นายกฯ เป็นประธานงานวันครู ยอมรับห่วงสถานการณ์ก่อนเลือกตั้ง

หอประชุมคุรุสภา 16 ม.ค.- นายกฯ เป็นประธานงานวันครู กราบอาจารย์โรงเรียนนายร้อยฯ พร้อมมอบนโยบายหลัก พัฒนาการศึกษา ยอมรับห่วงสถานการณ์ก่อนการเลือกตั้ง ขอประชาชนใคร่ครวญ ไม่มีสิ่งไหนให้เปล่าได้ตลอดไป ย้ำงบประมาณต้องใช้จ่ายอย่างรอบคอบ


พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานงานวันครู ครั้งที่ 67 ประจำปี 2566 ที่หอประชุมคุรุสภา ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “พลังครู คือ หัวใจของการพลิกโฉมคุณภาพการศึกษา” Teacher’s Power is the Heart of Transforming the Educational Quality ในรูปแบบผสมผสาน ทั้ง Onsite และ Online ในโอกาสนี้ มีพิธีคารวะครูอาวุโสของนายกรัฐมนตรี ได้แก่ พลเอก เกษม นภาสวัสดิ์ ครูที่เคยสอนวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า และมอบรางวัล จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ รางวัลผู้มีคุณูปการต่อการศึกษาของชาติ ประจำปี 2566 และรางวัลคุรุสภา ประจำปี 2565 “ระดับดีเด่น” รวมจำนวน 17 ราย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พลังของครู คือหัวใจของการเปลี่ยนแปลงคุณภาพการศึกษา ในการสร้างและพัฒนาคน เพื่ออนาคตของประเทศ ครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นผู้ที่มีความสำคัญอย่างมากในการเป็นผู้นำการเรียนรู้ กระตุ้น และสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้เรียน เพื่อให้เกิดความก้าวหน้าของลูกศิษย์ในด้านสติปัญญาและจิตใจและมีคุณธรรมจริยธรรมในการดำเนินชีวิตในการประกอบอาชีพ สร้างสรรค์ให้ศิษย์เป็นคนดี เป็นคนที่มีคุณภาพของสังคม


นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า สำหรับปีนี้ได้เขียนคำขวัญทั้งของเด็กและของวันครูให้มีความสัมพันธ์กัน โดยในวันครูนี้มีคำขวัญว่า ศิษย์ดี ครูดี มีอนาคต โลกใบนี้ ไม่ใช่โลกใบเดิม มีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างมากมาย ดังนั้นครูจะต้องเป็นผู้ที่กระตุ้นสร้างแรงบันดาลใจที่ดีให้กับผู้เรียนให้เจริญงอกงามในทางที่ดีและถูกต้อง ไม่ให้เกิดความวุ่นวายหรือทำให้เกิดปัญหาทางสังคม ต้องจุดประกายให้ผู้เรียนรู้จักคิดเป็น ให้เจริญเติบโตถูกต้องตามครรลองคลองธรรม คำว่าอนาคต ไม่ใช่เฉพาะตัวของของเด็ก แต่ประเทศชาติจะมีอนาคตไปด้วย จะทำให้เด็กเติบโตเป็นพลเมืองที่ดี ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากต้องลองไปหาดูว่าทำอย่างไรให้เป็นพลเมืองที่ดี ทุกอย่างอยู่ที่จิตใจร่างกายและความประพฤติประกอบกัน การทำดีหรือไม่ดี ตัวเองนั้นจะรู้ตัว ดังนั้น อย่าทำอะไรที่ไม่ดี ตนพยายามประคับประคองให้ทุกอย่างเดินหน้าไปได้และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดี ตนไม่อาจกล่าวว่าใครทำดีหรือไม่ดี เพราะตนมีหน้าที่ทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือหน้าที่ของตน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในยุคปัจจุบันที่บริบทสังคมมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วควบคู่กับความก้าวล้ำทางเทคโนโลยี ครู และผู้บริหารการศึกษา จำเป็นต้องพัฒนาตนเองให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งรัฐบาลมีแนวทางการจัดการศึกษาให้ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกในศตวรรษที่ 21 ดังนี้

1.เน้นการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีสมรรถนะในการออกแบบการเรียนรู้ที่เป็นลักษณะการเรียนรู้แบบมีปฏิสัมพันธ์ มีทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น ทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างรู้เท่าทัน และทักษะ การใช้ชีวิตในโลกอนาคต พร้อมต้องรับผิดชอบต่อสังคม ครอบครัว รู้จักรักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

2.ส่งเสริมการสร้างสมรรถนะการจัดการเรียนรู้โดยใช้เครื่องมือดิจิทัล ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศมากขึ้นในอนาคต


3.การจัดสถานการณ์การเรียนรู้ที่ทำให้นักเรียน ได้รู้จักรากเหง้า ความเป็นมาของชาติ เอกลักษณ์ของชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่จะสะท้อนความเป็นตัวตนของคนไทย จึงเป็นสิ่งที่ครูและบุคลากรทางการศึกษา จะต้องออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ ให้นักเรียนเกิดความรัก ความภาคภูมิใจ หวงแหนแผ่นดินเกิด และเป็นพลเมืองที่ดีของชาติ โดยทั้งหมดนี้จะต้องตั้งอยู่บนหลักการที่ทำให้นักเรียนสามารถสร้างความรู้ขึ้นเองด้วยหลักของเหตุและผล

4.การยกระดับคุณภาพการศึกษาทั้งระบบ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลมีความปรารถนาและมุ่งมั่นมากที่สุด การจะยกระดับคุณภาพการศึกษาทั้งระบบให้ดีขึ้นได้นั้น สิ่งสำคัญคือ ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา จะต้องพุ่งเป้าหมายให้ความสำคัญกับเปลี่ยนแปลงในระดับห้องเรียนและต้องใช้ปัญหาการเรียนรู้ของนักเรียนเป็นตัวตั้ง

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า อย่าลืมรากเหง้าของตัวเอง ถ้าเราไม่รู้ว่าเรามีความเป็นมาจากไหน ก็จะไม่รักประเทศตัวเอง

“หลายคนลืมว่าเราคือคนไทย เกิดที่นี่ ประกอบอาชีพที่นี่ กินนอนที่นี่ ตายที่นี่ นี่คือแผ่นดินของเรา ต้องถ่ายทอดให้ทุกคนสำนึกตรงนี้ ต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ไม่ยากเลย แค่ทำความดี ทำเพื่อคนอื่นบ้าง ไม่เอาเปรียบใคร ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน นี่คือทำให้ประเทศไทยสงบสุขไปเยอะแล้ว” พลเอกประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ตนต้องพัฒนาตัวเอง รับฟังจากผู้รู้ เพื่อให้ประเทศเดินหน้า ขอขอบคุณครูผู้อาวุโสทั้งหมดที่ได้สั่งสอนมา ให้ตนสามารถมายืนอยู่ได้ทุกวันนี้

“สิ่งสำคัญที่สุดคือครูได้สอนให้ตนเป็นคนดี มีความสุจริต ยืนยันว่าทุกอย่างจะต้องถูกดำเนินการตามกฏหมายทั้งสิ้น ไม่มีการละเว้น ตราบใดที่มีคดีเกิดขึ้นมา ลองไปย้อนดูว่าเกิดอะไรขึ้น และเมื่อเกิดขึ้น ก็ต้องมีการสอบสวน และที่ผ่านมาทำไมไม่มีคดี ก็ไม่ทราบเหมือนกัน” พลเอกประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เรื่องข้อสอบที่จะต้องมีการเลือกข้อที่ถูกต้อง ทำให้การเขียนข้อความไม่ค่อยมีความถนัดกัน ทำให้เห็นได้ว่าการร่างหนังสือค่อนข้างจะอ่อนลง แต่ก็เห็นใจ การออกข้อสอบต้องให้การเรียนรู้ไปด้วย ไม่ใช่ออกให้ยากอย่างเดียว ขณะที่วันนี้ให้ความสำคัญไปยัง กศน. ซึ่งตนได้นำ กศน.เข้าไปในค่ายทหาร เพราะทหารบางคนไม่ได้เรียนหนังสือมากนัก เพื่อที่จะได้กลับไปเป็นผู้นำชุมชน ให้ทุกคนภูมิใจว่าได้เล่าเรียนศึกษาเพิ่มเติมเพราะที่ผ่านมาไม่มีโอกาส วันนี้แม้หลายคนจะต้องออกจากการเรียนหนังสือ เพราะความจำเป็นของครอบครัว ดังนั้นจะทำอย่างไรให้คนเหล่านี้ได้กลับเข้ามาเรียน ไม่ว่าจะในวิธีใด เช่น การเรียนออนไลน์

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี ยังได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ในช่วงนี้ที่กำลังก้าวเข้าสู่การเลือกตั้ง โดยขอให้ทุกคนเดินหน้าประเทศ ใคร่ครวญให้ดี

“สถานการณ์กำลังมีปัญหาอยู่ในอนาคตของเรา ในเรื่องของการเดินหน้าประเทศ ในเรื่องของการเลือกตั้ง ขอให้ทุกคนมีความคิดใคร่ครวญให้ดี ตนไม่กล้าที่จะพูดว่าใครดีหรือไม่ดี แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือทำอย่างไรให้ประเทศไทยอยู่ได้ มีเสถียรภาพเข้มแข็ง เราผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากตั้งแต่ โควิด-19 การท่องเที่ยวก็ดีขึ้น อย่าลืมว่าเราฟันฝ่ามาได้ด้วยหยาดเหงื่อแรงกายของเราและด้วยชีวิตของหลายคนที่ต้องสูญเสีย ดังนั้นต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน วันข้างหน้าต้องจับมือกันเดินไปอย่างนี้ ต้องเดินไปให้ได้ไปพร้อมกัน การช่วยเหลือที่ให้เปล่ามากๆนั้น เป็นไปไม่ได้ จำไว้ให้ว่าเป็นไปไม่ได้ ลองไปย้อนกลับดูว่าใช้งบประมาณอะไรไปแล้วบ้าง ที่พูดวันนี้พูดในนามนายกรัฐมนตรี เป็นห่วงในเรื่องเหล่านี้ ที่ผ่านมาประคับประคองทุกอย่างมาแบบนี้ทุกอย่างเดินหน้ามาได้ ก็เพราะเราพิจารณาในทุกด้านตนไม่ได้พูดเกี่ยวข้องกับเรื่องอื่นๆ และทุกคนต้องเข้าใจในการบริหารราชการแผ่นดิน” พลเอกประยุทธ์ กล่าว

ทั้งนี้ ก่อนเดินทางกลับ นายกรัฐมนตรีได้รับกำลังใจจากเด็กน้อยวัย 3 ขวบ ซึ่งได้ให้นายกรัฐมนตรีอุ้มและเด็กก็กล่าวว่า “สู้ๆ” ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ มีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ก่อนขึ้นรถกลับทำเนียบรัฐบาล.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งเร่งออกโฉนดให้ชาวบ้านหนองจาน

สรแก้ว 25 ส.ค. – ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งที่ดินจังหวัดเร่งดำเนินการออกเอกสารสิทธิให้ชาวบ้านหนองจานโดยเร็ว พร้อมส่งทีมสำรวจ เร่งแก้ไขปัญหาที่ดินตามแนวชายแดนให้แล้วเสร็จ นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ที่ดินจังหวัด ป่าไม้ ส.ป.ก. ชี้แจงกรณีปัญหาของที่ดินบ้านหนองจาน พร้อมให้ประชาชนแสดงการยื่นเอกสารสิทธิการถือครองที่ดิน เพื่อคัดกรองเตรียมออกโฉนดให้กับชาวบ้านในพื้นที่บ้านหนองจาน และบ้านกุดผือ ที่มีที่ดินอยู่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณหลักเขตแดนที่ 46-47 เพื่อดำเนินการออกโฉนดที่ดินให้โดยเร็ว โดยมีชาวบ้านนำเอกสารสิทธิ น.ส.2 สค.1 น.ส.3 มายื่นให้เจ้าหน้าที่เข้าสู่ระบบการคัดกรองเพื่อออกโฉนดที่ดินตามนโยบายเร่งด่วน ซึ่งจังหวัดจะแบ่งทีมสำรวจลงพื้นที่เป็น 3 ชุด เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาที่ดินตามแนวชายแดน ตั้งแต่พื้นที่อำเภออรัญประเทศ อำเภอโคกสูง และอำเภอตาพระยา ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว สร้างความดีใจให้กับประชาชนเป็นอันมาก.- สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

แจงยิบข้อดี MOU43 กรอบแนวทางสำรวจปักปันเขตแดน

กต. 25 ส.ค.- อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ แจงละเอียดยิบข้อดี MOU43 ใช้เป็นกรอบแนวทางการสำรวจปักปันเขตแดน เพื่อทำแผนที่ใหม่ร่วมกันตามหลักสากล เตือนยกเลิกหนีแผนที่ 1 : 200,000 ไม่พ้น และจะวนมาทำ MOU กันใหม่ นายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับนายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ อธิบายถึงที่มาของบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา หรือ MOU 43 ว่าเป็นเอกสารพื้นฐานของกรอบการเจรจา ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกปี 2543 หรือ MOU2543 หรือ MOU43 อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ มั่นใจว่า ประเทศไทยได้เปรียบจาก MOU43 เนื่องจาก MOU43 เป็นการกำหนดกรอบความตกลง และกลไกการปักปันเขตแดน เพื่อร่วมกันสำรวจ-จัดทำหลักเขตแดน เพื่อให้ได้แผนที่ที่นำมาใช้ได้จริง โดยใช้หนังสือสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1904 และ 1907 เป็นเอกสารประกอบ เนื่องจาก หนังสือสัญญาดังกล่าวได้พูดถึงคณะกรรมการปักปันเขตแดน เพื่อให้ไปทำแผนที่ตามหลักสันปันน้ำ แม่น้ำ และแนวเส้นตรง […]

“ภูมิธรรม” รับหนักใจ “กัมพูชา” ตกลงกันแล้วไปพูดอีกอย่าง

ทำเนียบ 25 ส.ค.- “ภูมิธรรม” บอกประชุม RBC กองทัพภาค 2 เป็นเรื่องเขตแดน ยอมรับหนักใจ “กัมพูชา” ตกลงกันแล้วไปพูดอีกอย่าง ย้ำไม่ยอมให้ใครรุกล้ำอธิปไตย มองเรื่องเขตแดนไม่เคยจบง่าย บางประเทศใช้เวลาเป็นร้อยปี อย่ากังวลใจ ถ้ายังยืนหยัดผลประโยชน์ชาติ พร้อมยกนาฬิกาข้อมือ ก่อนแซวตัวเอง “วันนี้วันที่เท่าไหร่ ดูเวลาทุกวัน จะพ้นตำแหน่งแล้ว” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค RBC ไทย-กัมพูชาในส่วนของกองทัพภาคที่2ในวันที่ (27 ส.ค.) จะมีการเสนอเงื่อนไขเหมือนกับการประชุม RBC ของกองทัพภาคที่ 1 หรือแตกต่างกันหรือไม่ว่า ก็ไม่มี เป็นการต่อเนื่อง จากการประชุม RBC ครั้งที่แล้ว แต่อาจจะแตกต่างกันบ้างของแต่ละสภาพพื้นที่และสภาพปัญหา และพื้นฐานจะเป็นการประชุมต่อเนื่องจากครั้งก่อน เป็นเรื่องระดับแม่ทัพไปคุยกัน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเส้นแดน ทำอย่างไรที่จะทำให้ได้ข้อสรุปที่ตรงกันมากที่สุด ส่วนแนวโน้มน่าจะมีสัญญาณที่ดีใช่หรือไม่ เพราะการประชุมครั้งก่อนฝ่ายกัมพูชารับเงื่อนไข แต่การประชุมที่กองทัพภาคที่2 มีเรื่องรั้วลวดหนาม ที่แตกต่างกับกองทัพภาคที่ 1 นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องรั้วลวดหนามอาจจะเป็นสิ่งที่ไม่ตรงกับที่พูดคุยกันมา […]