เพื่อไทยประกาศสงครามกับ PM2.5

พรรคเพื่อไทย 13 มี.ค.-“เพื่อไทย” เสนอ 18 เรื่องประกาศสงครามกับ PM2.5 ให้ถือเป็นวาระแห่งชาติ เหตุกระทบชีวิตประชาชนรุนแรงเทียบเท่ากัมมันตรังสี ชี้ ต้องให้ความสำคัญเท่าสถานการณ์โควิด


นายปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานคณะกรรมการนโยบาย PM2.5 พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวนโยบายแก้วิกฤตปัญหา PM2.5 โดยนายปลอดประสพ กล่าวว่า หากรอพึ่งรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ปัญหา PM2.5 คงไม่หายไป พรรคเพื่อไทยจึงขอเสนอนโยบายและแผนปฏิบัติการเพื่อเห็นแก่สุขภาพของประชาชน หากรัฐบาลจะนำไปปฏิบัติก็ย่อมได้ ซึ่งต้องทำทั้งหมด 18 เรื่อง มีเรื่องใหญ่ 2 เรื่อง คือ 1.ต้องมีหลักคิดหรือยุทธศาสตร์ และ 2 หลักปฏิบัติหรือยุทธวิธี

นายปลอดประสพ กล่าวว่า หลักคิดหรือยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย 4 เรื่องได้แก่ 1.รัฐบาลต้องถือว่า PM2.5 เป็นวาระแห่งชาติ เพราะมีความร้ายแรงใกล้เคียงกับกัมมันตภาพรังสี ที่สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม หากสะสมไว้มาก สามารถเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ 2.ต้องแก้ไขระดับโครงสร้าง ได้แก่ การปรับปรุงแก้กฎหมายเพื่อแก้ปัญหานี้ ปรับปรุงโครงสร้างองค์กรของรัฐ องค์กรท้องถิ่น และนำไปสู่ความร่วมมือกับประชาชน


“3.ต้องให้ความสำคัญในระดับใกล้เคียงกับโควิด-19 ทั้งความพร้อมในแง่อัตรากำลัง งบประมาณ การทำความเข้าใจ การเตรียมพร้อมในการรักษาพยาบาล  4.ต้องกำหนดระยะเวลาดำเนินการแล้วเสร็จให้ชัดเจน ในฐานะผู้ผลักดันการป้องกันไฟป่ามาก่อน ซึ่งมองว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 ปี จะสำเร็จได้” นายปลอดประสพ กล่าว

นายปลอดประสพ กล่าวว่า ส่วนเรื่องที่ 2 คือ หลักปฏิบัติหรือยุทธวิธี เสนอดำเนินการ ดังนี้  1.ออกกฎหมายอากาศสะอาด บนหลักคิดที่ว่าประชาชนทุกคนเป็นเจ้าของอากาศสะอาดเท่าเทียมกัน พร้อมเจรจาระหว่างประเทศ ร่วมแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน 2.เด็ดขาดกับการแก้ปัญหา หรือ Single command มอบอำนาจกรมควบคุมมลพิษ กรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย มีอำนาจเด็ดขาดในการตัดสินใจ ประกาศพื้นที่สาธารณภัย ปิดถนนชั่วคราว หรือใช้รถยนต์ตามวันคู่-วันคี่และตามเลขรถยนต์ 3.ต้องมี Single Board เข้ามากำกับดูแล เพื่อเป็นพี่เลี้ยงกรมควบคุมมลพิษ และกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย 4.กองทัพและกระทรวงมหาดไทยถือเป็นหน้าที่ที่ต้องมาดับไฟป่า หากเคยทำแล้วเมื่อน้ำท่วม ครั้งนี้ต้องส่งกำลังพล อุปกรณ์ เข้ามาช่วยเหลือด้วย

