ปภ.-ทบ.ร่วมปฏิบัติภารกิจดับไฟป่า

ปภ.3 ก.พ.-ปภ.จับมือ ทบ. ส่งเฮลิคอปเตอร์บรรเทาสาธารณภัย KA-32 ขึ้นประจำการภาคเหนือ สนับสนุนภารกิจคุมไฟป่า หมอกควันตั้งแต่ 7 ก.พ.66 จนกว่าสถานการณ์คลี่คลาย


นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในพื้นที่ตอนบนของประเทศ พบว่าภาคเหนือ 17 จังหวัด มีจำนวนการเกิดจุดความร้อน (Hotspot) สะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 1 ก.พ. 66 จำนวน 14,432 จุด (ข้อมูลวันที่ 2 ก.พ.66) ซึ่งภาพรวมการเกิดจุดความร้อน (Hotspot) เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาในช่วงเวลาเดียวกัน เพื่อเป็นการสนับสนุนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าในภาคเหนือ ปภ.ได้ร่วมกับกองทัพบกจัดส่งเฮลิคอปเตอร์บรรเทาสาธารณภัย KA-32 จำนวน  2 ลำ พร้อมด้วยนักบิน ช่างประจำอากาศยาน และชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ร่วมสนับสนุนภารกิจควบคุมไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป

อธิบดีปภ. กล่าวว่า สำหรับฐานปฏิบัติการมี 2 จุด ได้แก่ ฐานปฏิบัติการที่ 1  พล.ร.7 ค่ายทหารเสือพระองค์ดำ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยจะประจำการทั้ง 2 ลำในห้วงวันที่ 7 – 22 กุมภาพันธ์ 2566 และฐานปฏิบัติการที่ 2 เฮลิคอปเตอร์บรรเทาสาธารณภัย KA-32 จำนวน 1 ลำ จากเชียงใหม่จะบินไปประจำการ ณ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก ตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป ซึ่งทั้ง 2 ลำ จะประจำการเพื่อสนับสนุนการควบคุมไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนืออย่างต่อเนื่องจนสิ้นสุดฤดูกาล


“ส่วนการสนับสนุนภารกิจการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันภาคพื้นดิน ปภ.ได้เตรียมพร้อมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการแก้ไขไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในภาคเหนือ อาทิ ชุดยานยนต์ดับเพลิง (LUF60) รถบรรทุกน้ำช่วยดับเพลิง 10,000 ลิตร และชุดเครื่องจักรกลด้าน ไฟป่าและหมอกควัน เพื่อเข้าปฏิบัติการสนับสนุนพื้นที่เสี่ยงเกิดไฟป่า โดยประสานการปฏิบัติการผ่านกลไกของกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทุกระดับ ภายใต้แนวทางการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ โดยให้จังหวัดเป็นศูนย์กลางในการบริหารจัดการและประสานข้อมูลการปฏิบัติงานจากทุกหน่วยงาน เพื่อให้การแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว” นายบุญธรรม กล่าว

อธิบดีปภ. กล่าวว่า ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการป้องกันและแก้ไขปัญหาสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งจัดทีมประเมินสถานการณ์อย่างต่อเองเป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะข้อมูลจุดความร้อน (Hotspot) ตามวงรอบการรายงานข้อมูลดาวเทียมของ GISTDA เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงลึกและวางแผนการบริหารจัดการในเชิงพื้นที่ ช่วยเสริมประสิทธิภาพการติดตามข้อมูลและการบัญชาการเหตุการณ์แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด

“ประชาชนที่พบเห็นเหตุไฟป่าหรือประสบสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุสาธารณภัยและขอความช่วยเหลือทางไลน์ ปภ.รับแจ้งเหตุ1784  โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานการแก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือต่อไป” นายบุญธรรม กล่าว.-สำนักข่าวไทย   


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

เริ่มใช้เครื่องจักรหนักเปิดซากอาคาร สตง.ถล่ม

102 ชั่วโมงแล้ว สำหรับปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุอาคาร สตง.ถล่ม หน่วยกู้ภัยจากนานาชาติให้ความหวังว่ายังมีโอกาสเจอผู้รอดชีวิต ทำให้การค้นหาวันนี้ต้องแข่งกับเวลาอย่างเต็มที่

ทองไทยนิวไฮต่อเนื่อง ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 550 บาท

ทองคำไทยผันผวนหนัก ปรับเปลี่ยน 18 ครั้ง ก่อนปิดตลาดปรับเพิ่ม 550 บาท ระหว่างวันขึ้นไปแตะนิวไฮ ทองคำแท่งขายออก 50,700 บาท ทองรูปพรรณขายออก 51,500 บาท ขึ้นไปต่อเนื่อง