กรุงเทพฯ วันนี้ ( 30 ก.ย.) “สติธร” ชี้คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้ “พล.อ.ประยุทธ์” ได้ไปต่อและครั้งหน้าจะยิ่งเนื้อหอม เพราะเป็นครั้งสุดท้ายและอยู่ได้เพียง 2 ปี ถือเป็นโอกาสให้คนอื่น และหาเสียงง่ายใช้วิธีแพ็คคู่
นายสติธร ธนานิติโชติ ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า กล่าวถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่าการดำรงตำแหน่งของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังไม่สิ้นสุดลง ว่าจากผลคำวินิจฉัยดังกล่าวทำให้พลเอกประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อได้ และการที่เหลือเวลาหลังหมดวาระอีก 2 ปี จะยิ่งทำให้พลเอกประยุทธ์เนื้อหอม เพราะจะเป็นมุมกลับ ที่จะเปิดโอกาสให้พรรคที่สนับสนุน จับมือกันหาเสียงแบบแพ็คคู่ เพราะเป็นการยืนยันว่าพลเอกประยุทธ์จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้อีกเป็นครั้งสุดท้าย มาอยู่แล้วไม่ครบเทอมแน่นอน และเชื่อว่าไม่มีผลต่อการหาเสียง เพราะตามรัฐธรรมนูญ พรรคการเมืองสามารถเสนอชื่อ นายกรัฐมนตรีได้ถึง 3 ชื่อ
“ก็หาเสียงกันตั้งแต่ต้นได้เลย และดีเสียอีก หากมองว่าพลเอกประยุทธ์มีจุดอ่อนด้านเศรษฐกิจ ก็อาจจะเอาคนที่เก่งด้านเศรษฐกิจมาหาเสียงคู่กันและทำงานเป็นทีม อาจจะทำให้พรรคการเมืองสนับสนุนพลเอกประยุทธ์มากกว่าเดิมด้วยซ้ำ หาเสียงคู่กันไปขายคู่ทั้งลุงตู่ลุงป้อม ผมว่าพลเอกประยุทธ์จะเนื้อหอมกว่าเดิม” นายสติธร กล่าว
ส่วนกรณีที่มีคนเห็นต่างจะทำให้เกิดการประท้วงรุนแรงหรือไม่นั้น นายสติธร กล่าวว่าสถานการณ์และบรรยากาศทางการเมืองในขณะนี้ เชื่อว่าปลุกม็อบยาก เพราะพรรคการเมืองนักการเมืองและกลุ่มพลังทางสังคม น่าจะมองการเลือกตั้งครั้งหน้าเป็นหมุดหมายในการต่อสู้ทางการเมืองมากกว่า และอาจจะมองว่าเรื่องวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปีจะล้มรัฐบาลได้จริงหรือ เพราะไม่ใช่เรื่องของการทุจริต จึงไม่น่าจะสร้างอารมณ์ ให้คนโกรธเคืองมาขับไล่ได้ และก่อนหน้านี้มีประเด็นอื่นซึ่งรุนแรงกว่านี้ยังไล่ไม่ได้ ดังนั้นเชื่อว่าฝ่ายที่ไม่ชอบรัฐบาล หวังจะชนะในสนามเลือกตั้งมากกว่า.- สำนักข่าวไทย