใน 6 เดือน ใช้จ่ายในรัศมี 4 กิโลเมตร เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน โดยห้ามซื้อสิ่งของอบายมุข ซึ่งตนหวังว่าจะโดนใจประชาชน ตนคิดว่าโดนใจแน่นอน เพราะพรรคอื่นๆ ออกมาโจมตีนโยบายนี้อย่างเสียๆหายๆ เนื่องจากเขาคาดไม่ถึง ที่เราออกนโยบายนี้มาโดนใจประชาชน พร้อมขอบคุณทุกพรรคที่วิพากษ์วิจารณ์กันเยอะๆ เป็นการช่วยประชาสัมพันธ์ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยด้วย

นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังมีอีกเรื่องที่ตนคับแค้นใจ เรื่องการเกณท์ทหาร ซึ่งคนที่อยากเป็นก็มี ส่วนคนที่ไม่อยากเป็นก็มีเช่นกัน จึงมองว่า ถึงเวลาแล้ว ที่เราต้องมีอิสรภาพ สมัครใจเกณฑ์ทหาร ไม่ใช่การบังคับ เพราะทหาร เป็นสถาบันที่มีเกียรติ การบังคับเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง อย่าให้เขามาพูดว่าเราไม่รักชาติ หรือชังชาติ เพราะการแสดงออกถึงการรักชาติ ไม่จำเป็นต้องเป็นทหารอย่างเดียว แต่ทุกอาชีพแสดงออกถึงความรักชาติได้


จากนั้นนายเศรษฐา และคณะพรรคเพื่อไทย ได้นำนั่งรถ 2 แถวแดง เดินทางมาพบปะประชาชนและรับฟังความคิดเห็นการพัฒนาพื้นที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวติดแม่น้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่บริเวณท่าน้ำสรรพาวุธ ติดกับวัดบางนานอก โดยนายเศรษฐา ได้ย้ำนโยบายเงินดิจิทัล เป็นครั้งที่ 2 กับชาวบ้านว่า ที่ฝ่ายตรงข้ามออกมาโจมตี เพราะกลัวแพ้ พร้อมขอประชาชน อย่ายอมให้ใครมาด้อยค่านโยบายนี้

ภายหลังการพบปะประชาชน นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับปัญหาที่พบเห็นในวันนี้ (10 เม.ย.) ว่าสิ่งสำคัญคือต้องพัฒนาเรื่องการเดินทางข้ามเขต เพราะประชาชนต้องไปรักษาตัวตามสิทธิการรักษานอกเขตอยู่ นโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่จะยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค จะทำให้ชีวิตประชาชนดีขึ้น และอีกปัญหาที่ได้รับฟังคือเรื่องยาเสพติด ยืนยันพรรคเพื่อไทยไม่เอากัญชา เรายึดหลักใช้กัญชาเพื่อการแพทย์อย่างเดียว

เมื่อถามถึงกรณีคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์ นายเกียรติ สิทธีอมร ตั้ง 5 คำถามเกี่ยวกับนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ทั้งที่มาของเงิน และมองว่าเป็นการแจกเงินแบบเบี้ยหัวแตก นายเศรษฐา กล่าวว่าการที่คนอื่นพูดถึงนโยบายถือเป็นเรื่องดีเราได้ประชาสัมพันธ์ แต่เรื่องคำถามของพรรคประชาธิปัตย์นั้น ตนยังไม่เห็นเพราะอยู่ระหว่างลงพื้นที่ และมั่นใจว่าจะสามารถชี้แจงได้ทุกประเด็น ที่มีการตั้งข้อสังเกตเป็นเบี้ยหัวแตกนั้น นโยบายปัจจุบันคือให้ทีละ 500 700 แต่ของเราแจกทีเดียวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนที่มีการตั้งขอสังเกตเรื่องหุ้นของแสนสิรินั้น มองว่ายิ่งไปกันใหญ่ไม่ได้เกี่ยวกัน ตนไม่ห่วงเรื่องเหล่านี้เพราะสามารถชี้แจงได้


ส่วนกรณีที่รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ประกาศไม่จับมือกับพรรคเพื่อไทย เพราะกังวลในนโยบายว่า ไม่ได้ฟัง และไม่ทราบว่าคุณไพบูลย์คือใคร ณ จุดนี้ หน้าที่ตนคือเผยแพร่นโยบายพบปะพี่น้องประชาชน รับฟังความคิดเห็นประชาชน ถ้ามีการให้ร้าย หรือ แต่งเสริมเติมแต่งนโยบายของพรรคตน ตนก็คงต้องดำเนินการต่อไป ซึ่งเรื่องใหญ่มากกว่านั้น คือการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ที่จะถึงนี้

