กกต. 5 ก.ย.- “ศรีสุวรรณ” แจง กกต.ส.ส.รับกล้วยหอบหลักฐานสลิป 6 ส.ส.รับเงินตั้งแต่ปี 62 -65 ให้กกต.สอบเส้นทางการเงิน ยืนยัน หนาวทั้งกระบวนการ คนให้-คนรับ
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เผย ว่าวันนี้ได้เข้าให้ถ้อยคำประกอบคำร้องกรณีร้องเรียนให้ กกต.ดำเนินการไต่สวนสอบสวนเอาผิด ส.ส.พรรคเล็กรับเงินนอกเหนือจากเงินเดือน โดยได้นำหลักฐานเพิ่มเติมเป็นสลิป การโอนเงินและรับเงิน ทั้งจากผ่านทางเอทีเอ็มและสลิปที่โอนผ่านมือถือ โอนจากแบงก์ไหนไปเข้าบัญชีใครบ้าง ชี้ให้เห็นเส้นทางการเงิน ซึ่งปรากฏชื่อชัดเจนทั้งคนโอนและคนรับเงิน ทั้งนี้ ทาง กกต.มีอำนาจที่จะแจ้งไปยังสถาบันการเงินเพื่อให้ยืนยันการทำธุรกรรมทางการเงินว่าเป็นไปตามพยานหลักฐานที่สมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยร้องต่อ กตต.หรือไม่
นายศรีสุวรรณ ยืนยันว่า หลักฐานที่นำมายื่นเพิ่มเติมต่อ กกต.ในวันนี้ มีหนาวกันทั้งขบวนอย่างแน่นอน โดยข้อมูลที่นำมายื่นต่อกกต.ก็เป็นบุคคลที่ปรากฏชื่อตามข่าวแล้ว และหลักฐานที่นำมายื่นต่อ กกต.วันนี้เป็นหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ส.ส.พรรคเล็กจำนวน 6 คน ซึ่งเป็นบุคคลที่มีชื่อปรากฏเป็นข่าวและออกมาให้สัมภาษณ์แล้ว เป็นข้อมูลโอนเงินรับเป็นรายเดือนตั้งแต่ปี 2562 จนกึงกรกฎตาม 2565 ก่อนที่จะปรากฏเป็นข่าว โดยรับเงินเป็นรายเดือน ซึ่งจากการดูหลักฐานส่วนใหญ่เป็นบัญชีชื่อเดียว แต่ก็มีบัญชีอื่นด้วยอาจใช้หลายบัญชีในการโอน
“ผมว่า หนาวทั้งกระบวนกันหมด แม้ว่าการแก้ไขกฏหมายเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งส.ส.บัญชี 100 หรือ 500 ซึ่งสุดท้ายอาจจะเหลือ 100 ก็ได้ อาจจะทำให้พรรคการเมืองขนาดเล็ก หรือขนาดจิ๋ว หรือขนาดอะไรต้องไปยุบรวมกับพรรคใหญ่ แต่กรณีนี้เป็นการกระทำความผิดเฉพาะตัว ดังนั้น ไม่ว่าบุคคลดังกล่าวจะยุบรวมไปอยู่ที่พรรคไหนก็ตาม แต่ถ้าสุดท้าย กกต.วินิจฉัยส่งศาล ซึ่งไม่ว่าคุณจะไปอยู่พรรคไหนก็แล้วแต่ และศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตัดสิทธิ์ทางการเมือง บุคคลดังกล่าวก็จะหมดสิทธิ์ลงเลือกตั้ง” นายศรีสุวรรณ กล่าว
เมื่อถามกรณีที่บุคคลทั้ง 6 คน ลาออกจากสมาชิกพรรคการเมืองเดิมแล้วไปสมัครสมาชิกพรรคการเมืองอื่น โดยที่ไม่ได้มีการยุบรวมพรรค นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า สามารถทำได้แต่ย้ำว่าเรื่องนี้เป็นความผิดเฉพาะตัว ดังนั้นไม่ว่าบุคคลนั้นจะย้ายไปพรรคใด เมื่อ กกต.และศาลวินิจฉัยแล้ว ก็ต้องจบตรงนั้นทันที.-สำนักข่าวไทย