ทำเนียบรัฐบาล 12 ก.ย.- “วิษณุ” ขอทุกฝ่ายรอศาลรัฐธรรมนูญชี้แจง ปมวาระ 8 ปี นายกรัฐมนตรี ย้ำไม่ต้องเตรียมการอะไรพิเศษ เพราะมีทางออกของทุกเรื่องอยู่แล้ว ปัดตอบความเห็นอดีตตุลาการ เริ่มนับวาระปี 62
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตั้งคณะกรรมการกฤษฎีกาพิเศษขึ้นมาพิจารณาปมวาระดำรงตำแหน่ง 8 ปี นายกรัฐมนตรี โดยเป็นการวิจารณ์ว่าเป็นเรื่องที่ขัดต่อหลักการทำงานของกฤษฎีกาหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยนายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ขัด เพราะไม่ใช่เรื่องส่วนตัว นายกรัฐมนตรีเป็นตำแหน่งของทางราชการที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เมื่อมีปัญหาก็ต้องถือว่าเป็นปัญหาของประเทศ
เมื่อถามว่าในโลกออนไลน์มีการตั้งคำถามถึงคำว่า นายกรัฐมนตรีขาดตอนคืออะไร นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่ขอตอบ ขอให้รอฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีตามบทเฉพาะกาลต้องใช้มาตรา 264 ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ใช่ ขอร้องสื่ออย่ามาถามคำให้การของผู้ชี้แจง เพราะคำชี้แจงอาจจะถูกบ้าง จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง เพราะเป็นการตอบไปตามประเด็นที่ผู้ร้องได้ตั้งประเด็นเอาไว้ก่อน สุดท้ายจะฟังขึ้นหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งศาลอาจทิ้งประเด็นต่างๆ ก็ได้ และบางประเด็นที่มีการให้การกลับไปที่ศาล ผมยังไม่เห็นด้วยที่ยังจะต้องตอบ แต่ทีมกฎหมายเห็นว่าให้ตอบหมดทุกข้อ
เมื่อถามว่า เรื่องที่ไม่ควรตอบคืออะไร นายวิษณุ กล่าวว่า ก็เช่นเรื่องนี้ เคยมีคำวินิจฉัยออกมาแล้ว ซึ่งไม่ตรงกับสิ่งที่เขาถามจะชี้แจงทำไม แต่การชี้แจงอย่างมากก็ทำให้เสมอตัวไม่ขาดทุน อย่างไรก็ตามขอให้ทุกฝ่ายรอฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญดีกว่า ไม่มีประโยชน์ที่จะนำมาวิพากษ์วิจารณ์อะไร
เมื่อถามถึงการที่ศาลฯจะนัดอีกครั้งในวันที่ 14 กันยายนนี้ นายวิษณุ ระบุว่า ไม่แน่ใจว่าวันที่ 14 กันยายน จะวินิจฉัยเลยหรือไม่
เมื่อถามต่อว่า เตรียมทางออกหลังคำวินิจฉัยไว้อย่างไรบ้าง นายวิษณุ ยืนยันไม่มีการเตรียม เพราะหากวินิจฉัยว่า วาระ 8 ปี ยังไม่เริ่มนับตั้งแต่ ปี 2557 พล.อ.ประยุทธ์ สามารถกลับมาทำงานได้ในวันรุ่งขึ้น แต่หากศาลระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2557 พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ต้องกลับมาทำหน้าที่ ถือว่าพ้นจากตำแหน่งไป และจะกระทบกับคณะรัฐมนตรีถือว่าต้องสิ้นสุดลงด้วย แต่สามารถทำหน้าที่รักษาการต่อไปได้ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็สามารถทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีได้ แต่ก็ไม่ควร และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นั่งรักษาราชการแทนต่อไปจนกว่า นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาจะเรียกประชุมสภาหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ และระหว่างนั้นจะไม่มีอะไรเป็นโมฆะ
เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร มีอำนาจที่จะยุบสภาได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตอบเป็นครั้งที่ 9 ว่าทฤษฎีมีแต่ทางปฏิบัติไม่ใช่เรื่องง่าย เช่นเมื่อสมัยพฤษภาทมิฬ พล.อ.สุจินดา คราประยูร นายกรัฐมนตรีลาออก รองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นก็รักษาการ ซึ่งจากนั้นสภาก็ได้หานายกฯ คนใหม่ คือ นายอานันท์ ปันยารชุน นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น มายุบสภา ซึ่งการยุบสภาต้องคำนึงถึงความเหมาะสมหลายอย่าง
เมื่อถามว่าวันหยุดที่ผ่านมาได้พบกับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญบ้างหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ได้พบ แต่ไม่ได้คุย และไม่จำเป็นต้องคุย
นายวิษณุ ยังย้อนถามสื่อมวลชนว่า “พวกคุณไม่สงสัยบ้างหรือว่า ผมใกล้ชิดกับคุณปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขานุการคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญในขณะนั้น ซึ่งทั้งคู่ต้องชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ เหตุใดจึงสนใจว่านายมีชัย จะตอบอะไร และไม่สนใจว่านายปกณ์จะตอบอะไร”
เมื่อถามกลับว่า ได้คุยกับนายปกรณ์หรือไม่ นายวิษณุ ระบุว่า “ผมไม่ตอบ”
เมื่อถามว่ามีความเห็นจากอดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญระบุว่า นายกรัฐมนตรี เริ่มนับการดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี 2562 นายวิษณุ ถามกลับว่า ใครคืออดีตตุลาการ สุดท้ายก็เป็นเรื่องที่เขาเล่ากัน ดังนั้นตนไม่ตอบ ขอให้รอ เพราะศาลจะตัดสินในเรื่องนี้อยู่แล้ว ไม่มีอะไรต้องเตรียมตัวเตรียมใจใดๆทั้งสิ้น
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงว่าจะนำคนที่รักกลับบ้าน นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนไม่ได้เป็นคนพูด ซึ่งคนที่คิดว่าจะเอากลับคงคิดได้ว่ามีปัญญา.-สำนักข่าวไทย