4 พรรคโชว์วิสัยทัศน์แก้จน

มธ. ท่าพระจันทร์ 21 มี.ค.-ตัวแทนพรรคการเมืองโชว์นโยบายสู้ศึกเลือกตั้ง 66 “ เผ่าภูมิ” มั่นใจนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทไม่ทำให้เกิดเงินเฟ้อ”ศิรกัญญา” ชู 3แนวคิด การเมืองดี-ปากท้องดี-มีอนาคต ขณะที่ “อรรถวิทย์” เน้นการแข่งขันตลาดเสรี ลดการผูกขาด สร้างรายได้เพิ่ม


คณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดงานสัมมนา”ถก-แถลง: นโยบายพรรคการเมืองในสนามเลือกตั้ง 66″ โดยมีนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายอรรถวิชซ์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคพรรคชาติพัฒนากล้า ร่วมวงเสนา โดยนายเผ่าภูมิ กล่าวว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทยสะท้อนความเป็นทุนนิยม แต่เป็นทุนนิยมที่เท่าเทียม เรายืนอยู่ฝั่งเดียวกับการแข่งขันเสรี และยืนอยู่ตรงข้ามกับการผูกขาด เรายืนอยู่ฝั่งเดียวกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูง ซึ่งเป็นการเจริญเติบโตที่เท่าเทียมและทั่วถึง

“พรรคเพื่อไทยมุ่งสร้างรายได้ให้กับประชาชน และมูกเป็นนักการตลาดระหว่างประเทศในการหาประเทศเพื่อสร้างตลาดหารายได้ให้กับประชาชน อีกทั้งพรรคเพื่อไทยเชื่อปรัชญาการลดน้ำที่รากในการออกแบบนโยบายเศรษฐกิจ คือการสร้างนโยบายจากฐานที่สุด ในกลุ่มประชาชนที่มีรายได้น้อย โดยยังไม่มองไปถึงกลุ่มทุน ขณะเดียวกันก็เห็นด้วยในนโยบายระยะสั้นช่วงที่ประชาชนยังไม่สามารถยืนด้วยตัวเองได้ แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับการใช้สวัสดิการในระยะยาว เหล่านี้เป็นทิศทางที่พรรคเพื่อไทยใช้ในการออกนโยบาย” นายเผ่าภูมิ กล่าว


นายเผ่าภูมิ กล่าวถึงนโยบายค่าแรง 600 บาท คือเป้าหมายปี2570 หมายถึงทุกปีจะมีการปรับขึ้นค่าแรง แต่จะดูจาก4 ปัจจัย คือ 1.เงินเฟ้อ ผลิตภาพแรงงาน GDP  และความคาดหวังของจีดีพีในอนาคต โดยการขึ้นค่าแรงจะดูตามสภาวะเศรษฐกิจไม่ให้กระทบกับนายจ้าง เป็นการปรับขึ้นค่าแรงเมื่อนายจ้างพร้อม อีกทั้งการขึ้นค่าแรงจะต้องมาพร้อมกับการเพิ่มทักษะรายงาน และมีการจับคู่แรงงานกับนายจ้างที่ยังหากันไม่เจอ ส่วนหนึ่งได้จากนโยบายหนึ่งครอบครัวหนึ่งซอฟพาวเวอร์

“มีคำถามว่าการขึ้นค่าแรงจะกระทบกับค่าครองชีพหรือไม่ ตอบได้เลยว่าไม่ เพราะการกระทบจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อค่าแรงอยู่สูงกว่าค่าครองชีพ ยิ่งเพิ่มค่าแรงค่าของชีพก็จะยิ่งสูง แต่ในกรณีของประเทศไทยไม่ใช่เพราะค่าครองชีพอยู่เหนือกว่าค่าแรงขั้นต่ำค่อนข้างเยอะ ทำให้การขึ้นค่าแรงไม่ส่งผลกระทบกับค่าครองชีพ” นายเผ่าภูมิ กล่าว

นายเผ่าภูมิ กล่าวถึง เงินเดือนขั้นต่ำปริญญาตรี ซึ่งจะปรับขึ้นจากภาครัฐเพราะไม่สามารถทำให้ภาคเอกชนทั้งหมดได้ และการปรับเงินเดือนข้าราชการของภาครัฐก็จะส่งผลไปยังภาคเอกชนทันที ทำให้เกิดการแข่งขันในตลาดแรงงานและทำให้ค่าจ้างในภาคเอกชนเพิ่มสูงขึ้นตามมาด้วย โดยตั้งเป้าว่าเงินเดือนปริญญาตรีภายในปี 2570 ต้องไม่ต่ำกว่า 25,000 บาทต่อเดือน ซึ่งในภาครัฐจะค่อย ๆ ปรับขึ้นตามสภาวะเศรษฐกิจเพื่อไม่ให้กระทบกับสถานการณ์เงินการคลังของประเทศด้วย


ด้าน น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า พรรคก้าวไกลมีเป้าหมายสามเรื่อง คือ 1.การเมืองดี คือการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้ง ปฏิรูปกองทัพ ไม่ให้เค้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร การกระจายอำนาจไปสู่ประชาชน และการต่อต้านคอรัปชั่น 2.ปากท้องดี คือ ประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทุกปีปีแรกขึ้นทันที 450 บาทหลังจากนั้นจะดูตามสภาวะเศรษฐกิจประกอบกัน  สร้างแต้มต่อให้กับเอสเอ็มอี ปลดล็อคเรื่องที่ดินทับซ้อนมีกองทุนให้กับประชาชนสร้างทางเลือกให้กับประชาชน รวมถึงการปลดหนี้ให้กับเกษตรกร  ด้วยกันเอาที่ดินมาใช้ประโยชน์เช่นปลูกไม้ยืนต้นสร้างรายได้  และต้องมีสสวัสดิการที่ดีตั้งแต่เกิดจนแก่ และ 3. การมีอนาคต ทำให้การศึกษาไทยก้าวหน้า สิ่งแวดล้อมลดสภาวะโลกร้อนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จัดทำโครงการคาร์บอนเครดิต และการสร้างกำลังแรงงาน กับอุตสาหกรรมใหม่

ขณะที่นายอรรถวิทย์ กล่าวว่า ชาติพัฒนากล้าถือเป็นพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งจะสร้างภาพในแนวเสรีนิยมประชาธิปไตย เน้นเรื่องการแข่งขันตลาดเสรีมุ่ง ลดการผูกขาด เพิ่มรายได้ลดรายจ่าย ทำให้เกิดการแข่งขันที่เสมอภาค พร้อมยกตัวอย่าง เช่น การแจกถังต้องมีขนาดที่ไม่เท่ากันไม่เช่นนั้นคนตัวเตี้ยจะเสียเปรียบทุกที พรรคมีนโยบายยกเลิกแบล็คลิสต์ เพราะช่วงสถานการณ์ โควิด-19 ที่ผ่านมา มีคนติดอยู่ในระบบแบล็คลิสต์ 5.5ล้านคน เพราะหากติดแบล็คลิสต์จากการผิดนัดชำระจะมีข้อมูลในระบบติดอยู่ 3 ปี ซึ่งวิธีการของพรรคชาติพัฒนากล้า จะใช้ระบบสกอร์ลิ่ง  นำปัจจัยที่เกี่ยวโยงกันมาประกอบ เช่นมีการจ่ายค่าน้ำค่าไฟตรงตามงวดหรือไม่ รายได้เป็นอย่างไร ทำให้เหมือนระบบเกณฑ์มิเตอร์วัด เข้ามาหักลบกัน ถือเป็นการใช้โอกาสให้กับประชาชน

นายอรรถวิทย์ กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนากล้ามีนโยบายเงินเดือนต่ำกว่า 40,000 บาทไม่ต้องเสียภาษีบุคคลธรรมดา เพราะตามธรรมชาติคนเงินเดือน 40,000 บาทมีค่าใช้จ่ายต่อเดือนเต็มเพดานต่างจากคนที่มีรายได้หลักแสนบาทต่อเดือนจะมีการคิดคำนวณเรื่องการออม ค่ารักษาพยาบาลต่าง ๆ เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพ ส่วนเรื่องพลังงานจะเปลี่ยนโครงสร้างลดค่าการกลั่น เพื่อให้เห็นราคาที่แท้จริง เช่นเดียวกับค่า ft

