เพื่อไทยประกาศสงครามกับ PM2.5

พรรคเพื่อไทย 13 มี.ค.-“เพื่อไทย” เสนอ 18 เรื่องประกาศสงครามกับ PM2.5 ให้ถือเป็นวาระแห่งชาติ เหตุกระทบชีวิตประชาชนรุนแรงเทียบเท่ากัมมันตรังสี ชี้ ต้องให้ความสำคัญเท่าสถานการณ์โควิด


นายปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานคณะกรรมการนโยบาย PM2.5 พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวนโยบายแก้วิกฤตปัญหา PM2.5 โดยนายปลอดประสพ กล่าวว่า หากรอพึ่งรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ปัญหา PM2.5 คงไม่หายไป พรรคเพื่อไทยจึงขอเสนอนโยบายและแผนปฏิบัติการเพื่อเห็นแก่สุขภาพของประชาชน หากรัฐบาลจะนำไปปฏิบัติก็ย่อมได้ ซึ่งต้องทำทั้งหมด 18 เรื่อง มีเรื่องใหญ่ 2 เรื่อง คือ 1.ต้องมีหลักคิดหรือยุทธศาสตร์ และ 2 หลักปฏิบัติหรือยุทธวิธี

นายปลอดประสพ กล่าวว่า หลักคิดหรือยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย 4 เรื่องได้แก่ 1.รัฐบาลต้องถือว่า PM2.5 เป็นวาระแห่งชาติ เพราะมีความร้ายแรงใกล้เคียงกับกัมมันตภาพรังสี ที่สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม หากสะสมไว้มาก สามารถเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ 2.ต้องแก้ไขระดับโครงสร้าง ได้แก่ การปรับปรุงแก้กฎหมายเพื่อแก้ปัญหานี้ ปรับปรุงโครงสร้างองค์กรของรัฐ องค์กรท้องถิ่น และนำไปสู่ความร่วมมือกับประชาชน


“3.ต้องให้ความสำคัญในระดับใกล้เคียงกับโควิด-19 ทั้งความพร้อมในแง่อัตรากำลัง งบประมาณ การทำความเข้าใจ การเตรียมพร้อมในการรักษาพยาบาล  4.ต้องกำหนดระยะเวลาดำเนินการแล้วเสร็จให้ชัดเจน ในฐานะผู้ผลักดันการป้องกันไฟป่ามาก่อน ซึ่งมองว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 ปี จะสำเร็จได้” นายปลอดประสพ กล่าว

นายปลอดประสพ กล่าวว่า ส่วนเรื่องที่ 2 คือ หลักปฏิบัติหรือยุทธวิธี เสนอดำเนินการ ดังนี้  1.ออกกฎหมายอากาศสะอาด บนหลักคิดที่ว่าประชาชนทุกคนเป็นเจ้าของอากาศสะอาดเท่าเทียมกัน พร้อมเจรจาระหว่างประเทศ ร่วมแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน 2.เด็ดขาดกับการแก้ปัญหา หรือ Single command มอบอำนาจกรมควบคุมมลพิษ กรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย มีอำนาจเด็ดขาดในการตัดสินใจ ประกาศพื้นที่สาธารณภัย ปิดถนนชั่วคราว หรือใช้รถยนต์ตามวันคู่-วันคี่และตามเลขรถยนต์ 3.ต้องมี Single Board เข้ามากำกับดูแล เพื่อเป็นพี่เลี้ยงกรมควบคุมมลพิษ และกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย 4.กองทัพและกระทรวงมหาดไทยถือเป็นหน้าที่ที่ต้องมาดับไฟป่า หากเคยทำแล้วเมื่อน้ำท่วม ครั้งนี้ต้องส่งกำลังพล อุปกรณ์ เข้ามาช่วยเหลือด้วย

นายปลอดประสพ กล่าวว่า 5.การแก้ปัญหา PM2.5 ในเมือง ส่งเสริมพลังงานสะอาด ในเมือง 60-65% เกิดจากการจราจร รถยนต์เก่าที่มีการสันดาบไม่สมบูรณ์ รวมถึงคนที่มีรถอายุ 15 ปี เปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้า โดยให้การอุดหนุน เปลี่ยนรถเมล์เป็นรถไฟฟ้าทั้งหมด และต้องมีข้อมูลรถที่ขนสินค้าไปท่าเรือคลองเตย เสนอให้ใช้งบประมาณทำทางด่วนพิเศษเข้าท่าเรือคลองเตยโดยตรง การจัดพื้นที่พิเศษ งานก่อสร้าง สร้างเฉพาะกลางคืน กลางวันไม่ให้สร้าง รวมถึงรัฐต้องยอมเสียเงินซื้อเครื่องกรองอากาศไปติดตามห้องเรียนในพื้นที่เมือง กรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อชีวิตของลูกหลานคนไทย” นายปลอดประสพ กล่าว และ6. การแก้ปัญหา PM2.5 ในพื้นที่ป่า รื้อฟื้นสำนักป้องกันไฟป่าขึ้นมาใหม่ ทั้งในกรมอุทยานและกรมป่าไม้ งานไฟป่าต้องทำทั้งปี ไม่ใช่เฉพาะฤดูไฟป่า ต้องห้ามเผาเด็ดขาด และต้องจัดหาเครื่องมือเก็บเกี่ยว-ขุดกลบเพื่อการเกษตร


ด้านนายจักรพล กล่าวว่า ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยมีความห่วงใยในวิกฤติปัญหา PM2.5 ที่เรื้อรังมานาน โดยได้แก้ไข ต่อสู้ ผลักดันการแก้ปัญหาในเรื่องนี้มาตลอด ทั้งการจัดตั้งกรรมาธิการ การยื่นพิจารณา พ.ร.บ.อากาศสะอาด ที่ได้ยื่นไปมากกว่า 400 วันแล้ว แต่รัฐบาลยังคงเพิกเฉย ล่าสุด วิกฤต PM2.5 ได้สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจ มูลค่ากว่า 2.17 ล้านล้านบาท มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้แล้ว 32,000 ราย หมุดหมายการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป จากภาคเหนือของไทยไปประเทศอื่น

“ผมรู้สึกเสียใจที่ท่านนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ปัญหา PM2.5 เกิดขึ้นทั่วไปและวนแบบนี้ เป็นคำพูดแบบที่ไม่คิดแก้ปัญหาอะไรให้กับประเทศเลย ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา คนเชียงใหม่แทบจะอยู่ไม่ได้ ดังนั้น วันที่ 14 มีนาคม ขอให้ติดตามให้กำลังใจผู้ยื่นฟ้องร้องต่อศาลปกครอง ให้รัฐบาลปกป้องสุขภาพคนภาคเหนือ และในที่ 17 มีนาคม นี้ ที่พลเอกประยุทธ์จะเดินทางไปเชียงใหม่ ขอให้ลองไม่ต้องใส่หน้ากาก ขึ้นไปอยู่บนดอย สูดอากาศบนนั้น ดูว่าท่านจะอยู่ได้ไหม วันนี้ พ.ร.บ. อากาศสะอาดฉบับของพรรคเพื่อไทย ตีตกไปเลยก็ได้ แต่มีฉบับประชาชน ที่ลงนามโดยประชาชน ขอให้เอามาศึกษา เลิกต้วมเตี้ยม เลิกช้า ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย จริงใจ ใส่ใจ การแก้ปัญหานี้ เราพร้อมเจรจากับต่างประเทศ และต่างประเทศพร้อมเจรจากับไทย โดยเฉพาะถ้ามีพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ไม่ใช่รัฐบาลที่อยู่ 8 ปี แต่ทำให้ไทยหายไปจากเวทีโลก วันนี้เรามอบนโยบาย ประกาศสงครามกับ PM2.5 เพื่อทวงคืนอากาศบริสุทธิ์ให้ชาวไทยทั้งปวง” นายจักรพล กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย