ทำเนียบรัฐบาล 28 มี.ค.-นายกฯ ยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญกับการวิจัย พัฒนาการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ป้องกันประเทศ เพิ่มขีดความสามารถการพัฒนาอาวุธ ไม่ต้องพึ่งพาหรือจัดซื้อจากต่างประเทศ
ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยพล.อ.ชูชาติ บัวขาว ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ พล.อ.จิรวิทย์ เดชจรัสศรี ผู้อำนวยการศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร พล.ท.พรมงคล พึ่งเสมา ผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ และพ.อ.ชัชพงษ์ พันธุ์พยัคฆ์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากิจการ เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดนิทรรศการ “อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ” โดยสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ซึ่งเป็นการนำเสนอผลการดำเนินงานด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศในรูปแบบการจัดนิทรรศการ เพื่อเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ให้กับส่วนราชการ หน่วยงานต่าง ๆ และประชาชนทั่วไปทราบถึงผลการดำเนินงานที่สำคัญเกี่ยวกับการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์รายการที่จำเป็น เพื่อความพร้อมรบและการสนับสนุนให้ภาคเอกชนดำเนินกิจการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เพื่อผลิตใช้ในราชการและการพาณิชย์ เพื่อให้ทุกภาคส่วนเกิดความเข้าใจและมีทัศนคติที่ดีต่อทหารมากขึ้น รวมทั้งเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ และมีศักยภาพในการแข่งขันในระดับสากลต่อไป
นายกรัฐมนตรีได้ทดลองขับเคลื่อนหุ่นยนต์ตรวจการณ์ขนาดพกพา รุ่นหนูนา เวอร์ชั่น 4 และหุ่นยนต์เก็บกู้วัตถุระเบิด รุ่นดิเอ็มไพร์ เวอร์ชั่น 4 พร้อมกล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการวิจัย พัฒนาการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ที่นำมาป้องกันประเทศ และสามารถนำมาทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ นำไปใช้งานได้จริงในกองทัพ ด้วยราคาที่ต่ำกว่าการจัดซื้อจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นการยกระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ไปสู่เป้าหมาย ที่ช่วยสร้างผลผลิตและนำไปใช้ในงานด้านการป้องกันประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ต้องเสริมสร้างการวิจัยและพัฒนา ควบคู่ไปกับการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และมิตรประเทศ สร้างองค์ความรู้และแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี เพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์และยุทธภัณฑ์ พร้อมส่งเสริมนวัตกรรมด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศโดยหน่วยงานภาครัฐต่อไป.-สำนักข่าวไทย