“หากถามว่าพรรคชาติพัฒนากล้า มีนโยบายใดในการอุดหนุนประชาชน คำตอบคือพรรคชาติพัฒนากล้าไม่มีนโยบายเบี้ยผู้สูงอายุ 3000 บาท แต่จะให้เป็นครัวเรือนที่มีผู้สูงอายุและผู้พิการ 50,000 บาทเพื่อนำไปปรับปรุงห้องน้ำสภาพแวดล้อมให้ดี อีกทั้งยังเกิดการจ้างงานด้วย ทุกนโยบายที่แจกจะต้องทำให้เกิดการแข่งขันเพราะหากเกิดการแข่งขันมีการลงทุนและกระจายออกไปก็จะพัฒนาประเทศได้ดีขึ้น นำไปสู่การพัฒนาอย่างถาวร จะไม่ยอมขึ้นค่าแรงแล้วจำนนกับอัตราเงินเฟ้อ ปัญหาของแพง แต่จะต้องทุบมันก่อน มีการรื้อระบบ ถึงจะทำงานสร้างโอกาสให้ประชาชน” นายอรรถวิทย์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ระงับเดินทางเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม-บ้านผักกาด ชั่วคราว

จันทบุรี 7 มิ.ย. – หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ออกหนังสือราชการ ระงับนักท่องเที่ยวไทย-กัมพูชา เดินทางผ่านเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม – บ้านผักกาด ชั่วคราว ยกเว้นแรงงานกัมพูชาที่เข้ามาทำงานในไทย ผู้สื่อข่าว รายงานว่า นาวาเอกนพโรจน์ สิริปริยพงศ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ลงนามในหนังสือราชการด่วนที่สุด แจ้งไปยังผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี เรื่อง ขอระงับนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวกัมพูชา เดินทางผ่านเข้า – ออก ณ จุดผ่านแดนถาวรฯ โดยอ้างอิงตามประกาศให้ใช้กฎอัยการศึก ในเขตพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เฉพาะอำเภอขลุง อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว และตามมาตรา 5 แห่ง พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 กำหนดให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร มีอำนาจ เหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน เกี่ยวกับการยุทธ์ การระงับปราบปราม หรือการรักษาความสงบเรียบร้อย และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนต้องปฏิบัติตามความต้องการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เนื่องจากปัจจุบันมีสถานการณ์อันเป็นภัยคุกคามจากประเทศกัมพูชา และอาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และประชาชนชาวกัมพูชา อาศัยอำนาจตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 ขอให้ข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง […]

มอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา – สุรนารี คุมจุดผ่านแดนไทย–กัมพูชา

กองทัพบก 7 มิ.ย. – ทบ.ออกคำสั่งมอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา และ ผบ.กองกำลังสุรนารี ควบคุมจุดผ่านแดนแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ตามมติ สมช. พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ลงนามในคำสั่งกำหนดอำนาจให้ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา และผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี มีอำนาจในการควบคุมการเปิด–ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยสามารถพิจารณากำหนดมาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่จำเป็น ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตามลำดับขั้นความเข้มงวดในแต่ละพื้นที่ การดำเนินการดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากมติที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ซึ่งมอบหมายให้กองทัพบกเป็นหน่วยหลักในการควบคุมการเปิด–ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภท เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามข้อกำหนดของกองทัพบกอย่างเคร่งครัด การออกมาตรการดังกล่าวสอดคล้องกับสถานการณ์ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายกัมพูชารุกล้ำชายแดนไทยหลายครั้ง พร้อมแสดงท่าทียั่วยุอย่างเปิดเผย แม้ไทยจะใช้สันติวิธีและพยายามเจรจา แต่กัมพูชายังเสริมกำลังและจัดตั้งฐานทหารใกล้ชายแดน แสดงถึงความไม่ร่วมมือและเป็นภัยต่ออธิปไตยและความมั่นคงของไทย ทำให้ไทยจำเป็นต้องดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรักษาผลประโยชน์และความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามแนวชายแดน สำหรับรายละเอียดทั้งหมดในคำสั่งดังกล่าวสามารถติดตามได้ผ่านช่องทางการสื่อสารทางการของกองทัพบกที่เว็บไซต์ www.rta.mi.th เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องจากทางราชการ -313-สำนักข่าวไทย

ปปง. ร่วมสอบกรณีพบเงินต้องสงสัยถูกทิ้ง 12 ล้าน

7 มิ.ย.- ปปง. ร่วมตรวจสอบกรณีพบเงินสด 12 ล้าน วางทิ้งในกล่องข้างถังขยะคอนโดเมืองทองฯ ชี้ผู้อ้างเป็นเจ้าของเงินต้องชี้แจงรายละเอียดที่มาให้ได้ จากกรณีที่พลเมืองดี พบธนบัตรเงินสด 12 ล้านบาท ในกล่องพลาสติกสีเทา บริเวณคอนโดเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และซองจดหมายเกี่ยวกับสำนักงาน กสทช. ซึ่งปรากฏชื่อในเอกสารดังกล่าว คือ นายทวีวัฒน์ และนายทวีวัฒน์ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนแล้วระบุเป็นเจ้าของเงิน 12 ล้านดังกล่าว นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. ในฐานะโฆษก ปปง. กล่าวถึงเหตุที่เกิดขึ้นว่า ขั้นตอนตามปกติหากพบเหตุสงสัย พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด โดย ปปง. ได้ประสานการทำงานร่วมกับตำรวจอยู่แล้ว ซึ่งต้องสอบสวนคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าของเงิน กับผู้เกี่ยวข้องทุกส่วน ทั้งธนาคาร และส่วนงานที่ผู้ที่อ้างเป็นเจ้าของเงินระบุถึง สุดท้ายเจ้าของต้องชี้แจงในรายละเอียดว่าเงินดังกล่าวได้มาอย่างไร ถ้าพนักงานสอบสวนรวบรวมว่า เกี่ยวข้องกับความผิดมูลฐานกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในข้อใด หรือทรัพย์ดังกล่าวอาจเกี่ยวกับการกระทำผิดตามกฎหมายฟอกเงินที่ปัจจุบันมี 28 มูลฐานความผิด การจะมีการประสานส่งเรื่องให้ ปปง. ตรวจสอบตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะนี้ ปปง. […]

“อนุทิน” ย้ำไม่ย้ายกระทรวง ยึดข้อตกลงเดิม​ นายกฯ ให้ความมั่นใจแล้ว

สุวรรณภูมิ​ 7 มิ.ย.-“อนุทิน” ลั่นไม่มีอะไรต้องตกลงแล้ว ทุกอย่างจบตั้งแต่กินช็อกมินต์ หลังกระพือยึดเก้าอี้ มท.1 ชี้ “ภูมิใจไทย” ไม่ได้เดินไปขอร่วมรัฐบาล ย้ำชัดไม่ย้ายกระทรวงยึดข้อตกลงเดิม ระบุนายกฯ ก็ให้ความมั่นใจแล้ว ยอมรับกินข้าว รวมไทยสร้างชาติ แล้ว แต่คุยปมพลังงาน ยันไม่ต้องจับมือต่อรอง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ กรณีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยโดยยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยใดๆ ซึ่งเรื่องการปรับ ครม. หากมีการถามมายังพรรคภูมิใจไทย พรรคก็ยืนยันว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไร เพราะได้คุยในเบื้องต้นภายในพรรคแล้วว่ารัฐมนตรีทุกคนยังทำงานได้อย่างเต็มที่ กระทรวงที่กำกับดูแลในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร เมื่อถามว่า กระแสข่าวการเขย่าเก้าอี้แบบนี้แสดงให้เห็นว่ามีความต้องการกระทรวงมหาดไทยคืนใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่มองว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไร มันเขย่าไม่ได้ นี่เป็นรัฐบาลผสม และเป็นข้อตกลงที่เราหารือกันตั้งแต่เราตั้งรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน 2 ปีแล้ว และมายังรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รูปแบบนี้ก็ยังเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ตรงนี้ไม่ใช่ว่าเป็นของใคร แต่เป็นข้อตกลงและเป็นรัฐบาลผสม ซึ่งทุกคนก็ทำงานอย่างเต็มที่ ที่มีข่าวบอกว่าคนนี้ทำงานดีหรือไม่ดี […]