โซล 14 พ.ค. – อี แจ-มยอง ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ซึ่งเป็นตัวเก็งเต็งหนึ่งที่จะชนะการเลือกตั้ง งัดกลยุทธ์หาเสียงชูนโยบาย ‘ลดเวลาทำงานต่อสัปดาห์’ ให้เหลือแค่ 4.5 วัน หวังให้เกิด work-life balance ดึงคะแนนเสียงคนทำงานและคนรุ่นใหม่
อี แจ-มยอง จากพรรคประชาธิปไตย พรรคฝ่ายค้านแนวเสรีนิยม และเป็นตัวเต็งในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 มิถุนายนนี้ ได้ชูนโยบายหาเสียงที่กำลังถูกกล่าวขานถึงอย่างมาก นั่นคือ การปรับชั่วโมงการทำงานให้เหลือ 4.5 วันต่อสัปดาห์ หรือจาก 40 ชั่วโมงเหลือ 36 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยที่ไม่ลดค่าจ้าง หวังเอาใจกลุ่มผู้มีสิทธิ์ออกเสียงคนวัยทำงานที่ต้องการสร้างสมดุลการใช้ชีวิต หรือ เวิร์ค-ไลฟ์-บาลานซ์ (work-life balance)
ส่วนพรรคพลังประชาชนซึ่งเป็นพรรครัฐบาล เสนอมาตรการไม่ลดชั่วโมงการทำงานรวม แต่เปลี่ยนให้ทำงานเพิ่มวันละ 1 ชั่วโมง ในวันจันทร์-พฤหัสบดี เพื่อให้ได้หยุดครึ่งวันในวันศุกร์ โดยไม่บังคับใช้กับทุกบริษัท แต่เปิดทางให้ไปตัดสินใจกันเอง
นโยบายลดเวลาทำงาน ทำให้ภาคธุรกิจเริ่มแสดงความกังวล โดยเฉพาะต่อข้อเสนอของพรรคประชาธิปไตย โดยชี้ว่า การลดชั่วโมงทำงานโดยไม่เพิ่มผลิตผล จะยิ่งสร้างภาระให้ธุรกิจ โดยเฉพาะบริษัทขนาดกลางและเล็ก ที่เผชิญปัญหาขาดแคลนแรงงาน และมีต้นทุนเพิ่ม อย่าไรก็ตาม สหภาพแรงงานหลักของประเทศ ได้ออกมาสนับสนุนแนวคิดนี้ พร้อมชี้ว่าบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่ง อย่าง เอสเค เทเลคอม (SK Telecom), โพสโค (POSCO) บริษัทผลิตเหล็กกล้า และ ซัมซุม (Samsung) ต่างก็มีนโยบายลักษณะนี้อยู่แล้ว เช่น หยุดทุกวันศุกร์ เดือนละ 2 ครั้ง
ผู้เชี่ยวชาญมองว่า การเปลี่ยนผ่านเพื่อไปสู่การลดเวลาทำงานต่อสัปดาห์ได้จริงอาจต้องใช้เวลา 4-5 ปี เหมือนการเปลี่ยนจากทำงานสัปดาห์ละ 6 วัน เป็น 5 วันในอดีต อีกทั้งต้องได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างแข็งขัน เช่น เงินอุดหนุน หรือการลดภาษี ที่จะช่วยให้นโยบายนี้เป็นจริงขึ้นมาได้เร็วขึ้น.-815.-สำนักข่าวไทย