นายเศรษฐา ยังกล่าวต่อว่า เป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ ที่มีผู้วิจารณ์ เพราะเหมือนช่วยประชาสัมพันธ์นโยบาย เพราะเมื่อถามมา ก็จะได้ตอบไป พี่น้องประชาชนจะได้เป็นผู้รับฟังและตัดสินในวันเลือกตั้งต่อไป

จากนั้นนายเศรษฐา และคณะพรรคเพื่อไทย เดินทางต่อไปยังศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย เขตสวนหลวง-ประเวศ (หนองบอน) ซอยพัฒนาการ 35 เขตสวนหลวง เพื่อพบปะผู้ประกอบการ SME ร่วมพูดคุยหัวข้อ “สวนหลวง-ประเวศ แลนด์สไลด์ สะเทือนถึงดวงดาวปลดปล่อยศักยภาพ เศรษฐกิจไทย” โดยมี คณะทำงานด้านนโยบายเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตสวนหลวง เขตประเวศ (เฉพาะแขวงหนองบอน) นายธกร เลาหพงศ์ชนะ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตประเวศ (ยกเว้นแขวงหนองบอน), เขตสะพานสูง (เฉพาะแขวงทับช้าง) นายอรรมรัตน์ นิติพน ร่วมพูดคุย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เศร้ารับวันแรงงาน! โรงงานประกาศปิดกิจการกะทันหัน

พนักงานโรงงานผลิตกระจกเก่าแก่ใน อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ยื่นคำร้องต่อสำนักงานสวัสดิการฯ จ.สมุทรปราการ ให้นายจ้างจ่ายชดเชยตามกฎหมาย หลังโรงงานติดประกาศปิดกิจการและเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด

“อธิบดีกรมโรงงาน” ลาออกแล้ว ไม่รอเกษียณ 30 ก.ย.นี้

“จุลพงษ์ ทวีศรี” อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ยื่นหนังสือลาออก ไม่รอเกษียณ 30 ก.ย.นี้ เจ้าตัวเผยน่าจะมีความเหมาะสมที่สุดแล้ว ผู้บริหารจะได้หาคนใหม่มาปฏิบัติหน้าที่แทน

ข่าวแนะนำ

ความหวังแรงงานไทย ยกระดับค่าจ้างขั้นต่ำสู่ค่าจ้างเพื่อชีวิต

ทุกปีในวันแรงงาน จะมีการรวมตัวของสภาองค์การลูกจ้างและพัฒนาแรงงาน กลุ่มต่างๆ เพื่อยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล ซึ่งปีนี้แรงงานหวังจะมีความมั่นคงในด้านระบบสวัสดิการ และการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น

“อธิบดีกรมโรงงาน” ลาออกแล้ว ไม่รอเกษียณ 30 ก.ย.นี้

“จุลพงษ์ ทวีศรี” อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ยื่นหนังสือลาออก ไม่รอเกษียณ 30 ก.ย.นี้ เจ้าตัวเผยน่าจะมีความเหมาะสมที่สุดแล้ว ผู้บริหารจะได้หาคนใหม่มาปฏิบัติหน้าที่แทน

เศร้ารับวันแรงงาน! โรงงานประกาศปิดกิจการกะทันหัน

พนักงานโรงงานผลิตกระจกเก่าแก่ใน อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ยื่นคำร้องต่อสำนักงานสวัสดิการฯ จ.สมุทรปราการ ให้นายจ้างจ่ายชดเชยตามกฎหมาย หลังโรงงานติดประกาศปิดกิจการและเลิกจ้างพนักงานทั้งหมด

แรงงานทั่วไทยเดินขบวนเรียกร้องสิทธิจากรัฐบาล

วันที่ 1 พ.ค. ของทุกปี เป็นวันสำคัญของผู้ใช้แรงงานทั่วโลก สำหรับประเทศไทยในปีนี้ มีการจัดกิจกรรมเสนอข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาลหลายจุด โดยพื้นที่หลักอยู่ที่ตลอดแนวถนนราชดำเนิน และลานคนเมือง