นายปลอดประสพ กล่าวว่า 5.การแก้ปัญหา PM2.5 ในเมือง ส่งเสริมพลังงานสะอาด ในเมือง 60-65% เกิดจากการจราจร รถยนต์เก่าที่มีการสันดาบไม่สมบูรณ์ รวมถึงคนที่มีรถอายุ 15 ปี เปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้า โดยให้การอุดหนุน เปลี่ยนรถเมล์เป็นรถไฟฟ้าทั้งหมด และต้องมีข้อมูลรถที่ขนสินค้าไปท่าเรือคลองเตย เสนอให้ใช้งบประมาณทำทางด่วนพิเศษเข้าท่าเรือคลองเตยโดยตรง การจัดพื้นที่พิเศษ งานก่อสร้าง สร้างเฉพาะกลางคืน กลางวันไม่ให้สร้าง รวมถึงรัฐต้องยอมเสียเงินซื้อเครื่องกรองอากาศไปติดตามห้องเรียนในพื้นที่เมือง กรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อชีวิตของลูกหลานคนไทย” นายปลอดประสพ กล่าว และ6. การแก้ปัญหา PM2.5 ในพื้นที่ป่า รื้อฟื้นสำนักป้องกันไฟป่าขึ้นมาใหม่ ทั้งในกรมอุทยานและกรมป่าไม้ งานไฟป่าต้องทำทั้งปี ไม่ใช่เฉพาะฤดูไฟป่า ต้องห้ามเผาเด็ดขาด และต้องจัดหาเครื่องมือเก็บเกี่ยว-ขุดกลบเพื่อการเกษตร


ด้านนายจักรพล กล่าวว่า ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยมีความห่วงใยในวิกฤติปัญหา PM2.5 ที่เรื้อรังมานาน โดยได้แก้ไข ต่อสู้ ผลักดันการแก้ปัญหาในเรื่องนี้มาตลอด ทั้งการจัดตั้งกรรมาธิการ การยื่นพิจารณา พ.ร.บ.อากาศสะอาด ที่ได้ยื่นไปมากกว่า 400 วันแล้ว แต่รัฐบาลยังคงเพิกเฉย ล่าสุด วิกฤต PM2.5 ได้สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจ มูลค่ากว่า 2.17 ล้านล้านบาท มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้แล้ว 32,000 ราย หมุดหมายการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป จากภาคเหนือของไทยไปประเทศอื่น

“ผมรู้สึกเสียใจที่ท่านนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ปัญหา PM2.5 เกิดขึ้นทั่วไปและวนแบบนี้ เป็นคำพูดแบบที่ไม่คิดแก้ปัญหาอะไรให้กับประเทศเลย ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา คนเชียงใหม่แทบจะอยู่ไม่ได้ ดังนั้น วันที่ 14 มีนาคม ขอให้ติดตามให้กำลังใจผู้ยื่นฟ้องร้องต่อศาลปกครอง ให้รัฐบาลปกป้องสุขภาพคนภาคเหนือ และในที่ 17 มีนาคม นี้ ที่พลเอกประยุทธ์จะเดินทางไปเชียงใหม่ ขอให้ลองไม่ต้องใส่หน้ากาก ขึ้นไปอยู่บนดอย สูดอากาศบนนั้น ดูว่าท่านจะอยู่ได้ไหม วันนี้ พ.ร.บ. อากาศสะอาดฉบับของพรรคเพื่อไทย ตีตกไปเลยก็ได้ แต่มีฉบับประชาชน ที่ลงนามโดยประชาชน ขอให้เอามาศึกษา เลิกต้วมเตี้ยม เลิกช้า ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย จริงใจ ใส่ใจ การแก้ปัญหานี้ เราพร้อมเจรจากับต่างประเทศ และต่างประเทศพร้อมเจรจากับไทย โดยเฉพาะถ้ามีพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ไม่ใช่รัฐบาลที่อยู่ 8 ปี แต่ทำให้ไทยหายไปจากเวทีโลก วันนี้เรามอบนโยบาย ประกาศสงครามกับ PM2.5 เพื่อทวงคืนอากาศบริสุทธิ์ให้ชาวไทยทั้งปวง” นายจักรพล กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย