รัฐสภา 5 ก.ย.- ‘สุทิน’ ชี้พอมีหวัง ปิดสวิตช์ส.ว.เลือกนายกฯ ‘วิปฝ่ายค้าน’ ซุ่มทำการบ้านอภิปรายร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 5 ฉบับประชุมร่วมรัฐสภา 6-7 ก.ย. ลากยาวถึงเที่ยงคืน
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมฝ่ายค้าน เปิดเผยก่อนประชุมวิปฝ่ายค้านว่า ที่ประชุมจะหารือเรื่องระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันที่ 6-7 ก.ย. ซึ่งจะมีการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เสนอโดยหลายฝ่าย ว่าเนื้อหาสาระและทิศทางจะเป็นอย่างไร การจัดสรรเวลาและผู้อภิปราย รวมถึงประเด็นที่ควรจะต้องอภิปรายกัน ซึ่งร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม มีทั้งหมด 5 ฉบับ ได้แก่ ร่างฯ แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 272 เสนอโดยนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 64,151 คน ร่างฯ แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 120 เสนอโดยนายวิรัช พันธุมะผล ส.ส. ภูมิใจไทย กับคณะ ส่วนที่เสนอโดยพรรคเพื่อไทย มีทั้งหมด 3 ฉบับ ได้แก่ 1. ร่างฯ แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 43 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว กับคณะ เป็นผู้เสนอ 2. ร่างฯ เพิ่มมาตรา 25 วรรคห้า แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 29 เพิ่มมาตรา 29/1 แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 34 มาตรา 44 มาตรา 45 มาตรา 47 และมาตรา 48 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว กับคณะ เป็นผู้เสนอ 3. ร่างฯ แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 159 วรรคหนึ่ง และมาตรา 170 วรรคสอง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว กับคณะ เป็นผู้เสนอ ซึ่งเกี่ยวข้องกับที่มาของนายกรัฐมนตรีจากการเลือกโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น ตลอดจนการตัดอำนาจสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในการร่วมเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งสอดคล้องกับร่างฯ ที่เสนอโดยนายสมชัย และคณะ
นายสุทิน กล่าวต่อว่า ในวาระการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 5 ฉบับนั้น จะเป็นการรวมพิจารณาและอภิปรายพร้อมกันทั้ง 5 ฉบับ และจะลงมติแยกกันทีละฉบับ โดยคาดว่าจะใช้เวลาประชุมถึงเวลา 24.00 น. ของทั้งวันที่ 6 ก.ย. และ 7 ก.ย.
นายสุทิน กล่าวถึงแนวโน้มการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า เคยเสนอกันมาหลายเที่ยวแล้ว แต่ที่ผ่านมาไม่สำเร็จ ซึ่งเราเชื่อว่า กาลเวลาที่ผ่านมา สมาชิกรัฐสภาโดยเฉพาะส่วนที่เห็นต่างนั้นจะได้ฟังเสียงประชาชนมากขึ้น และจะเห็นความจำเป็นที่จะต้องแก้ เราก็มีความหวังมากกว่าเดิม แม้จะล้มเหลวมา แต่เชื่อว่าเสียงประชาชนคงจะมีความหมายมากขึ้น
เมื่อถามว่า ส.ว.จะเห็นชอบกับการตัดอำนาจ ส.ว. ได้หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า พูดตามหลักแล้วก็ยาก ที่จะให้เขาตัดอำนาจตัวเอง แต่เขาอาจจะคิดได้ว่าจวนจะหมดวาระไปแล้ว อีกประการคือมี ส.ว.ไม่น้อยที่เห็นควรว่า ตัดอำนาจข้อนี้ออก จากเหตุปัจจัยทั้งสถานการณ์และบริบท จึงจะมีความหวังมากขึ้น
เมื่อถามต่อว่า การวินิจฉัยวาระดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะมีผลต่อการอภิปรายหารือหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า มี ส่วนประเมินว่าคำวินิจฉัยออกมาเมื่อใด นายสุทิน กล่าวว่า พูดยาก สุดจะคำนวณได้ แต่คาดว่าน่าจะภายในเดือน ก.ย. เพราะมีแค่ 2 มาตรา และด้วยปัญหาสังคม ประเด็นนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน เชื่อว่าศาลคงจะไม่ปล่อยให้ยืดเยื้อ.-สำนักข่าวไทย