กรุงเทพฯ 8 ก.พ.-“ธนกร” เตรียมลงพื้นที่ชลบุรีพรุ่งนี้ ตามความคืบหน้าโครงการอีอีซี หวังเร่งพัฒนาคน ระบบการขนส่ง แจงใช้เวลาที่เหลืออยู่ของรัฐบาลอย่างคุ้มค่า
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมอบหมายให้ลงพื้นที่ตรวจราชการที่จังหวัดชลบุรี พรุ่งนี้ (9 ก.พ.) เพื่อติดตามความคืบหน้าเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) หลากหลายมิติที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา อาทิ การพัฒนาด้านการท่องเที่ยว โครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรม บุคลากร การศึกษา การวิจัย ธุรกิจ การเงิน เทคโนโลยี การสนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย และผลักดันการลงทุนนวัตกรรมใหม่
นายธนกร กล่าวว่า จะไปเยี่ยมชมการดำเนินงานชุมชนเข้มแข็งและยั่งยืน ของชุมชนเก่าชายทะเลบางเสร่ อ.สัตหีบ จ. ชลบุรี เพื่อหารือและรับฟังความเห็นจากชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งยังคงอัตลักษณ์วิถีชาวประมงแบบดั้งเดิมเอาไว้ อีกทั้งยังส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนและการท่องเที่ยวเพื่อสร้างรายได้ให้กับพื้นที่และชุมชนโดยรอบ จากนั้นจะไปเยี่ยมชมและติดตามโครงการสัตหีบโมเดล ซึ่งเป็นการพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาสู่ตลาดแรงงานภาคอุตสาหกรรมในเขตอีอีซี ณ วิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ จ. ชลบุรี
“จากนั้นจะไปร่วมกิจกรรมสื่อสร้างสรรค์รัฐ – ประชาชน ซึ่งเป็นการเปิดพื้นที่พูดคุยรับฟังความคิดเห็นหลากหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาจังหวัดชลบุรี และ EEC อาทิ ประเด็นความพร้อมด้านการส่งเสริมการศึกษาเพื่อรองรับการขยายตัวของอีอีซีการส่งเสริมการลงทุนและประโยชน์ที่ประชาชนได้รับ ตลอดจนการเตรียมความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานหลักในอีอีซี อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง – สุวรรณภูมิ – อู่ตะเภา) โครงการพัฒนาสนามบินนานาชาติอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 และโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา” นายธนกร กล่าว
นายธนกร กล่าวว่า จังหวัดชลบุรีเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงทั้งในแง่การท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และอุตสาหกรรม อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในที่ตั้งของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี มุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะวางรากฐานระบบเศรษฐกิจของประเทศไปสู่อนาคต จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องวางแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนากำลังคน การพัฒนาเทคโนโลยีให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำประเทศไทยให้พัฒนาเจริญก้าวหน้า เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ซึ่งที่ผ่านมา รัฐบาลผลักดันและเร่งรัดการลงทุน เกิดการอนุมัติงบลงทุนสูงถึง 1.92 ล้านล้านบาท เกินเป้าหมาย 1.7 ล้านล้านบาท
“พื้นที่อีอีซีถูกผลักดันให้เป็นฐานผลิตยานยนต์ไฟฟ้า EV แห่งภูมิภาค เพื่อสนับสนุนการลงทุนเศรษฐกิจสีเขียว BCG model ซึ่งคาดว่าจะเกิดการจ้างงานถึง 470,000 อัตราภายในปี 2566 ถือเป็นความมุ่งหมายของรัฐบาลในการบูรณาการกับทุกภาคส่วน อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้มองว่าเป็นการลงพื้นที่เพื่อหาเสียง แต่เป็นการใช้เวลาที่เหลืออยู่อย่างคุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนจนนาทีสุดท้าย เพื่อพัฒนาประเทศแบบลงลึกถึงประชาชน โดยเฉพาะชุมชนคนพื้นที่” นายธนกร กล่าว.-สำนักข่าวไทย