พรรคประชาธิปัตย์ 10 ต.ค. – ปชป.ตั้งกรรมการ 2 คณะเสริมแกร่ง ลุยพื้นที่ กทม. “ดร.เอ้” ดูนโยบาย – “มาดามเดียร์” ดูนวัตกรรมการเมือง “องอาจ” ไม่ขอประเมินได้กี่ที่นั่ง เพราะสนาม กทม. คาดเดายาก ไม่สนจีบคนพรรคอื่น ยกเว้นเดินเข้าพรรคเองและไม่รู้มีใครมาจีบคนของพรรคไปบ้าง
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ กทม.แถลงความพร้อมในเตรียมการเลือกตั้ง ส.ส.กทม. โดยประกาศตั้งคณะทำงานนโยบาย กทม.พรรคประชาธิปัตย์ โดยมีนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เป็นประธานจะจัดทำนโยบายของ กทม.ทั้งหมด และรับฟังข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับนโยบายจากนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิ ก่อนพิจารณาและนำเสนอประชาชน ซึ่งมั่นใจจะแก้ปัญหาประชาชนได้จริง และคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม. พรรค ประชาธิปัตย์ มีน.ส.วทันยา บุนนาค เป็นประธาน และจะทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลงในการขับเคลื่อนงานของ กทม. ซึ่งเชื่อว่านวัตกรรมการเมืองเป็นหัวใจสำคัญ
นายองอาจ ย้ำยุทธศาสตร์เลือกตั้ง กทม. ทั้งเรื่องเตรียมการเลือกต้้ง นโยบายให้ประชาชนตัดสินใจ และเตรียมว่าที่ผู้สมัครรับเลือกต้้ง ส.ส. กทม. แล้วจำนวนหนึ่ง เป็นผู้มีอุดมการณ์แนวทางการทำงานสอดคล้องกับพรรค เป็นผู้สมัครเดิมจำนวนหนึ่ง และคนรุ่นใหม่อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นคนที่พร้อมทำงานรับใช้ประชาชนในพื้นที่ แต่ทั้งนี้ตัองรอการแบ่งเขตให้ชัดเจน โดยพรรคจะพิจารณาว่าที่ผู้สมัครตามขั้นตอนของพรรคและไม่คิดจะไปจีบหรือวิงวอนคนนอกพรรคให้เข้ามาทำงานกับพรรค แต่ต้องแสดงเจตจำนงชัดเจนว่าต้องการร่วมงานกับพรรค ส่วนจะมีพรรคอื่นมาจีบผู้สมัครของพรรคหรือไม่ก็ไม่ทราบ
นายองอาจ ยอมรับว่า การเลือกตั้งในกทม. มีคุณลักษณะพิเศษแตกต่างจากที่อื่น มีการเปลี่ยนแปลงตลอด จึงเร็วเกินไปที่จะพูดถึงตัวเลขเป้าหมายที่นั่ง ส.ส. แต่ก็เชื่อมั่นว่าจะประสบความสำเร็จ
ส่วนที่นายนิพนธ์ บุญญามณี ผอ.เลือกตั้งพรรค ประเมินจะได้ ส.ส. กทม. 7-8 ที่นั่ง นายองอาจ กล่าวว่าเป็นการประเมินภาพรวม จากข้อมูลที่มีปัจจุบัน ซึ่งสามารถประเมินได้ แต่เมื่อมีข้อมูลใหม่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้นต้องทุ่มเท ทำงานหนัก และตอบโจทย์ประชาชน
ด้านนายสุชัชวีร์ กล่าวว่า ปัญหา กทม. เป็นรากลึกที่กระทบประเทศไทย และเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่ต้องผลักดันให้ได้รับการสนับสนุนในภาพใหญ่ของประเทศ ยืนยันพรรคตั้งใจทำนโยบายตอบโจทย์ประชาชนทำได้จริง ทันสมัย แก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง รองรับปัญหาในอนาคต ไม่ต้องกลับมาแก้ปัญหาซ้ำซากอีก
น.ส.วทันยา ระบุว่า นวัตกรรมเป็นเรื่องใหม่ แต่ในทางการเมืองคือการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน โดยภายใต้นวัตกรรม จะเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคต ส่วนตัวเคยประกาศไว้ว่าเข้ามาทำงานกับประชาธิปัตย์ จะเป็นส่วนเชื่อมโยง 2 เจนเนอเรชั่นคือรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่ เพื่อขับเคลื่อนพรรคให้ยั่งยืนและเข้มแข็งต่อไป.-สำนักข่าวไทย