เบลเยียม 15 ธ.ค.-นายกฯ หารือนายกฯ สาธารณรัฐเช็ก เชื่อสองประเทศมีศักยภาพร่วมมือกันหลายด้าน เพื่อประโยชน์ร่วมกัน
“เพ็ญพร พิพัฒโนทัย” ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ติดตามภารกิจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ ที่กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม เพื่อฉลองวาระครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-สหภาพยุโรป ระหว่างวันที่ 12 – 15 ธันวาคม 2565 รายงานว่า วานนี้(14 ธ.ค.) เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง นายกรัฐมนตรีหารือกับนายเป็ตร์ ฟียาลา (Mr. Petr Fiala) นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐเช็ก เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกัน โดยผู้นำเช็กหวังว่า ไทยและเช็กจะจัดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ (Joint Commission on Economic Cooperation: JEC) ครั้งที่ 3 ได้โดยเร็ว เพื่อร่วมกันหารือแนวทางความร่วมมือที่มีอยู่และความร่วมมือในสาขาใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยและเช็กมีความสัมพันธ์กันมายาวนาน โดยจะครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างกัน ในปี 2567 หวังว่า ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันกระชับความสัมพันธ์ และพัฒนาความร่วมมือเพื่อประโยชน์ร่วมกัน
ทั้งนี้ ผู้นำทั้งสองฝ่าย ยินดีที่มูลค่าการค้าระหว่างกันในปี 2564 สูงกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 26 เมื่อเทียบกับปี 2563 ซึ่งนายกรัฐมนตรี เชื่อว่า ทั้งสองฝ่ายยังมีศักยภาพที่จะสามารถเพิ่มพูนการค้าระหว่างกันได้อีกมาก พร้อมกล่าวเชิญชวนนักลงทุนเช็กเข้ามาลงทุนในเขต EEC ในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูง
นายกรัฐมนตรี ยินดีที่ไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวเช็ก โดยสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยมากขึ้น ผู้นำทั้งสองฝ่ายหวังว่าจะสามารถจัดการประชุมคณะอนุกรรมการด้านการท่องเที่ยวได้ในปีหน้า ส่วนความร่วมมือทางอวกาศ ไทยยินดีที่เช็กให้ความสำคัญกับความร่วมมือการทูตด้านอวกาศกับไทย (GISTDA) และได้ร่วมกันจัดงานสัมมนาด้านอวกาศ “The benefits of the EU Space Program and 3SOS” ที่กรุงเทพฯ ซึ่งจะมีส่วนสาคัญในการรับมือกับสภาวการณ์ความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศ
ทั้งนี้ ไทยพร้อมร่วมมือกับเช็ก และสหภาพยุโรปในการส่งเสริมความร่วมมือภายใต้ยุทธศาสตร์ฯ เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ภายใต้ค่านิยมและผลประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีเช็กก็พร้อมร่วมมือกับไทย เพื่อสร้างความพร้อมให้ภูมิภาคอย่างยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย